ขอต้นโพธิ์คุ้มครองและอวยชัยให้

อ่าน: 1905

หลังจากทีมงานของสถานทูตช่วยให้ข้อมูลพวกเราจบลงแล้ว พวกเราก็พากันแยกย้ายหาที่ลงใหม่  บ้างก็เข้าห้องน้ำ บ้างก็พาตัวไปเลือกซื้อผ้าที่มีแขกมารอขายอยู่นานแล้ว รอห้องน้ำไปพลาง หลายคนพาตัวออกไปถ่ายภาพหมู่กันและหลายคนทะยอยกันเข้าไปหาโต๊ะนั่งกินอาหารค่ำกัน

สาวไทยในภาพวาดกับสาวไทยที่ยืนยิ้มอยู่ล้วนทำให้สบายตาสบายใจเมื่อได้พบเห็นเนอะค่ะ

บรรยากาศที่ท่านทูตจัดให้เป็นดินเนอร์ที่หรูเชียวค่ะ อาหารอร่อยเป็นเมนูอาหารไทยทั้งนั้นเลย คนที่กินอาหารอินเดียแล้วเบื่อมาหลายมื้อ พากันอิ่มท้องอร่อยลิ้นไปตามๆกัน

อิ่มกันแล้วก็นั่งคุยกัน ในช่วงนี้เองที่ฉันได้มีโอกาสเข้าใกล้ท่านทูต เข้าใกล้ได้แล้วก็ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกซิ จะรออยู่ไย ได้ภาพมาแล้ว ท่านก็บอกว่า อย่าลืมนำขึ้นบล็อกให้เพื่อนๆชาวบล็อกได้เห็นกันด้วย

บันทึกนี้จึงขอทำตามคำสั่ง นำรูปถ่ายหลายๆรูปในช่วงดินเนอร์มาให้ได้ชมกัน  ระหว่างนั่งโต๊ะก็คุยกัีนไปสัพเพเหระ  แล้วก็ชวนกันเดินไปคารวะต้นโพธิ์ใหญ่หลังสถานทูต  ตามเก็บใบโพธิ์ร่วงที่ยังสดอยู่ไปเป็นมงคลแก่ตนเองและนำไปฝากคนอยู่เมืองไทย  เดินเล่นกันเป็นครู่แล้วจึงพากันออกมาที่ด้านหน้า

ขอบคุณสำหรับดินเนอร์อาหารไทยอร่อยๆ และบรรยากาศที่พาเพลินจากท่านทูตพลเดช วรฉัตรค่ะ

ระหว่างเดินกลับเข้าไปในอาคารสถานทูต เจอถุงเงินของใครบางคนหล่นอยู่ที่พื้น โอ้โหเงินเยอะเลยของใครกัน ต้องเป็นของเพื่อนๆแน่นอนเชียว กะว่าจะนำไปถามหาเจ้าของ เจอน้องนุชไกด์ประจำกลุ่มเข้าพอดี เธออาสาไปหาเจ้าของให้ จึงมอบหน้าที่ให้กับเธอไป ได้ทราบภายหลังว่าที่แท้เจ้าของคือคุณกุ้ง อารีรัตน์ เลาหพล เกือบเสียเงินหลายหมื่นไปแล้วนะคุณกุ้งนะ

เข้ามาในสถานทูตแล้ว แขกขายผ้ายังไม่กลับเลย และยังมีหลายคนที่เลือกผ้าอยู่แบบไม่เลิก  ผ้ากองใหญ่ที่แขกนำมาขาย หายไปกว่าครึ่งเทียบกับที่เห็นแวบแรก

เมื่อออกมารอกันอยู่ ก็พบว่ามีหลายคนหายตัวไป มารู้ทีหลังว่าท่านทูตพาไปเดินชมบ้านพักทูต ไม่ได้ชมเหมือนเพื่อนๆที่ได้ชมแปลว่าวันนี้ยังไม่มีวาสนา ขึ้นไปรอบนรถสักครู่ จนกระทั่งท่านทูตเดินมาส่ง จึงลงจากรถลงไปคารวะลาท่าน

กินข้าวกันอิ่มแล้วก็มีเซอไพร๊ท์วันเกิดเพื่อนที่เกิดในเดือนสิงหาคม หลังจากนั้นก็ให้น้องต้น (สุชาติ ชวางกูร) ร้องเพลงขอบคุณท่านทูต

หลังจากนั้น รถบัสก็พาเรากลับมาที่พัก ซึ่งเป็นโรงแรมใหญ่ แต่เราก็ต้องรอกุญแจห้องพักกันอยู่นาน โรงแรมนี้มีบรรยากาศหรู แต่บริการของพนักงานสู้บริกรบ้านเราไม่ได้ในเรื่องความคล่องแคล่ว เขามีระบบความปลอดภัย ตรวจสอบระเบิดและอาวุธเหมือนสนามบินด้วย

ระหว่างรอ ฉันคว้ากล้องมาหามุมถ่ายรูปดอกลิลลี่สวยที่อยู่ใจกลางห้อง ยามเดินเข้ามาห้ามว่า “no photograph” อีกแล้ว

ได้กุญแจห้องพักแล้วก็ชวนกันขนกระเป๋าขึ้นไปห้องพักกันเอง ไม่รอบริการจากโรงแรมกันหรอกค่ะ เพราะว่าถ้าขืนรอ มีหวังไม่ได้อาบน้ำ และได้เข้านอนช้าแน่นอน เข้าห้องพักไปเกือบชั่วโมงแล้ว กระเป๋าของคนร่วมห้องจึงถูกส่งมาให้  รูมเมทยังเป็นคนเดิมค่ะ แต่เธอหายตัวไปไหนไม่รู้ กว่าจะกลับมาที่ห้องให้เห็น ฉันเกือบหลับไปแล้ว

