น้ำท่วม (๔)

อ่าน: 1415

ตื่นเช้ามาด้วยความรู้สึกว่าร่างกายโอเค จิตใจโอเค แต่ก็เหมือนไม่แจ่มใส แวบแรกของความคิดที่แล่นก็คือเช็คงานกับลูกน้องต่อวันนี้ควรทำอะไร หาโทรศัพท์ได้ก็โทรไปคุย เสนองานไปว่าจัดทีมออกไปศูนย์ให้อีกครั้ง ก็ได้รับข่าวตอบว่าเตรียมการจะออกไปตั้งหน่วยรับตรวจชาวบ้าน ประสานงานขอรถเพื่อขนทีมไว้แล้วตั้งกะเมื่อคืน ในใจนึกว่าอื้อหือ ไวกันจริงๆ

ฟังต่อว่ามีเรื่องอะไรเล่าต่อมาอีก ได้ความว่าที่ไวนั้นเขากลัวจะทำผิดอีก ก็เอะใจว่าสื่อสารอะไรไปแล้วเขาเข้าใจว่าผิดไปเองหรือเปล่า เติมมุมให้เข้าใจว่าเรื่องราววานนี้ที่ออกไปในพื้นที่กันมา ไม่ได้ทำอะไรพร่อง ประสบการณ์ที่สั่งสมยังน้อยไปมากกว่า จึงมีคนให้ข้อชี้แนะให้เติมเต็ม  วันนี้ขอให้รอคำสั่งจากวอร์รูมก่อนจึงค่อยทำงานก็ไม่ช้า

ก็มีคำถามมาอีกว่าวอร์รูมประชุมกี่โมง ตอบไปว่าไม่รู้ซิ เพราะประธานวอร์รูมเป็นเจ้านาย ฉันไม่สามารถกำหนดเวลาเองได้ ขอให้ทำใจรอคำสั่งก็แล้วกัน วอร์รูมสั่งเมื่อไรก็จะส่งข่าว

ตั้งใจว่าจะไปกินข้าวเช้าที่สำนักงาน แต่ก็แป่ว เรื่องราวหลายเรื่องจำเป็นต้องทวนสอบก่อนเข้าประชุม เคลียร์งานประจำที่ยังค้างเติ่ง ทำความเข้าใจกับลูกน้องทั้งทีมให้วางงานที่ไม่ด่วนลงก่อน ขอให้จัดทีมออกทำงานภาคสนามเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโรคระบาด เหตุเกิดจากที่พบว่าศูนย์ขาดน้ำใช้และยุงเยอะเมื่อคืน

วางใจให้ลูกจ้างนำทีมนักศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์มอ.ปัตตานี ๑๒ คนที่มาขอฝึกงานออกไปสำรวจรายชื่อ และเก็บรายละเอียดผู้ประสบภัยเป็นชุดแรก เพื่อจะได้รับรู้ข่าวสารจริงจากปากพวกเขา แต่เจ้ากรรมความตื่นเต้นต่อเหตุการณ์ของลูกน้องหรือเปล่าไม่รู้ จึงไม่ได้งานมาอย่างที่ตั้งใจ

นี่ก็เป็นอีกเหตุการณ์ที่ควรบันทึก เช้านี้ก่อนออกจากบ้าน ฟ้ายังครึ้ม ฝนยังพรำๆแบบเมืองในหมอกที่หมอกจัดจนพรำลงมาเป็นหยดน้ำ สักครู่เมื่อเวลาผ่านไปใกล้ๆ ๙ โมง ฟ้าก็เริ่มเปิดขึ้นๆจนมีแสงแดดให้ตากผ้าได้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแดดแต่ก็มีแดด…จริงๆนะ ธรรมชาติปล่อยให้ดีใจได้อยู่เกินครึ่งวันว่าฝนจะหยุดตกแล้ว จนเวลาบ่ายโมงพระพิรุณก็โปรยตัวลงมาใหม่ หนักขึ้นๆ แต่ไม่มีลมแรง

ริมทะเลจะมีลมแรงหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าน้ำไหลแรง และมีดินปนน้ำลงมาในทะเลจำนวนมากมาย เพราะสีน้ำทะเลตรงหน้าเขื่อนในเมืองเปลี่ยนสีเป็นสีชาเย็นทั้งผืน ไม่ว่าจะเป็นผืนน้ำตรงที่ชวนชาวเฮไปดูปลาปักเป้า หรือจะเป็นตรงป่าโกงกางที่เด็กๆไปปีนเล่นกัน

วอร์รูมเริ่มรวมตัวกันอีกครั้งเวลา ๙ โมง สังเกตได้ว่ามีหลายๆคนที่ตื่นเต้นเพราะความกังวลจะรับมือไม่อยู่ การสนทนาจึงมีบ้างที่เกิดการปะทะวาจากันบ้าง เมื่อบางคำไปแตะจุดอ่อนแอที่อยู่ในใจผู้คนโดยไม่คาดฝัน  แต่ด้วยเคยผ่านเหตุการณ์ขนาดสึนามิกันมาแล้ว จึงเข้าใจอยู่ว่าเป็นเพราะความเหนื่อยล้าทำให้อารมณ์…หลุด  ก็ไม่ถือสา ชวนคุยไปต่อเรื่องการงานได้

วันนี้เรื่องน้ำใช้คลี่คลายได้แล้ว มีหน่วยงาน ๓ หน่วยเข้ามาอำนวยความสะดวกให้ ได้แหล่งน้ำจากกฟผ.และจากเอกชนรายใหญ่ที่เป็นญาติกับนายกเทศมนตรีและน้องหมอรองฯแพทย์  เป็นแหล่งน้ำสำรองที่ทำให้คลายใจไปได้

ได้ข่าวจากพังงาว่าจะส่งรถที่สามารถผลิตน้ำสะอาดส่งมาเสริมทัพ ให้สามารถทำงานผ่าตัดได้โดยไม่กังวลใจ แถมด้วยข่าวว่ารมต.จุติ จะส่งน้ำมาช่วยด้วย ไม่มีข่าวเรื่องไฟฟ้าให้ไม่สบายใจ

ตรวจเช็คสถานการณ์ในพื้นที่นอกอำเภอกันอีกครั้ง ได้ข้อมูลว่า กู้ภัยเข้าไปถึงพื้นที่ที่ดินหล่นทับคนแล้ว เล่ามาว่าคนเสียชีวิตที่เขาเห็นอยู่ในราว ๑๐ คน ซึ่งนำศพออกมาไม่ได้  ของจริงที่ได้เห็นศพกันโดยตาหลายๆคนรับรู้กันแค่ ๓ คน

ที่ร.พ.เขาพนม ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมากที่สุด มีคนเจ็บไปรักษาทั้งหมด ๔๒ คน ส่งมาดูแลที่ร.พ.เรา ๓ คน ตามเล่าแล้วเมื่อวาน ที่เหลือรักษาที่เขาพนม คนที่เขาพนมต้องรับไว้นอนรักษามีแค่ ๘ คน เป็นการเจ็บป่วยที่น้องหมอที่นั่นสามารถดูแลได้ การบาดเจ็บเป็นบาดแผลเล็กๆน้อยๆไปจนถึงรุนแรงที่สุดก็กระดูกหัก

สถานที่เกิดเหตุนี้มีทหารเข้าไปแล้ว วันนี้วอร์รูมสรุปกันว่าจะส่งทีมใหม่เข้าไปในพื้นที่ คราวนี้มีทั้งหมอและพยาบาล รองฯแพทย์ได้รับคำสั่งให้นำทีมเข้าไป  เมื่อวานนี้มีทีมอย่างเราจากร.พ.ถลางเข้าไปในพื้นที่ก่อนแล้ว สมทบอยู่กับทีมศูนย์นเรนทร

