เปลี่ยนฟอร์ม

โดย สาวตา เมื่อ 26 กุมภาพันธ 2010 เวลา 0:50 ในหมวดหมู่ การจัดการ, ประสบการณ์ชีวิต, วงเสื้อกาวน์, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 2033

ปกติเวลาที่ทีมงานออกไปทำงานเป็นวิทยากร ส่วนใหญ่สไตล์ที่ใช้จะเป็นแบบพูดคนเดียวฟังหลายคนตลอดมา เวลาถามว่าพูดจบแล้วรู้หรือเปล่าว่ามีคนรู้เรื่องสักเท่าไร หลายๆคนจะตอบว่าทำ pre-test, post-test ไว้ขอไปคำนวณดูก่อน ถามพวกเขาไปหลายครั้งได้คำตอบอีหรอบนี้ทุกทีไป หรือไม่ก็ตอบว่า คนที่มาเข้าร่วมเขาประเมินผลว่า พอใจวิทยากรร้อยละเท่านั้นเท่านี้ ถามมากเข้าว่าแล้วคนเข้าเขารู้อะไรเพิ่มขึ้นจากก่อนเข้าบ้าง ตอบคร่าวๆได้หรือเปล่า ก็เคืองให้อีก ไม่รู้เป็นอะไรกันไปหมด

คราวนี้ก่อนออกไป ตกลงหลักการว่า ที่จ่ายงานให้ทุกๆคนเป็นหัวข้อที่จะได้ชวนคนเข้าให้ได้ลงมือลอง

ก่อนที่พิธีเปิดจะเริ่มขึ้น ระหว่างรอฉันก็บริหารเวลาขอให้ผู้เข้าร่วมแบ่งกลุ่มเพื่อเป็นคู่บัดดี้เรียนรู้  ก่อนจัดที่ทางปูเสื่อ ฉันสังเกตเห็นมีกระดาษเย็บมุมชุดใหญ่วางอยู่ตรงหน้าผู้เข้าร่วม เอ๊ะอะไร หยิบขึ้นมาอ่าน ปรากฏว่าเป็นเรื่องราวด้านสุขภาพพิมพ์อยู่แน่นเอี๊ยด ซึ่งผู้เข้าเข้าใจว่าทีมงานฉันเป็นผู้นำมาให้

เห็นอย่างนั้นฉันจึงประกาศว่า “เอกสารที่อยู่ในมือท่าน เป็นความปรารถนาดีที่ทางอบต.เขาค้นมาให้ แต่วันนี้ที่จะมาแลกเปลี่ยน ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องราวในเอกสาร ขอให้เก็บไปอ่านที่บ้าน วันนี้ขอมาทำหน้าที่แลกเปลี่ยนกัน ไม่ได้มาเป็นครู ขอไม่ใช้รูปแบบให้ท่านเป็นนักเรียน แต่จะมาชวนเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ดีกว่า”

บรรยากาศระหว่างน้องหมอฟันกำลังสอน

เมื่อพิธีเปิดเสร็จสิ้นลง น้องเจ้าของโครงการก็รีบจัดห้องให้ ได้พื้นที่โล่งสำหรับปูเสื่อบนพื้นให้คนที่สามารถนั่งพื้นได้มาหน่อยนึง คน ๒ กลุ่มพากันนั่งลงบนเสื่อ คนบางกลุ่มยังคงนั่งเกาะโต๊ะกันไว้แน่น ฉันจึงเข้าไปขอให้จัดกลุ่มนั่งกลุ่มละ ๔ คนแบบไม่มีโต๊ะคั่นกลางเพื่อให้สามารถทำกิจกรรมไปด้วยกันได้

เช็คอินจุดประสงค์ของการมาเข้าร่วมว่าคาดหวังอะไรก่อนเริ่มกิจกรรม เพื่อสรุปเป็นประเด็นที่จะนำมาแลกเปลี่ยนกันและทวนสอบว่าอุปกรณ์ที่เตรียมมาใช้นั้นพอสำหรับประยุกต์ให้ลองลงมือทำได้ด้วยหรือเปล่า  ได้คำตอบออกมาเป็น ๗ เรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาของการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ

ได้ประเด็นก็เริ่มโยนไมค์ให้หมอฟันเป็นคิวแรกว่าไปก่อน อย่างที่เล่าเอาไว้แล้วว่า กว่าจะได้เริ่มทำงานก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงครึ่ง เมื่อหมอฟันเริ่มทำงาน ตายละวา น้องเราใช้วิธีพูดคนเดียวยาวเหยียดแล้วปล่อยให้คนหลายคนฟังอีกแล้ว เธอพูดเรื่องการตรวจฟันและพลิกรูปให้ดู แบบว่าเป็นชุดๆโดยไม่ได้เช็คคนฟัง เช็คเวลาเอาซะเลย