บรรยากาศที่ใต้ร่มโพธิ์ศักสิทธิ์บริเวณสถานทูตไทยในเดลียามค่ำคืนเป็นอย่างนี้แหละค่ะ

อาบน้ำแล้วก็เปิดทีวีดูซะหน่อย หนังอินเดียที่เปิดเจอเป็นเรื่องในครอบครัว หลายช่องก็เป็นข่าว หลายช่องก็เป็นเกมโชว์ คล้ายๆบ้านเรา ซึ่งบอกว่าในแวดวงต่างๆของเวทีโลกทั้งธุรกิจ การเมือง การท่องเที่ยว ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะและแฟชั่น อินเดียมีความน่าสนใจในหลากหลายแง่มุม

๒ ชาติจากเอเชียที่จะเป็นผู้ทรงอิทธิพลของโลกในอนาคตอันใกล้นี้อย่างจีนและอินเดีย ไม่ได้มีแค่วัฒนธรรมอันเก่าแก่สืบย้อนไปได้ไกลกว่าหลายประเทศในตะวันตกเท่านั้น แต่เจเนอเรชั่นปัจจุบันของทั้ง ๒ ชาติได้กระจายอิทธิพลและมีบทบาทอยู่ในแวดวงต่างๆของโลกแล้ว

อินเดียมีนางงามโลกและนางงามจักรวาลมาแล้ว  มีผู้กำกับที่ยืนอยู่แถวหน้าของฮอลลีวู้ด มีโรงแรมห้าดาวที่ได้ชื่อว่าบริการมาตรฐานอินเตอร์อย่างโรงแรมที่ฉันหย่อนตัวนอนอยู่ในคืนนี้แล้ว  การท่องเที่ยวก็กำลังบูม ภาคธุรกิจก็มีนักธุรกิจรุ่นใหม่กับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่กำลังมีบทบาทในระดับโลกเป็นอย่างมาก เอะใจว่าคนไทยเราอยู่ที่ไหนกันบ้างแล้วขึ้นมาเลยเชียว

เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้รับเกียรติจากผู้ใหญ่ที่น่านับถือให้ได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ขอบคุณในโอกาสที่มอบให้ค่ะท่านทูต

ในหนังที่กำลังดูอยู่นั้น ดารายังคงสวมชุดส่าหรีอยู่ เวลาไปออกงานธุรกิจตามที่เห็นในหนังก็ใส่ส่าหรี ได้ยินมาว่าอินเดียสร้างอุตสาหกรรมหนังขนาดใหญ่เป็นของตนเองแข่งกับ Hollywood ใช้ชื่อเรียกว่า Bollywood  ซึ่งขายตั๋วได้มากกว่าหนังฮอลลีวู้ดนำเข้าอีก

พฤติกรรมการบริโภคสินค้าหรูหรานั้นชาวอินเดียไม่อุดหนุนแบรนด์หรูต่างชาติยี่ห้อไหนๆ แต่จะอุดหนุนแบรนด์หรูที่ผลิตโดยคนอินเดียเอง  เขาว่าใน๖ อันดับแบรนด์หรูยอดนิยมนั้นเป็นแบรนด์อินเดียเองถึง ๓ อันดับเชียวนะ

ผ่านไปตรงไหนก็เห็นการก่อสร้าง ไม่ถนนก็สร้างตึก แม้แต่รอบประตูชัยที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่เว้น

ข้างโรงแรมที่มาพักในคืนนี้ มีลานจอดรถด้วย แว่วๆจากเพื่อนๆที่มาด้วยว่ามีห้างสรรพสินค้าด้วย แต่ฉันไม่ได้ออกไปเดินสำรวจหรอกเพราะว่าง่วงนอน  ห้างสรรพสินค้าที่แต่ก่อนมีอยู่น้อยแห่งเริ่มบูมในอินเดียมากขึ้น อัตราผู้บริโภคมีแนวโน้มในการใช้จ่ายเงินสูงขึ้นโดยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุต่ำกว่า ๒๕ ปี มีคนทำนายไว้ว่าในอีก ๓ ปีข้างหน้า ตลาดสินค้าหรูหราในอินเดียจะเพิ่มขึ้นถึงปีละ ๒๕%

ระหว่างทางที่รถบัสวิ่งผ่าน สองข้างทางมีการก่อสร้างถนนสายยาวทีเดียว เป็นความเปลี่ยนแปลงที่อินเดียกำลังตะโกนก้องร้องบอกโลกว่าฉันกำลังเปลี่ยนไป การจะมองอินเดียด้วยสายตาเก่าๆคงไม่ได้แล้ว  ต่อไปคงต้องหันมาพูดใหม่ว่าถ้ามีคนอินเดียอยู่ในทุกๆที่ด้วย ต้องระวังการเปลี่ยนแปลงไว้ด้วยคงจะได้

ขึ้นรถก็พากันหลับจนมาถึงโรงแรม ๕ ดาวที่พักนอนกันในคืนนี้

๖ สิงหาคม ๒๕๕๓

« « Prev : incredible india

Next : บางอย่างก็เหมือน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ขอต้นโพธิ์คุ้มครองและอวยชัยให้"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.053989887237549 sec
Sidebar: 0.18798613548279 sec