ดูไม่ออก
เช้านี้พวกเราใช้เวลากับการหลงทางในโรงแรมไปช่วงหนึ่ง ที่หลงทางก็เพราะโรงแรมเขาสร้างอาคารไว้วกวนตามขวาง มีเชิงชั้นย้อนไปย้อนมาจนเวียนหัว เดินไปเดินมาหาทางลง หาทางเข้าลิฟท์กันไม่ใคร่เจอ
นึกภาพของคนมีสัมภาระ อายุเลยเลขสี่ เลขห้า เลขหกกันไปแล้ว เดินวนไปวนมาหาทางออกกันดู แล้วจะนึกออกว่าในวันนี้ ผู้ร่วมคณะของฉันมีอาการยังไงกันบ้าง
วันนี้ฉันได้งานแต่เช้า เมื่อน้องต่อ(อนุสรณ์ ไกรวัตตนุสรณ์)เดินมาขอแบ่งซองเกลือแร่ไปใช้ อาหารที่ไหนก็ไม่รู้เป็นเหตุให้ท้องเสีย ดูอาการแล้วไม่น่าห่วงเท่าไร ยังเดินปร๋อบริการใครๆได้ไม่ต่างไปจากที่เคยทำ โปรแกรมวันนี้เราจะย้ายไปเมืองชัยปุระกัน
เดินทางมาไกล ร่วมทางกันมา แต่ละคนเป็นหนุ่ม เป็นสาวและเป็นเด็กมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป
รถพาเราวิ่งเข้าเส้นทางใหม่ ข้างทางแปลกตากว่าเมืองที่เคยผ่านตรงดูสะอาดไม่ใคร่เห็นขยะเกลื่อนเหมือนในหลายเมือง ฉันไม่รู้ว่าส่วนที่เห็นนี้อยู่ในเขตเมืองอัคราหรือเปล่า
ยามเช้าอย่างนี้ผู้คนยังสัญจรไม่มากมั๊ง ถนนจึงโล่งอย่างในภาพ คนที่นี่คงนิยมใช้มอร์เตอร์ไซด์แบบเวสป้า จักรยานและรถตุ๊กๆอินเดีย จึงไม่ใคร่เห็นรถเก๋ง ไม่เห็นสตรีออกมาในท้องถนนเหมือนที่โกลกาตาหรือจะเป็นเพราะว่าเวลาเช้าไปก็ไม่รู้
ได้รู้มาก่อนเดินทางว่าเส้นทางที่พวกเรากำลังเดินหน้ากันไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ทะเลทราย แอบดีใจว่าจะได้เห็นทะเลทรายของจริงก็คราวนี้แหละ จะเหมือนอย่างที่เห็นในหนังหรือเปล่านะ
บรรยากาศยามเช้าของวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ดูสงบสบายมั๊ยค่ะ
เมื่อรถผ่านเมืองไปเรื่อยๆ ก็เห็นวิธีค้าขายของคนอินเดียที่เปลี่ยนไป จากที่เคยเห็นเป็นเพิงเป็นร้าน ที่นี่กลับเป็นร้านเคลื่อนที่ได้ เปิดร้านกันข้างถนน ริมฟุตบาท ใต้ต้นไม้มีทั้งนั้น ร้านที่อยู่กับที่จะเป็นตึก เป็นห้องแถวไปเลย สิ่งที่เห็นบอกฉันว่า คนในเมืองนี้มีความต่างฐานะกันอยู่กว้างนะ
สิ่งที่ทำให้ฉงนก็คือ ตึกรามที่อยู่อาศัยและสีเขียวของไม้ใหญ่ริมทาง ไม่บอกเค้าว่าเป็นดินแดนทะเลทรายเอาซะเลย ดูไปแล้วเหมือนเมืองร้อนแบบเมืองไทยซะมากกว่านะเออ
เจอลูกค้าตรงไหนก็จอดบริการ เสร็จแล้วก็พาตัวจากกันและกันไป ชอบใจถนนที่ว่างดีจัง
พื้นที่ก็มีขยะเกลื่อนซุกอยู่ริมทางให้เห็นเหมือนกัน เห็นแล้วทำให้รับรู้ว่าดูเหมือนระบบการจัดการขยะในแต่ละเมืองของอินเดียไม่เหมือนกัน การที่ถนนเมืองนี้ดูสะอาดน่าจะมีหลายปัจจัยเกี่ยวข้อง การเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวผ่านกันบ่อยๆหรือเปล่าที่ทำให้สะอาดได้อย่างที่เห็น ถ้าใช่ละก็พวกเราก็เป็นผู้มีอิทธิพลของอินเดียซินะ..อิอิ
