คนดูใบ
อ่าน: 1161ปีนี้ธีมของงาน HA Forum ยังชี้ทิศนำไปสู่ปลายทางคือการเรียนรู้โลกภายในเพื่อสร้างความสมดุลแห่งความรู้สึกและความคิดต่อยอดมาจากปีก่อนๆ ศัพท์ใหม่ได้ถูกบัญญัติขึ้นใช้เรียกหา ในนาม “SHA”
ในเมื่อทิศทางเป็นเรื่องของ SHA ก็เป็นที่แน่นอนว่าพื้นที่ของงานจะถูกแบ่งปันให้จอมยุทธ์ที่ช่วยนำพาให้รู้จักใช้เข็มทิศนำทาง
จอมยุทธ์อย่างอ.วรภัทรที่คุ้นเคยกันของชาวลานเป็นผู้หนึ่งที่งาน HA แบ่งพื้นที่ของเวลาให้ได้ร่วมแบ่งปัน
เมื่อไปถึงงาน HA และรับรู้ตารางของเวลาที่จัดไว้ให้สำหรับการแบ่งปันในช่วงของงาน ๓ วันนั้น ใจที่ตอนแรกเบื่อๆก่อนมานั้นได้ผ่อนคลายและเปิดอ้าออกพร้อมรับกับการเรียนรู้ ฉันจึงตั้งใจใช้เวลาในช่วงวันแรกของงานในการลองเรียนกับผู้มาร่วมแบ่งปันหน้าใหม่หลายคนแล้วตั้งใจว่าจะแบ่งเวลาให้กับการไปรายงานตัวที่หน่วยงานลุงเอกในฐานะนักเรียนโข่งรุ่น ๒ในวันที่ ๒ ของงาน เพื่อเหลือเวลาของวันที่ ๓ ของงานไม่ให้กลายเป็นอุปสรรคในการเก็บเกี่ยวเรื่องราวจากอีกงานประชุม
เอาเข้าจริงสิ่งที่คิดไว้ล่วงหน้าไม่ได้ทำ สิ่งที่ได้ทำกลับเป็นสิ่งที่คิด ณ ปัจจุบันขณะไปได้
เช้าวันที่ ๒ ดูสถานการณ์หลายอย่างแล้ว ฉันตัดสินใจปลีกตัวไปรายงานตัวนักเรียนโข่งก่อน ก่อนไปคิดไว้ว่าน่าจะกลับมาทันเวลาฟังจอมยุทธ์อย่างอาจารย์ไร้กรอบได้ทัน
เอาเข้าจริง ปรากฏว่าไม่ทันอาจารย์แฮะ ถึงเวลาเป๊ะอาจารย์เริ่มไปแล้ว เฉือนเวลาช้ากว่าแค่ไม่กี่นาที อาจารย์ว่าไปยาวแล้ว ก็ทำได้แค่ปะติดปะต่อ ตามฟังเท่าที่ทัน
บริเวณห้องที่อาจารย์ใช้เป็นพื้นที่ผ่องถ่ายวิทยายุทธ์แน่นขนัดชนิดไม่มีที่ยืน ผู้คนล้นห้อง แม้กระทั่งห้องโถงทางเดินนอกห้องที่เป็นลานกว้างก็เต็มไปด้วยแฟนคลับ ในเมื่อที่ยืนก็ไม่มี ที่นั่งก็ไม่มี แล้วเจ้ากรรมวันนี้ ลืมพา(แว่น)ตาติดตัวมาด้วย ความที่ตาฟางเหมือนไก่ฉันจึงพาตัวไปนั่งที่ห้องโถงซิ ก็ตรงห้องโถงนะมีจอภาพใหญ่ๆให้ได้เห็นหน้าอาจารย์ชัดๆโดยไม่ต้องเบียดใครได้
บางช่วงที่นั่งฟังอยู่ ก็ได้ยินเสียงวิพากษ์ซ้อนมาให้ได้ยินอยู่ข้างหู พูดตรงดี ชอบใจๆ
ลีลาและวาทะที่อาจารย์ไร้กรอบกระแทกสติของบรรดาหมอๆพยาบาลนั้นดุจดังน้ำแข็งที่ถูกตักราดใส่ตัวให้สะดุ้ง
ถ้าใจเปิดจะได้ยินคำที่อาจารย์ต้องการสื่อให้รับฟังคนป่วยไข้ เป็นตัวแทนคน(เคย)ป่วยไข้ ขอให้หมอฝึกฝนวิชา “รู้ใจเขา” และวางวิชา “รู้ใจเรา” แบบแขวนไว้ ก่อนลงมือรักษาคน
เรื่องราวส่วนหนึ่งที่ถ่ายทอดเมื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องมุมมองความโหลยโท่ยของวงการศึกษาที่กำลังเป็นอยู่ก็กระแทกความคิดของครูบาอาจารย์แพทย์ไม่เบาในฐานะสถาบันการศึกษา
ในส่วนตัวของฉันนั้นรู้สึกขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยเคาะกระโหลกให้ผู้คนมองเห็นความสำคัญของคำว่า “พื้นฐาน”
วจี “คนดูใบ” ซึ่งทีแรกคนฟังเข้าใจไปถึงคนๆหนึ่ง ได้หลุดออกจากปากให้ได้ยินและเรียกเสียงฮา คำๆนี้มีนัยยะเตือนให้ไม่ลืมว่า รากหรือฐานเป็นความสำคัญของการสร้างคน คนดูแต่ใบคือคนที่ก้าวกระโดดไปมองแต่ใบ ไม่มองฐานหรือรากเอาซะเลย
ผลของการโดนน้ำแข็งราด
บอกตัวเองว่าอย่าลืมๆ อย่าลืมนำมาเชื่อมโยงเรียนรู้ก็แล้วกัน
มีวจีอีกมากหลายที่อาจารย์เอ่ยให้ได้ยินลองเก็บเกี่ยวไปค้นหาความหมายดูนะคะ : ขุดร่องให้ตกเหว , โง่แล้วยังอวดโง่, รู้ลึกโง่กว้าง,
มีแง่มุมแง่คิดที่ฝากไว้ให้ทบทวนตัวเองด้วย :
ถูกหลอกมาทั้งชีวิต ทำไม?
เชื่อในทฤษฎีที่ไม่ได้พิสูจน์ไว้บาป
ความต่างที่มารวมกันทำให้เกิดนวตกรรม
ป.ทั้งตัว คือ ปมอะไรที่พ่อแม่ให้มา
โจทย์ของความล้มเหลวเคยทวนดูไหม
เฉโกรู้จักกันมั๊ย (อยากมีปัญญาให้ยูเทิร์น สิ้นคิดก่อน)
ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำลายชาติ
๑๓ มีนาคม ๒๕๕๓
« « Prev : คนสองใจ
Next : ก่อนเริ่มเรียนก็เจอโจทย์ทั้งในงานและนอกงาน » »
2 ความคิดเห็น
ดูใบ ไม่ดูอย่างอื่น จึงฝืดฝืนใจเฝือนไม่ครบเครื่องครบครัน
อยากอ่านเรื่อง เข้ากระบวน สสสส2 vb
กำลังเรียบเรียงความคิด ให้เวลากับความช้า ขอเวลาตกผลึกหน่อยค่ะพ่อครู