ตรวจสอบสถานที่ที่จะรับคนไข้ส่งต่อมาเพิ่มจากร.พ.เขาพนมอีกครั้ง พบว่าหอผู้ป่วยที่เปิดสำรองไว้ในตึกว่างหนึ่งนั้นยังไม่สะดวก ก็มอบหมายให้น้องญาพ่อบ้านไปจัดการ มอบเรื่องน้ำทั้งหมดให้เธอเป็นศูนย์กลางในการสั่งการการจัดการ ทั้งน้ำดื่มคนไข้ ทำอาหาร การใช้สอยจิปาถะ รวมไปถึงการประสานการจัดหา ใครช่วยจัดหามาเพิ่มได้ ก็ให้นำส่งมาที่เธอ

สั่งการเรื่องคนไข้เสร็จ ก็ติดตามความเดือดร้อนเสียหายของเจ้าหน้าที่กันต่อ วันนี้เจ้าหน้าที่ที่เดือดร้อนได้รับการนัดหมายให้มาพบกับทีมบอร์ด

การสนทนาเริ่มขึ้นนำทีมโดยเจ้านายชวนให้เล่าความเดือดร้อนให้ฟัง mapping พื้นที่อาศัยแล้ววางแผนการออกไปดูพื้นที่จริงด้วยกัน  มีเจ้าหน้าที่สามารถมาพบได้เพียงจำนวนหนึ่งอย่างวันนี้เท่านั้น มีอีกหลายคนที่วันนี้ยังไม่รู้ความเดือดร้อนเพราะติดต่อไม่ได้

ความเดือดร้อนที่รวบรวมถูกนำมาแบ่งกลุ่ม รวมจำนวนเพื่อเตรียมช่วยเหลือ  แบ่งกลุ่มได้เป็น ๖ ประเภทจากเจ้าหน้าที่ที่มาปรากฏตัว ๑๘ คน จาก ๔ พื้นที่  ได้แก่ กระบี่ใหญ่ ( ๒ ชุมชน)  ถ้ำเสือ (๑ หมู่บ้าน)  คลองใหญ่  ห้วยโต้  ปลายพระยา  เหนือคลอง เขาพนม

ประเภทที่ ๑   บ้านเสียหายทั้งหลังจนซ่อมไม่ได้ต้องสร้างใหม่  วันนี้มีเพียง ๑ คนที่พาตัวมาบอกเล่า

ประเภทที่ ๒   บ้านเสียหายบางส่วนซ่อมแซมแ้ล้วอยู่ได้  มีจำนวน ๘ คน

ประเภทที่ ๓   ทรัพย์สินเสียหายไปกับน้ำ  มีเกินครึ่งของทั้งหมด

ประเภทที่ ๔   การสัญจรถูกตัดขาดกลับบ้านไม่ได้ ทำให้ต้องไปอาศัยคนอื่นพักอาศัย

ประเภทที่ ๕   สวนยางเสียหาย

ประเภทที่ ๖    ประสบเหตุการณ์ แต่ไม่เสียหายเพราะช่วยตัวเองได้ทัน

ได้ข้อมูลแล้ว ส่วนหนึ่งของบอร์ดก็ชวนน้องๆนั่งรถไปด้วยกัน ให้เขานำทางเราไปเห็นความเดือดร้อนให้ประจักษ์แก่ตา ไปเห็นสถานที่จริงก็ไม่เสียดายเลยที่ให้เวลาออกไปด้วยกัน

สภาพความจริงที่เห็นตรงหน้ามีความหลากหลาย เห็นแล้วไม่น่าเชื่อว่าน้ำที่เอ่อขึ้นจากคลองที่เจนตา จะทำความเสียหายให้ผู้คนได้มากอย่างที่เห็น จุดที่อยู่ริมคลองมีสภาพการณ์เฉกเช่นสึนามิย่อส่วนยังไงยังงั้น บ้านโดนแรงน้ำกวาดไปทั้งหลังก็มี หลังคา ฝาบ้านถูกพัดพาหายไปกับน้ำก็มี บ้านไหนที่แข็งแรงหน่อยส่วนที่ไปกับน้ำก็เป็นเครื่องใช้ในบ้าน  เสื้อผ้าที่เห็นๆอยู่ในสภาพเลอะโคลนทั้งตัวแขวนเรียบร้อยบนราวแขวน  พื้นบ้านเต็มไปด้วยโคลน ที่นอนทั้งหลายเปียกโชกและเลอะโคลนไปหมด

