น้ำท่วม (๑)

อ่าน: 1406

วันวานนี้ฝนตกทั้งวันทั้งคืน ทำงานกันจนถึง ๒ ทุ่มฝนก็ยังตกอยู่ ลูกน้องเดินทางกลับบ้านได้สบาย นัดกันมาทำงานต่อวันรุ่งขึ้นคือเมื่อวาน เช้าเมื่อวานฝนตกหนักตั้งแต่เช้ามืดแล้ว ไปทำงานเฉอะแฉะกันไปหมด ทำงานกันไปแบบไม่ได้เฉลียวใจว่าจะมีเหตุเกิด ฝนตกแบบไม่เห็นฟ้าเลย มืดไปหมด ประชาสัมพันธ์แจ้งว่าอาจจะมีการตัดกระแสไฟฟ้า ก็เตรียมตัวกันไว้ แต่ก็ไม่มีการตัดกระแสไฟฟ้าจนกระทั่งเลิกงาน ฝนก็ยังตกหนักอยู่ สักครู่ไฟฟ้าก็ดับลง โรงพยาบาลต้องปั่นไฟสำรองไว้ใช้ ตอนนั้นไม่นึกว่าไฟข้างนอกจะดับด้วย

ถึงเวลา ๒ ทุ่ม เสร็จงานลูกน้องก็พาฉันมาส่งที่บ้าน แล้วตัวเขาวกกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อรอให้น้ำท่วมขังขนถนนลดระดับลงจะได้ไม่ต้องพารถลุยน้ำกลับบ้านอีกวัน  เพราะก่อนออกจากโรงพยาบาลมาลูกน้องที่ขอกลับบ้านไปก่อนตั้งแต่บ่ายสามโมงไปไม่ถึงบ้านกลับมาตั้งหลักที่โรงพยาบาล เหตุเพราะน้ำท่วมสะพานที่จะต้องผ่านไปแถวๆตลาดเก่า เมืองกระบี่ และน้ำไหลเชี่ยวมาก กะว่าจะมารอให้พอเห็นทางแล้วค่อยกลับบ้านต่อไป เส้นทางกลับบ้านของลูกน้องทั้งคู่นี้เป็นเส้นทางเดียวกัน

ถึงบ้านไม่นานก็ได้ข่าวจากวิทยุชุมชนว่า สะพานขาด ถนนขาด ไม่ชัดเจนว่าตรงจุดไหน รู้แต่ว่าเป็นถนนระหว่างอำเภอเมืองและอำเภอเหนือคลอง การเดินทางระหว่าง ๒ อำเภอโดนตัดขาดจากกันชั่วคราว และเป็นเส้นทางเดียวกับที่ลูกน้องต้องใช้เดินทางกลับบ้าน ได้ยินข่าวก็เช็คกลับไปที่ลูกน้องว่าจะนอนที่ไหน อย่างไร  ก็ได้ข่าวเพิ่มว่ามีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนค้างเติ่งกลับบ้านไม่ได้ พวกเราทั้งครอบครัวก็พากันออกจากบ้าน ขนเครื่องนอนมาให้ และแวะซื้ออาหารไปให้ ตอนที่ออกจากบ้านกันนั้นไฟฟ้าดับอยู่กว่าชั่วโมงแล้ว โชคดีที่ไฟฟ้าดับแต่ยังสามารถใช้วิทยุรับฟังวิทยุชุมชนได้ โทรศัพท์ยังใช้การได้

ไปถึงโรงพยาบาลจึงรู้ว่ามีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่ติดแหง็กกลับบ้านไม่ได้ ต้องหาที่นอนฉุกเฉินให้ร่วม ๒๐ คน ผ้าห่ม หมอน เสื่อที่ขนไปทำได้แค่ให้แบ่งกันใช้  มีบางคนที่มีเพื่อน มีญาติอยู่ในเมืองก็ได้พึ่งพาที่นอนกันไป คนที่ไม่มีใครรู้จักให้อาศัยอยู่เลยก็ใช้ห้องทำงานนั่นแหละเป็นที่นอน บางคนก็ขึ้นไปอาศัยห้องประชุมนอน ไฟฟ้าคืนกลับมาหลังดับไปนานกว่า ๓ ชั่วโมง

ตอนแวะไปร้านสะดวกซื้อหาของกินไปให้เจ้าหน้าที่ ไปได้ซาลาเปา นม มาม่ากระป๋องมาจำนวนหนึ่ง  เข้าไปในร้านโอ้โห ตะลึง แผงสินค้าหลายๆแผงว่างเปล่าให้เห็นคาตา ไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อนเลย  ที่จริงตรงหน้าบ้านก็มีร้านสะดวกซื้อ แต่เพราะไฟดับนานกว่า ๒ ชั่วโมง ร้านนี้ก็เลยปิดบริการกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน ก็เลยไม่ได้เห็นว่าร้านหน้าบ้านนั้นแผงว่างด้วยหรือเปล่า

