เรื่องสะท้อนใจ

โดย สาวตา เมื่อ 6 กันยายน 2008 เวลา 10:25 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, วงแม่พิมพ์, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1222

เคยมั๊ยที่เวลาไปคุยกับใครแล้วถามข้อสงสัยในขณะที่ในใจคาดหวังคำตอบที่มีคำอธิบายให้เกิดความเข้าใจได้กระจ่าง แล้วปรากฎว่า คนตอบคำถามเขาบอกว่า เขารู้แต่ว่ามันให้ผลอย่างนี้ แต่อธิบายไม่ได้หรอกว่าที่มาที่ไปอย่างไร แล้วเราก็มีคำในใจขึ้นมาว่า ตอบแบบกำปั้นทุบดินอ่ะค่ะ

วันก่อนฉันมีโอกาสได้คุยกับอสม.กลุ่มหนึ่งซึ่งมีจิตอาสาเข้ามาช่วยดูแลคนในร.พ.ค่ะ เขากำลังคุยกันเรื่องการเรียนเลขคณิตของหลานๆกันอยู่ มีคนหนึ่งเล่าขึ้นมาว่า เพื่อนของหลานเขาคนหนึ่งคิดเลขได้เร็วมากๆ จนได้รับการคัดเลือกเข้าไปแข่งคณิตศาสตร์โอลิมปิกชนะ แต่เวลากลับมาเรียนที่โรงเรียนกลับได้คะแนนคณิตศาสตร์ต่ำที่สุดในชั้นเรียน

ในเวลาเรียนนั้นเล่า เมื่อครูเริ่มให้โจทย์เลข พอครูเขียนโจทย์เสร็จลง เด็กคนนี้ก็จะลุกออกไปจากห้องบ่อยๆ แล้วก่อนจะออกจากห้องน้องเขาบอกกับเพื่อนว่า ข้อนี้มีคำตอบอย่างไร

ทุกครั้งไปที่เขาทำเยี่ยงนี้ ครูที่สอนเลขอยู่จะเกิดความไม่พอใจและต่อว่า เอ๊ะ เธอนี่ทำไมไม่ตั้งใจเรียนนะ

พอครูไปเห็นคำตอบที่เด็กบอกกับเพื่อนไว้ ครูนั้นอึ้งไปเป็นครู่ แล้วซักถามเด็กว่า ไหนเธอแสดงวิธีทำให้กับครูหน่อยซิ ว่าได้คำตอบออกมาได้อย่างไร

เด็กก็ตอบครูว่า “ผมไม่รู้จะอธิบายทีละขั้นตอนให้ครูได้อย่างไร ผมรู้แต่ว่า พอผมเห็นโจทย์สมองผมมันบอกผมทันทีว่า คำตอบคือเลขตัวนั้นตัวนี้ ทุกทีไปครับ”

เด็กคนนี้เรียนอยู่ชั้นประถมต้นเองค่ะ  ท่านฟังเรื่องเล่านี้แล้ว ท่านว่ามันสะท้อนให้รับรู้และเรียนรู้อะไรบ้างค่ะ

ดอกหญ้า

« « Prev : ของฝากที่ได้มาโดยบังเอิญ

Next : เอาไว้เตือนใจ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 Sasinand ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 กันยายน 2008 เวลา 12:06

    ถ้าเป็นจริง ตามที่ อสม.เนึ่ล่ามา
    ก็แสดงว่า เ ด็กคนนั้น มีสมองที่ดีมาก มีสมาธิดี แผละข้อสำคัญเขาชอบคณิตศาสตร์
    เพราะเป็นวิชาที่มีหลักการและเหตุผล ฝึกให้ได้คิดวิเคราะห์
    แต่คงจะเป็น การเก่งเฉพาะตัว แต่ยังไม่สามารถ อธิบายให้คนอื่นข้าใจ เป็นขั้นเป็นตอนได้
    แถมชอบออกไปนอกห้อง ครูเลยไม่ชอบ หาว่า ไม่มีระเบียบ ไม่มีวินัย คะแนนจิตพิสัย อาจจะเป็น 0
    จริงๆ ถ้ามีเด้กเก่งอย่างนี้ ครูต้องดีใจ และหาทางให้เขา มาช่วยครู ในการช่วยติวให้เพื่อนๆได้
    คือ สรุปว่า ครูอาจใจแคบไปนิด และไม่ใช้จิตวิทยาที่ถูกต้องกับเด้กคนนี้ค่ะ

    คุณหมอคะ พี่ก็มีcaseแบบนี้ค่ะ คือลูกชายพี่เอง โดนครูตีบ่อยๆตอนเ ด็กๆเพราะชอบชวนเพื่อนคุย ครูถามว่า ทำไมชานเพื่อนคุย ลูกบอกว่า ก็ทำเสร็จแล้ว ไม่รู้จะทำอะไรนี่
    ครูเชิญพี่ไปพบ ว่า ลูกพี่มีปัญหา
    พี่กลับมาคุยกับลูกว่า แม่ขอร้องนะลูก ถ้ารักแม่ ต้องเชื่อแม่ เราทำงานที่ครูสั่งเสร็จแล้ว ก้อย่าชวนเพื่อนคุย เอาหนังสือขึ้นมาอ่าน ทำได้ไหมจ๊ะ เขาก็รับปาก แต่ก็ทำไม่ได้ 100%เขาบอกว่า เขาเบื่อค่ะ

  • #2 Sasinand ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 กันยายน 2008 เวลา 12:41