ระหว่างเดินสำรวจบ้านเจ้าหน้าที่ไปทีละจุดก็เห็นความแตกต่าง  บางบ้านอยู่ริมคลอง ซึ่งตอนที่ไปเห็นนั้น น้ำในคลองเป็นสีชาเย็นแก่ๆ น้ำต่ำกว่าตลิ่งกว่าเมตร ไม่น่าเชื่อว่าก่อนหน้านี้จะล้นมาจนท่วมบ้านผู้คนถึงหลังคาบ้านได้  กลิ่นอายในบ้านเป็นกลิ่นอับแบบพรมเปียกน้ำ ไม่เหมาะกับการอยู่อาศัยเลย  เดินไปตรงจุดไหนๆก็เห็นเจ้าของบ้านและเพื่อนบ้านช่วยกันล้างบ้าน กวาดบ้านกันยกใหญ่

ไปเห็นจึงอ๋อ ได้คำตอบว่าทำไมไปที่ศูนย์จึงเจอคนน้อยอย่างที่เห็นเมื่อวานเย็น ก็คนหลายๆคนห่วงทรัพย์สิน พากันมาจัดการบ้านเรือนเท่าที่สามารถจนมืดค่ำนี่เอง พวกเราตระเวณเยี่ยมบ้านของทุกๆคนจนครบทุกหลังที่สามารถไปถึงได้  แม้ว่าในบางจุดจะเป็นแค่เยี่ยมและพาตัวไปชะเง้อมองในระยะ ๓ เมตรก็เหอะเราก็ไป ไปดูด้วยรู้สึกว่าทุกคนอยากให้พวกเราผู้ใหญ่เข้าใจความทุกข์ของเขา

ไปแล้วก็ได้แถมความเข้าใจมาอีกเรื่องว่าทำไมน้ำดื่มขาดแคลน ที่แท้ชาวบ้านไม่มีน้ำสะอาดล้างบ้าน สั่งน้ำกรองมาล้างบ้านกันจนหมดตลาดนี่เอง  เจ้าของบ้านหนุ่มคนหนึ่งคุยว่า ล้างบ้านมาตั้งแต่เช้าซื้อน้ำมาใช้ล้างกว่า ๒๐ ถังแล้วก็ยังล้างโคลนไม่หมด

เมื่อเข้าไปในเส้นทางวัดถ้า้ำเสือ สองข้างทางเต็มไปด้วยน้ำเ่อ่อไหล บางช่วงก็ไหลขนานถนนลงมา บางช่วงก็ไหลตัดผ่านข้ามถนน นึกสงสัยว่าน้ำแถวนี้มาจากไหน ไม่ได้อยู่ใกล้คลองเลย  เจ้าหน้าที่ที่อยู่แถบนี้เล่าให้ฟังว่า น้ำเอ่อมาจากคูระบายน้ำทิ้งเข้ามาในบ้านทางหลังบ้านจนเต็มพื้นบ้าน และท้นมาหน้าบ้าน  น้ำที่เอ่อไหลลงมาจากภูเขาย่อมๆที่อยู่หลังบ้าน  ไม่เดินเข้าไปดูในบ้านถึงหลังบ้านอย่างที่วันนี้ทำจะไม่เชื่อเลยว่า ชาวบ้านแถบนี้ก็เดือดร้อนเพราะน้ำ นี่แหละของจริงที่ต่างจากคิดเอาเองหละเออ

ใช้เวลากับการเยี่ยมบ้านทุกหลังไปจนถึงบ่ายโมง เหมือนฟ้าเป็นใจให้ทำงานกับการออกไปให้กำลังใจให้เสร็จ แดดจ๋าที่ออกให้สบายใจตั้งแต่เช้า เริ่มริบหรี่แล้วฝนก็ตกอีกห่าใหญ่  และตกจนพลบค่ำก็ยังไม่หยุดลงเลย

