ตามรอยน้ำพุร้อน (๕)

อ่าน: 2205

เปลือกโลกที่มีความหนา ๓๕ กิโลเมตร มีส่วนบนโผล่ขึ้นมาเป็นส่วนของทวีป  มีส่วนล่างเป็นพื้นของมหาสมุทรหรือเป็นหินรองรับน้ำทะเล

แต่เดิมเขาว่ากันว่า เปลือกโลกมีแผ่นเดียว เรียกชื่อว่า  “พันเจีย” รอยแยกและแผ่นต่างๆที่มี ๑๓ แผ่นนั้นเกิดขึ้นภายหลัง

แผ่นเหล่านี้เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาอย่างช้าๆ เมื่อไรเคลื่อนเร็ว ก็เป็นเรื่อง เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดขึ้นเมื่อนั้น

การเคลื่อนของเปลือกโลก มี ๓ แบบ คือ เคลื่อนเข้าหากันจนชนกันหรือเบียดอัดกันจนแผ่นนูนขึ้น เคลื่อนแยกจากกัน และ ไถลในแนวขนานกัน

ตรงไหนที่แยกออกจากกัน ตรงนั้นก็จะมีปรากฏการณ์เกิดขึ้น ถ้าเกิดบนทวีปก็เกิดหุบเขายุบ แล้วมีน้ำเข้ามาอยู่แทนที่สะสมกลายเป็นทะเล หรือบึงขนาดใหญ่  ถ้าเกิดในทะเลก็จะรอยแยกที่พื้นทะเล เกิดเทือกเขากลางสมุทร และแผ่นดินไหว มีภูเขาไฟและลาวาไหลอยู่ใต้ทะเล

ภาพซ้าย ตัวอย่างแผ่นทวีปเคลื่อนแยกออกจากกันบนทวีปแล้วทำให้เกิดหุบเขายุบ : สีฟ้า คือ หุบเขายุบ

ภาพขวา-ภาพจำลองการเกิดน้ำพุร้อนแบบที่ ๑

ตรงไหนที่เคลื่อนเข้าหากันจนชนกัน ก็จะเกิดปรากฏการณ์ได้ ๓ แบบ แล้วแต่ว่าเป็นการชนกันของแผ่นทวีปกับแผ่นหินก้นทะเล หรือไม่ใช่

ถ้าแผ่นทวีปชนกับแผ่นหินก้นทะเล ก็จะเกิดร่องใต้ทะเลและเทือกเขาตามแนวขอบทวีป เป็นแนวภูเขาไฟชายฝั่ง และแผ่นดินไหวรุนแรง

ถ้าแผ่นทวีปชนกันเอง ก็จะเกิดการเกยกัน และเกิดเทือกเขาใหม่จากแผ่นที่เกย และเกิดที่ราบใหม่จากแผ่นที่มุดต่ำกว่า

ถ้าแผ่นหินก้นทะเลชนกันเอง ก็จะเกิดการเกยกัน ปลายของแผ่นที่มุดจะกลายเป็นแมกมา ปะทุขึ้นมากลายเป็นแนวภูเขาไฟใต้สมุทร และมีร่องใต้ทะเลลึก ที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟที่เกิดขึ้น เป็นภูเขาไฟที่ยังทรงพลัง

ภาพซ้าย-ภาพตัวอย่างแผ่นหินเปลือกโลกใต้ทะเลส่วนล่างชนกันเอง แล้วทำให้เกิดภูเขาไฟที่ยังทรงพลัง : สีเทาคือเปลือกโลกส่วนล่าง สีฟ้าคือเปลือกโลกส่วนบน

ภาพขวา - ภาพจำลองการเกิดน้ำพุร้อนแบบที่ ๒

ตรงไหนที่ไถลในแนวขนานกัน ถ้าเกิดไถลมาเฉือนกัน ก็จะมีรอยเลื่อนเฉือนระนาบ มีแนวเหลื่อม เป็นรอยแยกในแนวตั้งฉากกับเทือกเขาในมหาสมุทรและรอยแยกใต้น้ำ ไถลมาเฉือนกันแล้วเกิดอะไรขึ้น ก็อยู่ที่คู่เฉือน  ปรากฏการณ์ของคู่เฉือนก็เหมือนกับคู่ชนข้างบน

ภาพข้างบนที่นำมาเทียบดู ทำให้เห็นภาพน้ำพุร้อนกระบี่ ซึ่งมีทั้งจืดและเค็มว่า ถ้าตรงนี้เคยเกี่ยวข้องกับภูเขาไฟมาในอดีต แล้วนำประสบการณ์สึนามิมาประกอบด้วย ความสัมพันธ์ของเปลือกโลกที่น่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดน้ำพุร้อนตรงนี้ คือ แบบคู่ชนมากกว่าคู่แยก