ที่แปลกใจตอนไปส่งที่นอนกับอาหารก็ตรงที่ ตั้งแต่โรงพยาบาลไปจนถึงตลาดเก่าเขตเกิดปัญหาน้ำท่วมเฉียบพลันไฟดับเกลี้ยง มืดสนิท แต่ใจกลางเมืองแถบถนนมหาราชและอุตรกิจที่มีห้าง ธนาคาร ร้านค้าสว่างโร่เชียว ทำให้นึกน้อยใจจริงๆ บริการสาธารณะอย่างโรงพยาบาลทำไมต้องแก้ปัญหา ๒ เด้งพร้อมกันเรื่อยเลยก็ไม่รู้ แก้ปัญหาฉุกเฉินช่วยชีวิตคนแล้วยังต้องมาแก้ปัญหาไฟฟ้าดับอีก..เฮ้อ

หลังจากดูแลเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้ยินข่าวจากวิทยุชุมชนว่า ถนนขาดอีกหลายเส้น เรียกว่าเส้นทางระหว่างอำเภอถูกตัดขาดโดยปริยาย จะพยายามอ้อมทางไหนเพื่อเลี่ยงเส้นทางที่เป็นปัญหาก็ไร้เส้นทาง ไม่ต้องพูดถึงถนนเชื่อมระหว่างจังหวัดให้มากความเลย ออกจากอำเภอไม่ได้ ก็ออกจากจังหวัดไม่ได้ คนเดินทางไกลหลายคนจากภูเก็ต พังงาก็เลยมาค้างเติ่งอยู่กระบี่หลายคน

สถานการณ์ที่เกิดในยามค่ำคืนอย่างเมื่อคืนนั้น ใครไม่เคยเจอคงนึกภาพไม่ออก คนที่เจอน้ำท่วมเฉียบพลันที่รอความหวังอยู่ท่ามกลางความมืดที่ได้ยินว่าคนจะเข้าไปช่วยก็ไม่มีถนนให้เข้าไปถึงตัวได้ คนที่พอจะช่วยตัวเองได้จะออกมาจากพื้นที่เพื่อหนีภัยก็ออกมาไม่ได้เพราะถนนขาด ติดต่อสื่อสารแล้วก็ไม่พบทางออก ความรู้สึกเป็นอย่างไรคงไม่ต้องอธิบายให้มากความ เสียงจากวิทยุชุมชนที่เล่าเรื่องราวให้ฟังก็บอกว่าคนที่ติดเกาะเดินทางไม่ได้กลุ่มหนึ่งไปติดอยู่วิทยาลัยพละศึกษา เด็กนักเรียนจำนวนหนึ่งไปติดอยู่ที่วิทยาลัยเกษตร เหนือคลอง หมู่บ้านบางหมู่บ้านไม่สามารถติดต่อได้แม้แต่ทางมือถือ

ก่อนเข้านอนก็ได้ยินว่า ชุมชนในเขตเทศบาลที่คนกระบี่เรียกกันว่า “หินขวาง” น้ำเอ่อไหลแรงขึ้นมาริมฝั่ง พัดพารถมอร์เตอร์ไซด์ป้ายแดงให้ไหลไปตามน้ำ  โชคดีที่มีคนช่วยรั้งมาผูกไว้กับเสาได้ รถก็เลยแช่น้ำคาเสารอเจ้าของอยู่ตรงนั้นเอง ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้กู้ขึ้นจากน้ำได้หรือยัง   รู้แต่ว่าคนที่อยู่ตรงนี้ต่างอพยพหนีน้ำขึ้นมากันจ้าละหวั่น เพราะน้ำบ่ามาเร็วจนท่วมหลังคาบ้าน บางบ้านก็เอ่อเข้าไปเกือบมิดหลังคา ข้าวของในบ้านโดนน้ำพัดพาไปเสียหายหลายบ้านเรือน

มาทำงานตอนเช้า บอร์ดโรงพยาบาลก็ตั้งวอร์รูมปรึกษาการแก้ปัญหา ช่วยกันตรวจสอบรวบรวมข้อมูล จัดการระบบ สำรวจความพร้อมเรื่องต่างๆ รวมทั้งเช็คระบบเชื่อมต่อการส่งต่อคนไข้ระหว่างโรงพยาบาล ข่าวก่อนมาประชุมกันทำให้โล่งใจตรงที่ยังไม่ได้ยินว่ามีคนเสียชีวิต  เมื่อคืนมีญาติคนไข้ที่มาเยี่ยมไข้กลับไม่ได้ราวๆ ๑๐ กว่าคน ก็ได้ช่วยกันคนละไม้คนละมือหาที่นอนให้กันไปเรียบร้อยดี เช้านี้ทะยอยกันกลับบ้านได้แล้ว