ระหว่างเดินทางกลับร.พ.ก็ได้ยินเสียง ฮ. ดังมาเบาๆ เจ้านายบอกเล่าว่า นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์มาเยี่ยมพื้นที่เขาพนมวันนี้แบบไม่เป็นทางการ กลับถึงบ้านก็ได้ยินคำให้สัมภาษณ์ของคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ให้ข่าวเกี่ยวกับความตั้งใจมาเยี่ยมพื้นที่ของนายกฯ ซึ่งก็ทำให้นึกถึงสมัยสึนามิขึ้นมาอีกแหละ สมัยนั้น นอกจากต้องจัดทีมดูแลคนไข้ให้พร้อม มีทีมให้ข้อมูลให้พร้อม ๒๔ ชั่วโมงแล้ว พวกเรายังต้องเตรียมทีมไว้ต้อนรับผู้ใหญ่ที่มาเยี่ยมอีก คราวนี้ทีมเขาพนมพบประสบการณ์เหมือนเราเด๊ะเลย

วันนี้กินข้าวเที่ยงเวลาบ่ายโมงครึ่งแล้ว  อิ่มท้องก็กลับมาห้องทำงาน ชวนให้นักศึกษาที่ให้ออกไปพื้นที่เล่าเรื่องราวให้ฟัง  เด็กๆไปพบเหตุการณ์ว่าศูนย์อพยพในวันนี้เพิ่มขึ้นเป็น ๖ ศูนย์แล้ว  บางศูนย์ไม่พบผู้คนเลย บางศูนย์ก็มีคนอยู่และมีไม่กี่สิบ  ผู้คนที่ศูนย์อพยพวัดแก้วไม่เหลือใครเลย  อืม…. เหมือนสมัยสึนามิไม่มีผิดเพี้ยนเลย  กลางวันไม่มีคน กลางคืนคนเพียบเพราะพากันกลับมานอนพัก

เด็กๆนักศึกษาช่วยงานได้เยอะเลย การที่พวกเขาออกไปดูพื้นที่มาให้ทำให้ฉันตัดสินใจได้ว่า อย่างไรแล้ว พยาบาลและเจ้าหน้าที่ในหน่วยของฉันควรดำเนินภารกิจการเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันโรคระบาดให้เข้มข้นแล้วละ

สบายใจขึ้นหน่อยในวันนี้เรื่องการมีน้ำใช้ที่ศูนย์อพยพทุกศูนย์  ระหว่างกลับร.พ.ได้เห็นรถจ่ายน้ำของเทศบาลกำลังทำงานอยู่ตามบ้านเรือน  การแจกจ่ายน้ำให้ชาวบ้านมีน้ำใช้สอยดำเนินขึ้นแล้ว แจ๋วมาก  ค่อยลดห่วงเรื่องการระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินอาหารลงไปอีกเปลาะ

ตั้งแต่เช้าก็มีโทรฯหลายสายส่งเสียงเข้ามาด้วยความห่วงใย เสียงตามสายทำให้นึกขึ้นได้ว่ามัวแต่ยุ่งกับเรื่องของตัวเองจนลืมไป เมื่อนึกได้ก็ติดต่อไปยังเครือข่ายครูกศน.ที่เคยเชื่อมสัมพันธ์ไว้ ได้รับรู้ว่ากลุ่มคนที่เข้าไปช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่นอกจากทหาร ตำรวจ อปท. และสาธารณสุขแล้วก็ยังมีครูที่สังกัดหน่วยนี้แหละ ดีใจที่ได้ข่าวว่าเครือข่ายครูแห่งนี้ไม่มีใครเดือดร้อนในคราวนี้