จับทางได้ว่าคนฟังจับประเด็นไม่ได้กับการคุยที่ทำอยู่ ฉันจึงตัดสินใจแทรกตัวเข้าทำงานด้วยแบบคู่หูดูโอ ชวนคนฟังให้พาตัวเข้ามาสู่บรรยากาศการฟังใหม่ ให้บอกว่าที่น้องหมอพูดไปแล้วมีอะไรที่ได้ฟังแล้วจับเคล็ดได้บ้าง  ได้ยินเสียงอ้ำๆอึ้งๆไม่กล้าตอบ  จึงบอกน้องหมอให้แจกกระจกตรวจฟันคนละด้ามแล้วส่งสัญญาณให้น้องหมอรับลูกต่อ  “เอ้าไหนๆดูฟันซิ ในปากตัวเองมีฟันผุหรือเปล่า ดูแล้วเห็นอะไร ยกมือขึ้น จะได้ให้หมอฟันเดินไปยืนยันว่าที่เห็นใช่ฟันผุหรือเปล่า”

คนเรียนกำลังสนุกกับการได้เห็นฟันตัวเองกับตา พี่เลี้ยงก็สนุกไปด้วย

ระหว่างนี้เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจเริ่มดังขึ้น น้องหมอเดินไปทีละกลุ่ม เพื่อชวนเรียนรู้เป็นรายคน  ส่วนฉันก็โยนคำถามซ้ำว่า “ใครที่ในปากตัวเองไม่มีฟันผุเลยบ้าง”  ปรากฏว่ามีคนเดียวจากทั้งห้องที่ยกมือแสดงตัว  จึงชวนให้เธอขอดูฟันเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆเป็นบทเรียน

ดูแล้วเธอคงเอ๊ะกับตัวเองมั๊ง เมื่อรอกลุ่มให้ตามกันทัน ฉัันสังเกตเห็นเธอลงมือส่องกระจกดูปากตัวเองใหม่ แล้วอมยิ้มขำๆอยู่คนเดียวแบบเปลี่ยนฟอร์ม

สังเกตว่าทุกคนเริ่มกลับมาสนใจแลกเปลี่ยนเรียนรู้แล้ว จึงชวนเขาให้สะท้อนการเรียนรู้ให้ได้ยินกับหู ” ฟันผุที่ควรแจ้นไปหาหมอถ้าเจอเป็นอย่างไร”  โป๊ะเช๊ะได้คำตอบตรงประเด็นที่ตั้งใจไว้ให้เขาได้รับไป จึงโยนไมค์กลับให้น้องหมอคุยให้ฟังต่ออีกประเด็น “หินปูนกับรำมะนาด”

คราวนี้ให้เขาลงมือดูฟันตัวเองอีกครั้ง สังเกตว่าจะใช้เวลามากมายหากให้น้องหมอเดินไปตามกลุ่มแล้วอธิบายรายคนแบบเดิม ฉันจึงขอให้ทุกคนวาดภาพความสัมพันธ์ระหว่างฟัน เหงือกและหินปูนลงในกระดาษ  แล้วให้ทีมงานเดินไปแลกเปลี่ยนชวนทำชวนเรียนรู้และยืนยันความเข้าใจ  ใครเข้าใจผิดกับสิ่งที่ตาเห็นก็แก้ไขความรู้ซะใหม่เป็นรายคน  แล้วชวนให้น้องหมอสรุปซ้ำเพื่อย้ำประเด็นสำคัญที่จะทำให้เสียฟัน

เดินไปตามกลุ่มเืพื่อยืนยันสิ่งที่เห็นว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่”

ฉันรับไมค์มาคุยแลกเปลี่ยนเรื่องการดื่มน้ำเพื่อลดผลของโรคความดันโลหิตสูง ทำความเข้าใจผลเลือดที่เกี่ยวข้องกับกรดยูริก แล้วไมค์ถูกโยนต่อให้น้องผู้ชายอีกคนที่ไปด้วย ให้คุยประเด็นของการเจาะเลือดว่าทำยังไงจึงทำง่ายและไม่เจ็บ อ้าวแล้ว น้องออกนอกเรื่องไปคุยเรื่องขอความเห็นใจคนทำงานเหนื่อยในร.พ. กว่าจะวกกลับมาเรื่องประเด็นความรู้ทำเอาใจหายใจคว่ำ

