เจองูระหว่างทาง

อ่าน: 1965

เส้นทางสู่อัคราที่ใช้เวลา ๔-๕ ชั่วโมงคงน่าเบื่อ ถ้าหากให้ผู้คนเอาแต่นั่ง ลุงเอกจึงถือโอกาสใช้รถบัสเป็นห้องเรียนเคลื่อนที่ซะเลย  วิชาการที่อัดแน่นของพี่โจ พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ และพี่วิชช์ ดร.วิชช์ จีระแพทย์ ได้ปลดปล่อยผ่องถ่ายเล่าให้พวกเราฟังก็อีตอนนี้เอง โดยมีลุงเอกคอยเป็นกรรมการห้ามทัพไม่ให้แย่งกันพูด

บรรยากาศเมื่อใช้รถบัสเป็นห้องเรียน เฮฮาดีมี๊ย ใช้คุยก็ได้ ใช้ร้องคาราโอเกะก็ดี ใช้แหย่ให้เกิดการสานเสวนายิ่งดีเข้าไปใหญ่

บางช่วงลุงเอกก็เล่าเหตุการณ์เสริมสลับฉลากบ้าง มีพี่เสริฐ พล.ร.อ. ประเสริฐ บุญทรง พี่นก ร.อ.ชิดชนกสิทธิ์ วัฒนศิริธร พี่เปี๊ยก ประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ พี่ดวง ดวงกมล ทรงวุฒิวิชัย พี่ไหม ดร.ชนากานต์ ยืนยง เป็นตัวแทรกหมุนกันมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ส่วนตน มาแหย่คำถาม แหย่คำต้อนผ่อนคลายให้รู้สึกสบายๆด้วยกันไปตลอดทาง ฉันได้รู้จักประเทศไทยในมุมที่ไม่ใคร่รู้เพิ่มขึ้นอีกพะเรอเกวียนเชียวหละ

บรรยากาศอย่างนี้เห็นได้ตลอดเส้นทางที่อยู่ในเขตกลางเมืองไปจนถึงชานเมืองที่ยังสัญจรสะดวก เพื่อนๆจึงถือโอกาสขอถ่ายภาพไว้ดูซะเลย

เมื่อพวกเราเหนื่อยพูด ไกด์ไทยและไกด์อินเดียก็จะเข้ามาทำหน้าที่แทน เล่าเรื่องอืนเดียที่พวกเขารู้จักให้พวกเราฟัง ตลอดเวลาที่เดินทางกัน ๕ ชั่วโมง ๒ หูและ ๒ ตาของคนที่ไม่แอบหลับจึงไม่ได้พักกันเลย

ระยะทางไม่เป็นอุปสรรคกับการจอดแวะพักเข้าห้องน้ำ รถจอดแวะเป็นระยะๆตามคำขอและตามโปรแกรมของเขา  จุดแวะก็เป็นปั๊มบ้าง จุดพักรถของร้านค้าริมทางบ้าง แต่รถอีกคันเขาแวะเก็บดอกไม้ ยิงกระต่ายริมทางกันด้วย เส้นทางที่แวะจอดก็มีอะไรให้รู้สึกแปลกตาหลายอย่างเหมือนกัน

รถวิ่งได้ครึ่งทางก็ถึงเมืองที่ชื่อ FARIDABAD เมืองเล็กๆที่มีชีวิตแปลกตาไปจากเดลีและโกลกาตาที่เคยเห็น เมืองนี้อยู่มาทางใต้ของเดลี ๒๕ กม. ทิศตะวันออกและใต้ติดกับอุตตระประเทศ เมืองนี้มีเป็นแหล่งของสีธรรมชาติ “เฮนน่า” และเป็นแหล่งสินค้าพวกตู้เย็น รถแทรกเตอร์ มอร์เตอร์ไซด์ สวิตช์เกียร์ และยางรถยนต์

