นมัสเตอินเดีย

อ่าน: 1574

จะว่าไปแล้วแม้ว่าจะมีสินค้านำเข้า่ปลอดภาษีอยู่ ๘๒ รายการแต่สินค้าส่งออกที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากรภายใต้ FTA ไทย-อินเดียเต็มที่ มี ๑๐ รายการเท่านั้น สินค้าที่ไม่อยู่ในรายการ FTA มีภาษีศุลกากรที่ต้องแบกรับ สินค้าเครื่องดื่ม เหล้าและน้ำผลไม้ที่ไทยมีโอกาสเปิดตลาดก็มีภาษีศุลกากรถึง ๑๕๐%

ภายในภาษีศุลกากรอินเดียยังมีรายละเอียดที่ซ่อนอยู่อีก ๕ รูปแบบ ได้แก่ อากรพื้นฐาน อากรศุลกากรเพิ่ม อากรศุลกากรเพิ่มพิเศษ ค่าธรรมเนียมพิเศษ ๑๐% ที่เก็บเพิ่มจากค่าอากรพื้นฐาน และค่าภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดหรือมาตรการฉุกเฉินที่อินเดียจะประกาศเป็นระยะๆอีก

อินเดียยังมีมาตรการภาษีภายในประเทศ รัฐ และเมืองอีก อาทิ ภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีผ่านแดนระหว่างรัฐ ซึ่งแต่ละรัฐเป็นผู้กำหนดอัตราเอง และค่าภาษีของน้ำมันเชื้อเพลิงอีก

ฉันเข้าใจว่า เงื่อนไขที่ตกลงกันใน FTA ไทย-อินเดีย ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ สามารถช่วยลดภาษีอากรพื้นฐานเท่านั้นเอง ถ้าเข้าใจคลาดเคลื่อนไปผู้รู้ช่วยแก้ตรงนี้ให้ด้วยค่ะ

บรรยากาศหน้าร้านโลตัส กรุงนิวเดลี ยามค่ำคืน เวลาราวๆ ๒ ทุ่มเศษ วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๓

ในสินค้า ๘๒ รายการก็เห็นมีแต่อาหารทะเลปรุงแต่งเท่านั้นที่จะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากอินเดีย แต่ก็ผูกติดกับเงื่อนไขว่่าด้วยต้นกำเนิดของสินค้าที่ได้กำหนดร่วมกันอยู่นะ ไม่เห็นมีวัตถุดิบที่ใช้สำหรับการปรุงอาหารไทยอยู่เลยนา

อินเดียไม่ถือว่าสินค้าที่เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ ประทับตรา หรือสามารถแยกส่วนประกอบได้ ซึ่งระบุชื่อประเทศไทยไว้ เป็นสินค้าที่มีต้นกำเนิดในประเทศไทย

ตรงนี้แปลว่า คำว่า “Made in Thailand” มีหลายเรื่องที่ต้องมองให้ทะลุ

ความหมายของ “สินค้าผลิตในประเทศ” มีกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่หน่วยงานภาครัฐควรรู้ข้อมูลเชิงลึก จึงสามารถที่จะร่วมมือกับภาคธุรกิจ นำพาประเทศไทยให้ยืนอยู่ได้ในสนามการค้าระหว่างประเทศ

ผู้ที่เจาะตลาดอินเดียได้แล้วถือว่าเป็นครู ถ้าได้ขอเรียนรู้จากเขา ความเข้าใจที่เกิดใหม่ของคนเป็นศิษย์จะช่วยสังคมไทยได้อีกมากมาย

ตลาดที่ภาคธุรกิจไทยควรเปิดผ่านสัญญา FTA ไทย-อินเดียยังมีอยู่มาก ธุรกิจที่กำลังเจรจาอยู่เป็นเรื่องเหล่านี้ : ธุรกิจบริการด้านการท่องเที่ยว/สุขภาพ การขนส่งโทรคมนาคม บริการด้านคอมพิวเตอร์ การเงิน ธุรกิจบริการวิชาชีพ และการก่อสร้าง

ซ้าย - สภาพการจราจรบนท้องถนนกรุงเดลี หลังเวลา ๒ ทุ่ม ขวา - บรรยากาศหน้าสนามบินกรุงเดลีราวๆ ๓ ทุ่มเศษ

ทั้งหมดนี้บอกฉันว่า ถ้าบ้านเราจะใช้ประโยชน์จากสิทธิผลิตด้วยวัตถุดิบในประเทศและฐานการผลิตในประเทศเพื่อให้ได้สิทธิจาก FTA เต็มที่ การคิดเพียงสั้นๆ ไม่คิดทั้งระบบ บ้านเราจะแพ้ประเทศอื่นเขาร่ำไป