ความเสียหายที่รวบรวมได้ในเบื้องต้นในช่วง ๑๐ โมงเช้าก่อนเราจะแยกย้ายกันไปเตรียมความพร้อมในระบบต่อก็คือ ที่หมู่บ้านเชิงเขาเขาพนม ๓ หมู่บ้าน ที่จำได้มี ห้วยสาร คลองแห้ง อีกหมู่จำไม่ได้ มีปัญหาภูเขาสไลด์ ดินถล่มลงมาพังทับหมู่บ้าน กำลังในพื้นที่กำลังไปช่วยกันขุดดินค้นหาผู้ได้รับผลกระทบ ตอนที่คุยกันนั้นยังไม่เจออะไรมากมายเพราะยังเช้าอยู่ ถนนที่สัญจรนั้นสามารถวิ่งได้ทางเดียวและแคบขนาดรถเล็กหรือมอร์เตอร์ไซด์วิ่งได้ สะพานตรงที่เชื่อมเขตเทศบาลต่อออกไปจังหวัดตรังนั้น เชื่อมอำเภอเมืองกับอำเภอเหนือคลองได้แล้ว แต่รถติดมากยาวเหยียด

คนที่ติดเกาะเมื่อคืนซึ่งค้างอยู่ที่วิทยาลัยพละศึกษาจำนวน ๔-๕๐๐ คนได้รับการช่วยเหลือให้กลับบ้านบ้างแล้ว ก็เลยได้รู้ว่าในบรรดาคนที่ได้อพยพไปรวมกันที่พละศึกษาเมื่อคืนนั้น มีคนที่ได้รับผลกระทบเรื่องน้ำท่วมบ้านจริงๆกับคนที่ติดเกาะเพราะออกนอกบ้านไปทำธุระแล้วกลับบ้านไม่ได้เพราะน้ำนองถนนจนไม่สามารถเดินทางได้อยู่ปนๆกัน อบจ.นำเรือออกไปช่วยระบายคนที่ยังมีบ้านข้ามกลับมาเข้าเมืองจนหมด ที่วิทยาลัยพละศึกษาจึงยังคงมีแต่คนที่มีปัญหาไร้ที่อยู่จริงๆคงอยู่รอให้ช่วย

ด้านของโรงพยาบาลก็มีหลายอย่างที่พวกเราหวั่นใจ หนึ่งคือ น้ำใช้สอยทั่วไป ระบบของเราสามารถสำรองน้ำไว้ใช้ได้ไม่เกิน ๒ วัน ถ้ามีคนป่วยมาจำนวนมาก เราแย่แน่ รองลงมาก็เป็นเรื่องการมีไฟฟ้าใช้งาน ตรงนี้ก็จะแย่ถ้าน้ำมันสำรองของเราหมดและไม่มีน้ำมันที่ปั๊มให้ไปซื้อมาเติม ในวันหนึ่งๆเราต้องสำรองน้ำมันไว้ใช้ราวๆ ๘๐๐ ลิตรสำหรับเครื่องปั่นไฟฟ้าที่ปั่นใช้เอง

ด้านกำลังคนที่มีอยู่ตอนนี้ก็ต้องมองอยู่เหมือนกัน เพราะคนทำงานที่มาอยู่ที่รพ.แล้วต้องทำงานต่อยาวแทนเพื่อนที่ทางสัญจรขาด บ้านเสียหายต้องอยู่จัดการทรัพย์สิน มาทำงานไม่ได้

วันนี้เราสามารถรวบรวมข่าวเจ้าหน้าที่ของเราได้เพียง ๓/๔ ของคนทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ หลายคนยังไม่สามารถติดต่อได้ แต่ในทั้งหมดที่ได้รับรู้ข่าวแล้ว ไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ทำให้เราโล่งใจกันขึ้นหน่อย

คนที่เราได้รับรู้ข่าวสารแล้วมีคนที่หมดเนื้อหมดตัวเพราะบ้านจมน้ำอยู่ราวๆ ๑๐ คน บ้านเสียหาย ทรัพย์สินหายไปกับน้ำและคงต้องมีหนี้สินก้อนใหญ่เมื่อน้ำลดกับการสร้างตัวใหม่อีกราวๆกว่า ๒๐ คนเห็นจะได้  ยังมีที่ใจตุ้มๆต่อมๆกับฝนที่จะตกอีก เพราะน้ำเริ่มเอ่อไหลเข้าบ้านอยู่แล้วอีกหลายคน  พรุ่งนี้เราตกลงใจว่าคงจะออกไปเยี่ยมพวกเขาให้เห็นกับตาถ้าการเดินทางอำนวยให้ จะนำสิ่งของบางอย่างที่จำเป็นไปให้พวกเขากันด้วย

« « Prev : ตามลม(๑๗) : เตรียมตัวตามรอยก๊าซเรือนกระจก

Next : น้ำท่วม (๒) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 chakunglaoboy ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 มีนาคม 2011 เวลา 23:42

    ให้กำัลังใจพี่น้องชาวใต้ทุกคนทุกท่านนะครับ

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 31 มีนาคม 2011 เวลา 1:33

    ดูข่าวแล้ว พื้นที่ภาคใต้เหมือนฟิลิปปินส์เลยนะ โโยภันธรรมชาติบ่อยน่ะซัครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.6097891330719 sec
Sidebar: 0.60694193840027 sec