ที่เห็นนี้คือชานเมืองเดลี อาคารใหญ่โตโอฬารที่เห็นคู่ขนานกับเพิงหมาแหงนริมถนน(ภาพขวาสุด) เป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาที่เห็นได้เรื่อยๆเมื่อวิ่งรถในเขตเมือง

ถนนในเขตเมืองตลอดเส้นมีรถวิ่งแน่นหน่อยแต่ไม่ถึงกับรถติดเหมือนในเดลี เมื่อวิ่งออกมาชานเมืองถนนก็โล่ง ข้างถนนเป็นทุ่งโล่งมีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้ห่างๆเป็นระยะๆ ไม้ที่เห็นก็เป็นยูคาบ้าง สะเดาอินเดียบ้าง อย่างอื่นไม่เห็น

ปั๊มที่รถพาแวะเข้าห้องน้ำมีเรื่องที่ต้องทำใจเหมือนกัน  ไม่น่าเชื่อว่าห้องน้ำหญิงจะสกปรกกว่าห้องน้ำชาย เข้าไปแล้วมีคนมาเก็บค่าหัวคิวค่าใช้ด้วย หัวละ ๑๐ รูเชียวนะ  พี่ดวงหัวไวตัดสินใจจ่ายเหมา ๑๐ รูให้ไปแทนจึงไล่ไปได้  ห้องน้ำของร้านค้าตรงจุดแวะพักรถสะอาดมีคนดูแลเฉพาะ มีกระดาษแจก มีสบู่ล้างมือไว้ให้ด้วย ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าใช้แต่อย่างใด

สภาพเมือง FARIDABAD ที่ผ่านคล้ายตลาดบ้านนอกบ้านเรามากๆ ริมถนนมีหาบเร่แผงลอยวางอยู่ เห็นผู้คนสัญจรไปมาเพื่อซื้อหาสิ่งของจำนวนประปราย รถต้องหยุดเพื่อเสียค่าภาษีผ่านทางระหว่างเมืองด้วย มีถนนที่มีช่องทางคล้ายทางด่วนให้วิ่งผ่านไปด้วยระหว่างเดลีและเมืองนี้ไม่รู้ว่าเป็นด่านจ่ายภาษีการใช้ถนนด้วยหรือเปล่า

ถนนที่เห็นในแถบเมือง FARIDABAD ซึ่งเป็นอำเภอแบ่งเลนเหมือนถนน ๔ เลนในบ้านเรา

เมืองนี้ค้นพบโดยคนมุสลิมชื่อ Shaikh Farid  เมื่อปีพ.ศ. ๒๑๕๐  คนอพยพจากปากีสถานจะเข้ามาอยู่กันที่นี่ เขาว่าที่นี่มีรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยวเยอะด้วยนะ

รถจอดเสียภาษีอยู่นานพอให้ได้เห็นเรื่องแปลกตา มีโอกาสได้เห็นแขกกับงูจะจะตาก็ตอนนี้  งูเชื่องซะจนเหมือนงูปลอมเชียวหละ แขกเก่งจริงๆเป่าปี่มือเดียวอีกมือยกตะกร้าขึ้นโชว์ได้ ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่ายหรอกจิบอกให่

เมื่อใครสอดส่องตาดูเขาหรือคุยด้วย มีคนเล่าว่าคนอินเดียเขาจะแบมือขอค่าหัวคิวนะ แขกที่ยกงูขึ้นให้ดูก็ทำอย่างนั้น เมื่อเขาโชว์งูแล้วเขาก็แบมือขอไม่ต่างกัน แต่พวกเราก็ไม่มีใครส่งค่าหัวคิวให้ไป

ยกงูโชว์ เหมือนยกขนมให้เลือกเลย….บรื้อววว  งูริมทาง ห้องน้ำริมทาง ตีงู ตีแขก จะเลือกทำอย่างไหนก่อนดี หากต้องเลือก

๗ สิงหาคม ๒๕๕๓

« « Prev : ไม่น่าเชื่อ

Next : BIMSTEC เอื้อให้ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "เจองูระหว่างทาง"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.045671939849854 sec
Sidebar: 0.22212100028992 sec