กองขยะข้างถนนของเมืองนี้ที่เห็นมีขนาดแค่นี้แหละ ที่ไม่ต่างกันก็เห็นจะเป็นวัวนั่นแหละ
อยากรู้เรื่องขยะก็เลยชวนไกด์คุย ได้ความมาว่ากิจการจัดการขยะนั้นเป็นที่ต้องการของทุกรัฐในอินเดีย ประเภทขยะที่ขายได้เท่าที่เขารู้ก็มีกระดาษเท่านั้น พลาสติกมีบ้างเพราะแยกแล้วไม่มีคนรับซื้อต่อ ไกด์เขาเล่าว่าบางรัฐมีการประมูลงานให้เอกชนรับไปจัดการเรื่องขยะ แต่ก็มีปัญหาจัดการไม่ทันเพราะขาดแรงงาน
ขณะรถวิ่งผ่านเมืองก็เหลือบไปเห็นลานว่าง เข้าใจว่าเป็นสนามเล่นบอล ที่ไหนได้เป็นลานสาธารณะประโยชน์ เป็นห้องน้ำกลางแจ้ง สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะยามเย็น และจุดจ่ายน้ำของชุมชนไปพร้อมๆกัน เห็นดินแล้วรู้สึกแปลก ดูเหมือนทรายมากกว่าดิน พอเห็นน้ำที่นองขังตรงพื้นข้างรถจ่ายน้ำที่เห็นก็คิดว่าไม่ใช่ทรายแล้ว แต่เหมือนทรายมากเลย
ที่นี่น่าจะเป็นส่วนของทะเลทรายด้วย เห็นจะจะว่ากันดารน้ำ กะบะทรายบนรถลากบอกว่าที่นี่มีการก่อสร้างเยอะเหมือนกัน แต่ไหงไม่ใคร่เห็นละ
บ้านเรือน ๒ ข้างทางที่เห็นไม่มีจอดาวเทียมหรือเสาโทรทัศน์โด่เด่ให้เห็นเกลื่อนตาเหมือนบ้านเรา น่าแปลกใจเหมือนกัน ก็ไหนใครเคยเล่าว่า อินเดียสนใจวิทยุโทรทัศน์และการสื่อสารออนไลท์แล้วทำให้ขยะอีเล็กโทรนิคส์ล้นโลกจนองค์การสิ่งแวดล้อมโลกเตือนไง
เขาว่ารวมขยะอีเล็กโทรนิคส์ของอินเดียกับจีนแล้ว ขยะเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทโทรทัศน์มีมากถึง ๑.๕ ล้านตันและตู้เย็นอีกประมาณ ๖๐๐,๐๐๐ ตันต่อปี แล้วมีคนคาดการณ์ว่า ภายในปี ๒๕๖๓ ขยะอิเล็คทรอนิคส์โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์เก่าในอินเดียจะเพิ่มขึ้นประมาณ ๕๐๐ เปอร์เซ็นต์และขยะอิเล็คทรอนิคส์ประเภทอื่นอย่างเช่น โทรศัพท์ มือถือ จะสูงขึ้นประมาณ ๑๘ เท่า จากปี ๒๕๕๐
๑๐ ปีข้างหน้า ขยะจาก ๒ ประเทศรวมกันจะเพิ่มเป็น ๔๐ ล้านตันต่อปี
ไฟฟ้ามีใช้ทุกบ้าน ไกด์บอกว่าทุกบ้านมีโควต้าการใช้น้ำ ระบบประปารัฐเป็นคนดูแลให้ทั่วถึง
เห็นตัวเลขขยะแล้วน่าแปลกใจ ระบบโทรทัศน์ของอินเดียเป็นแบบไหนจึงไม่ต้องใช้จาน ใช้เสา ทั้งๆที่มีการใช้สื่อออนไลท์ผ่านสัญญาณดาวเทียม
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
« « Prev : ความรักเปลี่ยนวิธีคิด
1 ความคิดเห็น
มีภาพประกอบแบบนี้ น่าสนใจแล้ว ยังช่วยให้เข้าใจได้ง่าย อิ