อย่างวันนี้คู่แข่งอย่างสิงคโปร์ ซึ่งได้สิทธิ FTA เหมือนเราทุกอย่าง เขาไปไกลกว่าเราแล้ว บ้านเราควรมองเขาเป็นครูแล้วมามองตัวเอง รู้จักตัวเอง ยอมรับตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองให้ถูกทางได้แล้ว

วันนี้สิงคโปร์เป็นแหล่งนำเข้าสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนของอินเดีย ปี ๒๕๕๑-๒๕๕๒ อินเดียนำเข้าสินค้าจากสิงคโปร์เฉลี่ยร้อยละ ๒๘.๑ ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดจากอาเซียน แต่ไทยนำเข้าได้เพียง ร้อยละ ๑๐.๘ ต่างกันสุดกู่ทั้งๆที่บ้านเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่าเขา

เรื่องของ FTA ไทย-อินเดียยังมีเรื่องราวของสินค้าอีกจำนวนหนึ่งที่จะเข้าสู่การได้ลดภาษีเป็นเฟสซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ เป็นต้นไป คราวนี้ภาษีที่จะได้ลดงวดแรกอยู่ที่ร้อยละ ๘๐ เลยมั๊ง

พวกเรากินข้าวอิ่มแล้วก็ยกขบวนไปสนามบินกรุงเดลี ช่วงดึกคืนนี้ได้เวลาที่พวกเราต้องบินกลับเมืองไทยกันแล้ว สายการบินรักคุณเท่าฟ้าคือยานสวรรค์ที่จะพาเรากลับไป

ที่สนามบินมีผู้คนพลุกพล่านไปหมด คิวเช็คอินของพวกเรายาวมาก กว่าที่จะเช็คอินครบทุกคนก็รอกันนาน  ทีมจากภาคใต้เช็คอินได้เร็วหน่อยเพราะพวกเราไม่ใคร่ได้ซื้ออะไรติดมือกลับไป

บรรยากาศก่อนบินขึ้นฟ้า ชุลมุนกับการจัดการสัมภาระและน้ำหนักกระเป๋าของหลายคนที่เพิ่มขึ้นกว่าขามามากมาย

ท่านเอกอัครราชทูตและท่านทูตพลเดช วรฉัตรกรุณามาส่งพวกเราด้วย

เวลา ๒๓.๓๐ น. พวกเราก็พร้อมบินกลับเมืองไทย ได้ที่นั่งแล้วต่างคนต่างงีบหลับไป เครื่องถึงสุวรรณภูมิราวตี ๕ ครึ่งเมืองไทย

รอรับกระเป๋าที่โหลด แล้วก็โบกมือลากัน เพื่อนจากภาคใต้แวะพักกรุงเทพฯกัน ฉันรอต่อเครื่องเพื่อบินกลับบ้านในเวลา ๘.๐๐ น.

ขอบคุณประสบการณ์จากผู้คนในอินเดียที่ได้เปิดโลกกว้างให้เรียนรู้

ขอบคุณท่านทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตที่ช่วยดูแลให้อบอุ่นใจยามอยู่ในอินเดีย

ขอบคุณกัปตันและพนักงานสายการบินรักคุณเท่าฟ้าที่นำพากลับบ้านอย่างปลอดภัย

ขอบคุณเพื่อนๆและครอบครัวที่เปิดโอกาสแห่งการเรียนรู้ที่หลากหลายให้ในคราวนี้

๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๓

« « Prev : เมนูนี้ฮิตเสมอ

Next : เหยียบตะวันออก » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 pa_daeng ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2011 เวลา 16:49

    สวัสดีปีใหม่ค่ะ พี่สาวตา

    ปีใหม่ ป้าแดง เข้ามาฝังตัวในลานทั้งวันเลยค่ะ
    มีความสุขมากๆนะคะ

  • #2 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2011 เวลา 18:22

    อยากเห็นพี่หมอเจ๊ตอนขากลับว่าน้ำหนักขึ้นนี่ เป็นยังไงอ่ะค่ะ ^^

  • #3 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2011 เวลา 19:19

    สวัสดีปีใหม่ค่ะ พีตา ขอให้มีความสุขมากๆ และขอให้ได้วีซ่าแวะมาเจอกันได้บ่อยๆ นะคะ ^^

  • #4 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2011 เวลา 20:28

    สวัสดีปีใหม่ครับพี่หมอเจ๊
    ซุ่มติดตามไปเที่ยวอินเดียด้วยตั้งแต่ต้นจนกลับ ได้รับความรู้เหมือนกับไปเห็นด้วยตัวเอง
    ขอบคุณครับผม


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.10290193557739 sec
Sidebar: 0.46067190170288 sec