คนเลี้ยงไก่
ระหว่างนี้มีภาระกิจที่ติดพันให้หยิบหมวกคนเป็นครูมาสวม สืบเนื่องจากนักเรียนแพทย์ต่างชาติที่เคยมาขอเป็นลูกศิษย์ชอบใจกับวิธีที่ฝึกให้เขาเรียน ขอกลับมาเป็นลูกศิษย์อีกรอบ
ก็พอดีกับได้รับของขวัญชิ้นเล็กๆจากคน ๒ คนที่เป็นที่รักมาพร้อมกัน คนเป็นน้องส่งอีเอ็มที่คัดสายพันธุ์แล้วมาให้ คนเป็นเพื่อนส่งบทความสำหรับสะกิดให้หันมามองตัวเองมาให้
ของขวัญชิ้นเล็กๆที่เพื่อนรักส่งมาให้นั้นเห็นว่าเหมาะสำหรับใช้เรียนจิตตปัญญาศึกษาได้ง่ายดี จึงนำมาแบ่งปันกัน เป็นธรรมะจากหลวงพ่อชาค่ะ
มีคนเลี้ยงไก่ 2 คน
คนที่ 1 ทุกเช้าจะเอาตะกร้าเข้าไปในโรงเรือนเลี้ยงไก่
แล้วก็ เก็บ “ขี้ไก่” ใส่ตะกร้ากลับบ้าน!! แล้วทิ้งไข่ไก่ ให้เน่าไว้ในโรงเรือน
เมื่อเขาเอาขี้ไก่กลับถึงบ้าน ทั้งบ้านก็เหม็นหึ่ง ไปด้วยกลิ่นขึ้ไก่ !!!
คนทั้งบ้านต้องทนกับกลิ่นเหม็น!!!
คนเลี้ยงไก่คนที่ 2 เอาตะกร้าเข้าไปในโรงเรือนเลี้ยงไก่
เก็บไข่ไก่ใส่ตะกร้าเอากลับบ้าน เขาเอาไข่ไก่ลงเจียว กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบ้าน
คนทั้งบ้านได้กินไข่เจียวแสนอร่อย ไข่ไก่ที่เหลือเขาก็เอาไปขาย แล้วได้เงินมาใช้จ่ายในบ้าน
ทุกคนในบ้านมีความสุขมาก…..
ในชีวิตของเรา พวกเราจะเลือกเป็นคนเก็บ “ไข่ไก่ ” หรือ เก็บ”ขี้ไก่”
เราเป็นคนเก็บ “ขี้ไก่” โดยเฝ้าแต่เก็บเรื่องร้ายๆ แย่ๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเราไว้ในหัวของเรา
และมีความทุกข์ตลอดเวลาที่คิดถึงมัน!!!
หรือเราเป็นคนที่เก็บ”ไข่ไก่” เราจดจำสิ่งที่ดีๆที่เกิดในชีวิตของเรา
และมีความสุขทุกครั้งที่คิดถึงมัน!!
คนเราส่วนใหญ่ชอบเป็นคนเก็บ ” ขี้ไก่”
เราถึงต้องเป็นทุกข์ตลอดเวลา เรื่องความเสียใจ ความผิดพลาด ความเจ็บใจฯลฯ
มักจะติดอยู่ในใจของเรานานเท่านาน
ถ้าเราอยากมีความสุขในชีวิต เลือกเก็บ”ไข่ไก่” กับชีวิต
ทิ้ง “ขี้ไก่” ไปเถอะ
ชีวิตของเราจะได้มีความสุขซักที…
« « Prev : ตามลม(๒๑) : ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นที่อับอากาศได้
Next : เรียนต่อจากเรื่อง “เสียหมา” » »
4 ความคิดเห็น
ชอบเก็บไข่ไก่มาเจียวกิน แต่ก็ชอบเก็บเรื่องร้ายๆไว้ ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สา ธุ
ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ
หมออย่าเพิ่งด่วนสรุปสิครับ
คนเก็บขี้ไก่นั้นเขาอาจปิดทองหลังพระ ยอมเหม็นเพื่อให้ไก่และคนเก็บไข่ไก่ได้สบาย ไม่ต้องทนเหม็น ก็เป็นได้นะหมอเจ๊
ว่าแต่ว่าจะให้ผมไปเก็บน้ำเน่า มีเทน ลมร้อน ที่โรงพักไข้ได้ไหมในช่วงที่บอกไว้ จะได้เตรียมแผน วันนี้ก็เพิ่งไปช่วยโรงงานอาหารระบายอากาศ เหม็นจะแอ้ก(ตวก) แต่ก็ต้องไปตามหน้าที่
# 1 ถ้ามองขี้ไก่ให้ลึก ในเชิงวิทยาศาสตร์ มันก็มีบวกมีลบ ถ้ารู้จักใช้ประโยชน์ทั้งบวกและลบได้สมดุล มันก็มีดีของมัน
หัวใจสำคัญของคำสอนนี้ ก็เพื่อให้มองเห็นว่าการใช้ประโยชน์เสียดุล หรือได้ดุล ซะมากกว่าเจตนาอื่นใดนะพี่
#2 เรื่องง่ายๆนี้ทำให้เอะใจ และหันมามองเห็นตัวเอง ได้ง่ายดีนะคะ คุณพุดตาล
#3 ตัวอย่างที่อาจารย์ยกมานั้น เป็นตัวอย่างของคนฉลาด ที่รู้ว่าควรทำอย่างไร ผลสมดุลทุกด้านจึงเกิดขึ้นได้
คำสอนง่ายๆอย่างนี้ เหมาะสำหรับคนส่วนมากที่ยังไม่ฉลาดแหละค่ะอาจารย์
คำตกลงบอกผ่านคำขอบคุณที่รับเป็นที่ปรึกษาไปแล้วนะคะอาจารย์ สำหรับเดือนที่อาจารย์กำหนดไว้ก็โออยู่นะคะ
แต่การเดินทางไปแต่ละที่ต้องการเวลา ที่อาจารย์บอกว่าจะไปพัทลุง อาจารย์จะผ่านมากระบี่ก่อนหรือไปพัทลุงก่อน แล้วสุดปลายทางคราวนี้อาจารย์จะลงไปใต้สุดถึงไหน
ทราบเส้นทางเดินทางของอาจารย์แล้ว จะขออนุญาตเพิ่มเติมข้อมูลบางส่วนให้เพื่อการจัดการกับตารางเวลาในช่วงที่อยู่ที่ใต้ให้สมประโยชน์ตามความตั้งใจของอาจารย์ด้วยค่ะ