ทบทวนก่อนเดินต่อการปรับปรุง
อ่าน: 1077การเตรียมรับการตรวจเยี่ยมจากสรพ.ในครั้งนี้เป็นอะไรที่ดำเนินไปอย่างเงียบเชียบในหลายๆฝ่าย เช้านี้ไปเจอน้องซึ่งทำงานในห้องข้างๆ เธอเอ่ยความในใจออกมา้ว่า “หวั่นใจ” คุยๆไปจึงชัดว่าที่หวั่นใจด้วยไม่รู้ว่าเธอควรเตรียมตัวในเรื่องของตัวอย่างไรจึงเหมาะเจาะกับฝ่ายที่เตรียมตัวเข้มอยู่
ฟังเธอแล้วก็เหลียวมองไปด้านงานคลินิกก็ได้เห็น อือ ความตื่นตัวอย่างเข้มข้นที่เห็นอยู่ในบางกลุ่มจริงๆ เหล่านางฟ้าที่่อาวุโสงานล้นมือและตื่นตัวกับการเตรียมการกันอยู่ เหล่านางฟ้าที่ยังเอ๊าะๆนั้นทำงานไปอย่างปกติกันอย่างทุกๆวัน ผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังกลุ่มสำนักงานร่วมสนองงานด่วนที่ผู้บริหารเน้นให้พัฒนาเพิ่ม ส่วนใหญ่ที่มอบหมายเป็นงานง่ายๆที่ไม่ต้องใช้ความคิดมากมาย ขอกันว่าเมื่อไรชี้ก็ขอให้ลงมือดำเนินการทันที
คุยกันต่อจึงชัดว่าที่ “หวั่นใจ” ่ใช่ว่าเธอไม่ทำีอะไร เตรียมตัวนะเตรียมอยู่ แต่เธอรู้สึกเหมือนอยู่นอกวงยังไงไม่รู้ ฉันจึงบอกเธอไปว่าเตรียมตัวอย่างที่เตรียมอยู่นั้นดีแล้วให้ทำต่อไป เรื่องที่ควรเตรียมเพิ่มไว้ให้มากคือเรื่องซึ่งเธอเป็นคนรวมอยู่แต่ผู้เดียวนั่นแหละคือเรื่องสำคัญ เมื่่อถึงเวลารวมตัวกันเรื่องทุกๆเรื่องสามารถเชื่อมโยงกันได้ทั้งสิ้น
บอกเธอไปให้หายห่วงก็ปรึกษาเรื่องหนึ่งที่ไปเห็นมา เรื่องราวนี้พบแล้วไม่สบายใจกับความเสี่ยงที่ผู้คนต่างมีอยู่ เป็นเรื่องราวที่ไปเกี่ยวข้องตรงสถานที่ที่รับมอบให้ดูแลปรับภูมิทัศน์ ด้วยเดินไปพบบ่อยๆว่ามีสัตว์ซึ่งนำโรคได้มาเพ่นพ่านอยู่มากมายและเจอบ่อยซะด้วย
การจัดการเรื่องเศษอาหารและไขมันที่ดำเนินการไปแล้วบางส่วน ยังไม่ใช่เรื่องถาวรที่สมควรจะดีใจว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว ความรู้สึกพอใจที่เล่าไว้อยู่ในระดับพอใจตามสมควรต่อบริบทเวลาและความซับซ้อนที่สัมพันธ์กันอยู่เท่านั้น การจะทำอะไรต่อควรค้นหาปัญหาที่ซ่อนอยู่ซึ่งยังไม่รู้ต่อไปซะก่อน ค้นหาแล้วมาขบคิดหาความรู้ทำอย่างไรจึงจะช่วยคนที่มีวิถีอยู่ตรงนี้ให้ปลอดโรคกันได้จะดียิ่งกว่ามากๆ
หลายเรื่องของโรคที่เกิดขึ้นเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคน สิ่งแวดล้อม และปัจจัยเสี่ยง กรณีนี้อาจจะเกิดผลเรื่องของโรคจากสัตว์สำคัญกลุ่มหนึ่งได้อยู่ไม่น้อยเลย หากใครเคยได้ยินโรคฉี่หนูก็คงรู้ว่าโรคนี้เกี่ยวกับตัวอะไรนะคะ ใช่แล้วสองสัปดาห์ที่ทำงานไปฉันได้พบกับปัญหาหนูระบาดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว อีกตัวที่พบว่ามาเจ๊าะแจ๊ะให้หนวกหูคือนกกระจอก
