ทหารแก่ไม่เคยตาย..
ถ้าไม่มีป้ายบอกผมก็คิดเพียงว่าพ่ออุ้ยท่านนี้คือชายชราคนหนึ่งที่พิการมาขายสลากกินแบ่ง เพื่อหารายได้ให้กับชีวิตและครอบครัว ที่หน้าวัดที่มีชื่อเสียงแห่งนี้มักมีคนมากราบไหว้พระมากเป็นประจำ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนักเสี่ยงโชค หรือเรียกอีกทีคือเป็นตลาดของผู้ซื้อ-ขายสลากกินแบ่งนั่นเอง
อุ้ยท่านนี้ไม่ธรรมดา แม้ว่าอายุท่านจะผ่านเก้าสิบปีมาหลายร้อนหลายหนาวแล้ว ยังแข็งแรงคำพูดกระฉับกระเฉงแม้จะสูญเสียสายตาไปหมดสิ้น เพราะป้ายบนแผงสลากกินแบ่งได้บอกคร่าวๆถึงสถานะของอุ้ยท่านนี้ และตั้งคำถามเดียวเท่านั้นก็พอเข้าใจว่าท่านคือใคร
ผมขนลุกเลยเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าอดีตที่เป็นประวัติศาสตร์ประเทศไทยที่มีอุ้ยท่านนี้เป็นตัวนำเรื่อง ผมเห็นว่าท่านคือสมบัติสังคมเราด้านประวัติศาสตร์ ท่านคือสมบัติบุคคลของประเทศชาติ ท่านเป็นประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและอื่นๆอีกหลายอย่าง หากโรงเรียนนายทหารมาเอาตัวท่านไปเล่าประวัติศาสตร์การสู้รบสมัยนั้นให้ฟังก็น่าจะเป็นบทเรียนและรายละเอียดต่างๆของวงการให้เรียนรู้กัน
หากนักประวัติศาสตร์เอาตัวท่านไปบันทึกรายละเอียดของสงคราม วิถีชีวิต สภาพสงครามและรายละเอียดอื่นๆก็จะเกิดประโยชน์
หากคุณครูจะเชิญท่านไปเล่าสภาพสังคมแห่งอดีตให้นักเรียนรุ่นหลานแหลนได้ยินได้ฟัง สำเหนียกในรากเหง้าของบรรพบุรุษและท้องถิ่น ก็จะเป็นการสร้างทุนทางสังคมอีกทางหนึ่ง เกิดความตระหนัก รักยิ่งต่อถิ่นฐานและเคารพต่อบรรพบุรุษที่ใช้ชีวิตปกป้องแผ่นดินให้เราได้เฉิดฉายในปัจจุบัน
ทำไมเราลืมประวัติศาสตร์บุคคล
ทำไมเราลืมประวัติศาสตร์อดีตสังคมไทยที่มีชีวิต
ทำไมเราลืมประวัติศาสตร์ประเทศชาติที่ทหารสงครามโลกครั้งที่สองท่านนี้ยังมีชีวิตอยู่
ทำไมประเทศชาติทิ้งขว้างบุคคลผู้สร้างประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิตท่านนี้
และท่านอื่นๆ….
เราคิดอะไรกัน ทำอะไรกันอยู่หรือ…
« « Prev : สิ่งที่ตกอยู่กลางห้องประชุม..
3 ความคิดเห็น
พ่ออุ้ยท่านอยู่ที่ไหนเหรอคะคุณบางทราย
บางทีถ้าได้กลับบ้าน จะได้แวะไปนั่งคุยกับท่านค่ะ
ที่สำคัญคือทำไปปล่อยให้ทหารผ่านศึก ปกป้องชาติ ต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้ ส่วนทหารไม่ผ่านศึกเดินพุงโต ตีกอล์ฟกันทั้งวัน จากนั้นออฟแคดดี้ ขยี้ฟองเบียร์
ผมเพียงตั้งประเด็น และปลดปล่อยออกมาเป็นตัวอักษรครับอาจารย์ ผมฝึกการมอง “เห็นคนในคน” และเมื่อเห็นเช่นนั้นผมก็รู้สึกมีคำถามออกมาดังที่เขียนนั่นแหละครับ อาจารย์ครับ