การติดต่อทำให้ได้ทราบข้อมูลจากครูเพิ่มมาว่า ในพื้นที่่มีชาวบ้านที่ตัดสินใจแตกต่างกันอยู่ ๒ กลุ่ม กลุ่มหนึ่งตัดสินใจออกมาขอรับความช่วยเหลือ รับสิ่งของบริจาคด้วยตัวเอง  กลุ่มนี้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงอยู่หรอก  อีกกลุ่มเป็นชาวบ้านที่ไม่ยอมออกจากพื้นที่มารับความช่วยเหลือใดๆ กลุ่มนี้มีที่อยู่ที่ลึกเข้าไปจากกลุ่มแรก และเข้าไปยาก

ทีมงานกศน.ส่วนหนึ่งได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อเสาะหาจุดเหล่านี้บ้างแล้ว สิ่งของที่คุณครูได้บอกกล่าวมาเมื่อสอบถามว่าจะให้ช่วยอะไรได้บ้าง เป็นยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งบอกไม่ได้ว่าต้องการเป็นจำนวนเท่าไรแน่นอน สื่อสารกันได้เพียงแค่นี้เอง ตกลงกันว่าพรุ่งนี้ถ้าว่างฉันจะขอติดเข้าพื้นที่ด้วย  ถ้าไปไม่ได้ก็จะจัดยาจำนวน ๑๐๐ ชุด ฝากให้ช่วยบริหารการช่วยเหลือตามความจำเป็นให้ด้วย

ที่อยากเข้าไปพื้นที่เพราะความเสียหายที่ครูแจ้งมายังหยาบมาก ไม่รู้จำนวนผู้เสียหายและประเภทความเสียหาย บอกแต่ว่า มีคนที่บ้านพัง ถ้าอยากช่วยก็ขอให้เป็นเงินจะดีที่สุด  อยากเข้าไปดูกับตาว่ายังไงซะจริง เสียดายที่วันนี้ตามทีมร.พ.ที่ส่งเข้าไปใหม่ไม่ได้ ไม่งั้นรู้ไปแล้วว่าความจริงตรงพื้นที่เป็นยังไง

สิ่งที่ขาดและขอความช่วยเหลือจากผู้เข้าไปช่วยในพื้นที่มาแล้ว วันนี้สรุปได้ว่ามีรายการเหล่านี้แหละ  :

ผ้าก๊อซขนาด ๔x๔ สำหรับทำแผล ชุดปฐมพยาบาลแผลเบื้องต้น (แอลกอฮอล์ เบตาดีน สำลี) พลาสเตอร์ยา พลาสเตอร์ติดแผล

ยาทากันยุง ยาทาแก้คันเสลดพังพอน  ยาทาแก้น้ำกัดเท้า

ถุงมือยางทางการแพทย์  ถุงดำ ถุงแดงใส่ขยะติดเชื้อ

ใครอยากช่วยก็ส่งตรงมาได้เลย จ่าหน้าถึงเจ้านายของฉันนี่แหละ เพราะโรงพยาบาลเราเป็นคลังใหญ่สนับสนุนอุปกรณ์ไปให้น้องๆในร.พ.เล็กๆในภาวะแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว

« « Prev : น้ำท่วม (๓)

Next : น้ำท่วม (๕) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 เมษายน 2011 เวลา 21:47

    ตามข่าวกระบี่ ทราบว่าอ่วมไม่แพ้ที่อื่น
    คราวนี้หนักกว่าชุดแรกเสียอีก
    มีรายหนึ่งปลูกยางไว้อายุ 8 ปี
    เพิ่งกรีดไปรอบเดียวมาโค่นลงทั้งสวน
    บ้านก็พัง ยังดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต
    แล้วรายที่หนักกว่านี้เล่า..เขาจะทำยังไง

    กระบี่วิปโยคจริงๆ
    คนที่เกี่ยวข้องงานก็เต็มมือ
    ปกติก็ก็หนักแล้ว เจอยังงี้ตึงมือตึงใจกันทั้งจังหวัด
    สู้ๆๆๆๆๆๆ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.065816164016724 sec
Sidebar: 0.10916900634766 sec