มือใหม่หัดขับคนนี้เพิ่งดึงตัวจากห้องปฏิบัติการมาทำงานด้วยกัน  ใจหายใจคว่ำด้วยเกรงทีมงานคนอื่นจะไม่เข้าใจตัวเขา แล้วทำให้เกิดแตกคอกันไปแทนที่จะได้ทำงานด้วยกันต่อ

รับไมค์มาต่อเมื่อเขาพูดจบ ชวนวงให้กลับมาคุยแลกเปลี่ยนสะท้อนการเรียนรู้ ได้เรื่องว่าผู้เข้าได้สิ่งที่มีประโยชน์อีกมุม จึงเปลี่ยนโยนไมค์ให้ทีมงานอีกคนเข้ามาลงมือชวนเรียนรู้ต่อไป

มือใหม่หัดขับคุยกับป้าๆน้าๆพี่ๆ  เจ้าของโครงการ(เสื้อเหลือง)นั่งสังเกตกระบวนการ

คราวนี้การเรียนเปลี่ยนเป็นการเล่น ให้บทเรียนผลัดกันใช้ตาดู ใช้มือทำ ใช้ฝ่าเท้าของคู่บัดดี้เป็นอุปกรณ์ประกอบการเรียน บทเรียนจั๊กจี๊ฝ่าเท้าค่ะ

รอบแรกให้ผลัดกันดูว่าฝ่าเท้าใครบ้างที่เห็นสิ่งไม่ธรรมดา หลายเสียงบอกว่า “เท้าแตก” ได้เรื่องแล้วนี่ ผู้เข้าใ้ห้ใจเรียนแล้ว  ฉันจึงชวนต่อให้ใช้กระดาษทิชชูเป็นอุปกรณ์ เขี่ยเท้ากันเล่น สาธิตแนวเส้นที่ให้เขี่ย แล้วเฉลยว่าเล่นอย่างนี้มีประโยชน์อะไร เมื่อผู้เข้าเข้าใจประโยชน์  มีเสียงเซ็งแซ่ว่า เอาใหม่ๆ บอกใหม่วิธีเขี่ย เขี่ยอย่างไร

แจกหนังสือพิมพ์เพื่อชวนเล่นแล้วเรียนรู้

ชวนเขี่ยด้วยกระดาษแล้วก็เปลี่ยนอุปกรณ์ ขอให้ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงที่ปลายหัวแม่เท้า โคนนิ้วหัวแม่เท้า นิ้วกลาง และนิ้วนาง ๔ จุด แล้วให้ทดสอบแรงมือลงบนดินน้ำมัน เปรียบเทียบความหนักของมือ เพื่อให้รู้แรงหนักเบา  แล้วเฉลยว่าวิธีนี้ใช้ตรวจคร่าวๆเรื่องเท้าชาได้ แล้วหากพบชามันสื่อถึงอะไรกำลังจะเกิดขึ้นต่อไปของคนเป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูง

หลังจากนั้นก็ฉีกกระดาษหนังสือพิมพ์กันเป็นที่สนุกสนานค่ะแล้วต่อด้วยให้นอนเล่นยางยืดแบบเด็กๆ เป็นที่สนุกสนานอีกนั่นแหละ เสียงกิ๊วก๊าวแซวกันดังเซ็งแซ่ ไม่กิ๊วได้ยังไงก็มีคนใส่กระโปรงนอนยกขาสูงนอนเล่นยางยืดอยู่ตรงหน้า คนเล่นก็เพลินจนลืมตัวว่ามีคนนั่งอยู่ตรงปลายเท้า

วิธีเล่นกับหนังสือพิมพ์ทีู่้ผู้สูงอายุทุกคนได้ประโยชน์ คนเบาหวานห่างการเสียเท้า

บรรยากาศการเรียนสนุกสนานทีเดียวเชียว เหลือบเห็นเวลาใกล้สี่โมงครึ่ง เห็นว่าได้เวลาแล้วจึงชวนให้ผู้เข้าสะท้อนคำถามที่อยากรู้ ไม่มีคำถามด้วยเหตุเวลาโรงเรียนเลิก

เล่นกันอย่างนี้แหละที่มีเสียงกิ๊วก๊าวลั่นห้องเซ็งแซ่

๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

บันทึกอื่น : 

๑. ติดฟอร์ม

๒. ปลดฟอร์ม

« « Prev : ติดฟอร์ม

Next : ปลดฟอร์ม » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "เปลี่ยนฟอร์ม"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.094120025634766 sec
Sidebar: 5.5296380519867 sec