ถ้าเชื่อตามว่าภูเขาไฟที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นี้ดับลงแล้ว แล้วมาดูลักษณะที่เป็นอยู่ของน้ำพุร้อนที่มีน้ำผิวดินขังเป็นแอ่ง บางที่ก็ไหลได้คล้ายธารน้ำไหล บางที่ก็แค่เอ่อให้เห็นควันพอให้รู้ว่าน้ำผิวดินนั้นร้อน ความน่าจะเป็นของคู่ชนก็จะเป็นแบบแผ่นหินใต้น้ำกับแผ่นทวีปชนกัน ส่วนการเกิดน้ำพุร้อนที่กระบี่ก็น่าจะเป็นตามแบบจำลองที่ ๒

แล้วภูเขาไฟที่ดับแล้วนั้นอยู่ตรงไหนกัน ไม่พบว่าระบุชัดไว้ที่ไหนเลยว่าเคยค้นหา ดังนั้น ถ้าเชื่อแบบจำลองความสัมพันธ์ที่ถอดมาได้ว่า คู่ชนเป็นแผ่นหินใต้น้ำกับแผ่นทวีปชนกัน ตราบใดที่ยังไม่รู้ว่าตัวภูเขาไฟอยู่ตรงไหน ก็ไม่สามารถเชื่อได้ว่ากระบี่จะไม่เกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่

อย่างนี้การเตรียมพร้อมก็ต้องให้รับมือภัยพิบัติพวกนี้ได้ : สึนามิ  หลุมยุบ แผ่นดินไหว ดินถล่ม

คงต้องสร้างระบบเฝ้าระวังภัยพวกนี้ต่อไปไว้ด้วย จะได้ใช้สะกิดเตือนตัวเองให้ตื่นตัว เตรียมพร้อมกันได้ก่อนคนอื่นเขาส่งเสียงเตือนมา เพื่อความเร็วในการช่วยคน

« « Prev : ตามรอยน้ำพุร้อน (๔)

Next : ตามรอยน้ำพุร้อน (๖) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 มกราคม 2011 เวลา 18:37

    ผมเชื่อว่า เรื่องพวกนี้มันเป็นระบบสถิติครับ เสียแต่ว่ามนุษย์เรามีเวลาน้อยมากในการเก็บสถิติ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาแห่งเหตุการณ์

    ภูมิศาสตร์ กับประวัติศาสตร์มันมีอะไรคล้ายกันก็ตรงนี้แหละครับ คือ เหตุการณ์มันมีช่วงเวลานาน แต่คนเรามีช่วงอายุสั้น

    ทำไม่เรา คน เข้าใจ ลม น้ำ ได้ดีมาก

    ตอบ เพราะพวกนี้ช่วงอายุมันประมาณ หนึ่งปี เท่านั้น มันสั้นกว่าช่วงอายุเรามาก

    แต่อตอม โมเลกุล มันก็เร็วเกินไป จนตาเรามองไม่ทัน ก็เข้าใจได้ยากสักหน่อย แต่ถ้าเราฉลาดกว่านี้ก็ไม่ยากหรอก

    ทุกวันนี้ใครๆ รวมทั้งพวกจบ ดร. เมืองนอก ต่างมุ่งไปสู่ จุล กันหมด จุลชีว จุลเศรษฐศาสตร์ จุลบ้าบออะไรอีกมาก ซึ่งผมว่าพวกนี้ไม่ยาก ที่ยากกว่ามากนัก คือ เรื่องใหญ่ๆ แบบ มหา ต่างหาก เช่น มหาจำลอง อาบน้ำห้าขันนั้นเข้าใจได้ยากที่สุด

  • #2 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 มกราคม 2011 เวลา 18:39

    ภูเขาสูง 2000 เมตร กับหัวสิวบนหน้าหนุ่มสาว เมื่อคิดเทียบส่วนกับความหน้าใบหน้า

    อะไรสูงกว่ากัน

    น้ำหนองกับลาวา อะไรให้คุณโทษ ต่างกว่ากัน

  • #3 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 มกราคม 2011 เวลา 20:33

    คิดเร็วๆนะคะ อาจารย์ คำตอบของคห.๒

    ข้อแรก - ถ้าเทียบสัดส่วนกับความลึกแล้ว หัวสิวสูงกว่า

    ข้อสอง - น้ำหนองให้คุณมากกว่า เพราะว่ามีระบบอัตโนมัติที่ธรรมชาติสร้างมาให้แบบสมดุลแล้ว ต่อให้ใครไปก่อกวนยังไง ก็ปรับสมดุลกลับมาได้ใหม่

    ตอนที่มีคนไปก่อกวน มันก็ไม่ได้ทำร้ายใครต่อ ให้โทษบ้างตรงที่ ส่วนประกอบบางอย่างของมันขยันทำงานมากเกินกว่าที่เจ้าตัวอยากให้ทำ ทำให้กลัว

    ลาวานะร้ายกว่าเยอะ ธรรมชาติฉลาดที่สร้างธาตุต่างๆไว้อย่างเหมาะสม มีกลไกกำกับไว้หมดแหละ แต่คนไปยุ่ง ไปขุด ไปเจาะ ไปทำอะไร สารพัดจนกลไกกำกับนี้ทำงานไม่ได้ เวลาเกิดโทษก็ทำร้ายคน ทำร้ายสังคมมากมาย ไม่ได้ทำร้ายแต่ปัจเจกเท่านั้น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.071827173233032 sec
Sidebar: 0.1068229675293 sec