    ขออภัย พิมพ์ผิดเรื่อยค่ะ เพราะ ไปใช้ Browser ของ Google Chrome ใช้กับภาษาไทย ไม่ค่อยดี กระโดดเรื่อย ของ Microsoftดีกว่าอยู่ ตอนนี้
    แต่ที่ลูกพี่โดนตี ก็ไม่มากหรอกค่ะ แค่ ตีแบบรำคาญๆจากครูเท่านั้น ยังไงร.ร.ที่เขาอยู่ตอนเด็กๆก็ ดีค่ะ ร.ร.เซ็นต์คาเบรียลค่ะ ร.ร.เขาใช้ได้เลยค่ะ

  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 กันยายน 2008 เวลา 13:21

    บันทึกนี้ทำให้เห็นว่าคนเรามีความแตกต่าง ควรยอมรับความแตกต่างและจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับความถนัดและความสามารถของด็ก

    การศึกษาบ้านเรายังไม่พร้อมกับเรื่องแบบนี้ เลยทำให้มีความพยายามที่จะเอากรอบมาครอบให้เด็กทุกคนอยู่ในกรอบที่ต้องการ

    ถ้าเข้าใจเรื่องนี้ดี ยอมรับความแตกต่าง ก็จะช่วยกันพัฒนาเด็ก จัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับเด็ก

    วันนี้อ่านรายงานการวิจัย ภาคีบ้านเรียน การจัดการศึกษาร่วมกันระหว่างครอบครัว สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และเครือข่าย พอดี เด็กบางคนมีปัญหาแบบนี้ ทำให้ผู้ปกครองต้องหันมาใช้ Home School อิอิ

    แถมอีกหน่อย การได้คำตอบมาอาจมีได้หลายวิธี หลายแนวทาง

    บางคนปฏิบัติแล้วปิ๊ง คลิก แต่อธิบายคนอื่นไม่ได้ แต่บอกแนวทางได้ ถ้าเราหลุดกรอบ อาจเข้าใจอะไรได้ง่ายขึ้น รึเปล่า ?

  • #4 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 กันยายน 2008 เวลา 18:14

    #1 #2 หมอเจ๊ว่าเด็กคนนี้คงเป็นคนที่มีความคิดวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งมากค่ะพี่ และเขารู้จักวิธีสรุปรวบยอดให้ได้วิธีที่ยอดเยี่ยมด้วยนะนี่นะ หากแต่เพราะสิ่งแวดล้อมที่เขาอยู่ไม่เปิดโอกาสฝึกให้เขากล้าเล่าบอกความในใจแบบธรรมชาติที่เขามีเขาเป็น แบบเด็กๆนะค่ะ เขาจึงไม่กล้าบอกครูในสิ่งที่เขาคิด เพราะในกรอบการสอนเลขในโรงเรียน จะได้คะแนนก็ต่อเมื่อ ทุกขั้นตอนที่ทำส่งจะต้องเหมือนที่แม่พิมพ์บอกแนวทางไว้ชัดเด๊ะเลยจึงจะได้คะแนน

    เด็กเขาไม่รู้จะอยู่ในห้องทำไมนี่ค่ะ ก็สิ่งที่เขาต้องเรียน เขารู้แล้วนี่ค่ะ เขาก็เลยเดินออกไปเพื่อเรียนรู้เรื่องอื่นๆค่ะ เขาไม่ได้ตั้งใจว่าจะไม่อยู่ในกรอบระเบียบหรอกค่ะ พลังที่เขามีอยู่ต่างหากที่ผลักดันให้เขาออกไปเรียนรู้ในสิ่งที่เขาอยากรู้อีก จะไปตีเขาทำไมกัน ก็แค่รับรู้และเข้าใจ ให้งานใหม่เขาก็พอแล้ว เขาจะได้ใช้เวลากับงานใหม่ในห้องเรียนต่อได้

    คนเป็นครู เป็นแม่ พ่อ เหมือนกับจ๊อกกี้เลยนะค่ะ ต้องรู้ใจของม้า จึงจะทำให้ม้าดี เป็นม้าแข่งชั้นดี ชั้นยอด

  • #5 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 กันยายน 2008 เวลา 18:21

    #3 ตัวน้องก็ได้ข้อสะท้อนใจเหมือนกับที่พี่บอกเลยค่ะ แล้วก็มีคำถามในใจว่า การไม่ติดกรอบนั้น หาไม่ได้ในพื้นที่รั้วโรงเรียนเลยหรือนี่

  • #6 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 12 กันยายน 2008 เวลา 0:52

    บางทีคนที่เรียนรู้มาด้วยตัวเอง ก็อธิบายให้คนอื่นฟังยากครับ เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าคนอื่นไม่รู้อะไร เกือบทุกอย่างสำหรับเขาเป็นเรื่องธรรมดาไปหมด เมื่ออยากรู้อะไรที่ไม่รู้ ก็ไปค้นคว้าสังเกตแลกเปลี่ยนเรียนรู้มาเองนะครับ กับคนประเภทนี้ ถ้าตั้งคำถามเป็นจะได้ประโยชน์มากครับ

  • #7 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 13 กันยายน 2008 เวลา 11:27

    #6 ใช่ค่ะ ใช่เลย พอเชี่ยวชาญแล้วเขาก็จะบอกเล่าออกมาได้ ถ้าป้อนคำถามให้เป็น

  • #8 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 7:08

    เป็นครูนั้นยาก
    เป็นนักเรียนก็ยาก
    ถ้าไม่มีจุดเอื้ออาทรระหว่างกัน

  • #9 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 10:28

    #8 คนที่ควรเริ่มให้ความเอื้ออาทรก่อนน่าจะเป็นใครค่ะพ่อครู


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.10211682319641 sec
Sidebar: 0.58288598060608 sec