หนึ่งสัปดาห์ที่เหลืออยู่จะทำยังไงให้เรื่องนี้ลดปัญหาสัตว์เหล่านี้ลงได้ ดูยากเย็นอยู่ไม่น้อย ควรเลือกทำอะไรดีจึงจะไม่ทำอะไรที่ผิดศีล ๕ เป็นเรื่องที่ต้องไตร่ตรองมากมายเลยค่ะ ก่อนนำเรื่องไปขอให้แก้โดยฝ่ายงานที่เกี่ยวข้องตรง
วันนี้ปรึกษาน้องๆให้ช่วยหาเรื่องราวของหนูมาให้ อ่านเรื่องมันแล้วยิ่งหนักใจทำอะไรดีหว่า ตำราที่ได้อ่านบอกว่าพวกหนูนั้นมีลูกดกยิ่งนัก ปีหนึ่งมันฟูมฟักให้เกิดหนูรุ่นต่อๆมาได้ถึงพันตัวเริ่มจากแม่พันธุ์พ่อพันธุ์คู่แรกเท่านั้น รู้อย่างนี้จึงมาคิดต่อทำยังไงกับการใช้น้ำหมักชีวภาพที่นำมาใช้ล้างคูที่เคยล้นให้ไม่กลายเป็นการเลี้ยงหนูให้อ้วนพีไปได้
เดินไปเยี่ยมร้านอาหารหลังจากที่หายไปเมืองกรุงซะหลายวัน เหล่าแม่ค้าทักถามกันว่า “หมอไปไหน ไม่เห็นหน้ามา ๒-๓ วันแล้ว” อ้าวกลายเป็นขวัญใจแม่ค้าตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ตัวเลยนะนี่
สิ่งที่เห็นในวันนี้ได้พบมีเรื่องดีๆเล็กๆเกิดขึ้นอีกแล้ว ปลายท่อทิ้งเศษอาหารของทุกร้านถูกสวมถุงสีฟ้าๆกันไว้ทุกๆท่อ บางร้านเห็นกำลังนั่งเย็บถุงเพื่อใช้สวมท่ออยู่ก็มี หลังร้านที่เศษอาหารเกลื่อนเพราะตัวดักไม่สามารถกักเศษอาหารได้หมดก็มีการพัฒนาแล้ว ตัวดักที่เห็นตัวใหม่สูงจากพื้นและเก็บเศษอาหารได้เรียบร้อยมากขึ้น
ไหนๆก็ไปเยี่ยมแล้วจึงบอกเล่าเรื่องหนูนำโรคฉี่หนูให้เขาฟัง เล่าไปถึงฟอร์เวิร์ดเมล์ที่มีคนเคยส่งมาให้อ่านเรื่องโรคฉี่หนูกับกระป๋องโค๊กด้วย บอกพวกเขาไปตรงๆว่า ไเป็นห่วงนะ ไม่อยากเห็นพวกเธอคนใดคนหนึ่งเป็นโรคฉี่หนูเลย เวลาเห็นหนูเข้ามาอยู่ใกล้อย่างที่ได้เห็น ไม่สบายใจเลย”
เล่าแล้วก็ถามแม่ค้าที่ร้านหนึ่งว่า “คิดยังไงจึงสวมถุงใส่ปลายท่อให้หรือ” เขาบอกกลับมาว่า “ได้ยินหมอเล่าไว้ จึงทำตามเพื่อช่วยกันทำให้คูสะอาด” ดีใจที่เขาให้ความสำคัญกับคำพูดที่เคยบอกเล่าเอาไว้ จึงขอบคุณและบอกเขาว่า “ดีแล้วหละที่ช่วยกันจัดการเศษอาหารอย่างนี้ เรามาคอยสังเกตด้วยกันว่าเจ้าหนูลดการมาเยี่ยมร้านกันมั๊ยนะ หากว่าหนูลดการมาเยี่ยม ก็ต้องขอบคุณทุกๆร้านเป็นอย่างยิ่ง”
วันนี้นำเรื่องหนูมาเล่าให้ฟังด้วยอยากรู้จักกับเจ้านี่ค่ะ “กับดักฟ้าผ่า” ใครบ้างที่รู้จักช่วยหน่อย ขอความรู้ ขอรูปของจริงถ่ายมาให้้เห็นกันจะจะหน่อยค่ะ ไปเห็นรูปจากที่นี่ดูแล้วไม่ชัดสักเท่าไร เครื่องมือภูมิปัญญาชาวบ้านแบบนี้นั้นใครเคยใช้แล้วบอกกันหน่อยว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน หาจากที่ไหนมาเป็นตัวอย่างให้ดูจริงๆได้บ้าง เคยเห็นแต่แบบเป็นเหล็กที่เขาเรียกว่า กับดักตีตาย และแบบกรงดักเป็นค่ะ
« « Prev : เผลอแพล๊บเดียว ๑ เดือนก็ผ่านไปแล้ว
Next : บ่น???? » »
ความคิดเห็นสำหรับ "ทบทวนก่อนเดินต่อการปรับปรุง"