มีความสุขอีกวัน
อ่าน: 2183วันนี้เิปิดตลาดนัดความรู้เบาหวานภาคใต้ไปแล้ววันแรก ดีจังที่งานออกมาราบรื่นด้วยดี
ผลงานที่เกิดขึ้นและได้ดีสมใจ เป็นเพราะทำงานบนหลักการของการใช้ลมหายใจเดียวกัน
ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีภาคเข้ามาเกี่ยว
กระบวนกรที่มาช่วยมีทั้งจากภาคเหนือ ภาคกลาง และกระบวนกรฝึกใหม่ของภาคใต้ ทำงานแบบไร้รูปแบบ
มีโครงสร้างชั่วคราวก็แค่ยกบทหัวหน้าทีมให้ผู้ที่มีประสบการณ์มายาวนานที่สุดในเรื่องของการจัดตลาดนัดความรู้รับบทครูใหญ่
คนที่เหลือจะมีประสบการณ์มาแค่ไหน ก็ทำหน้าที่ครูน้อยกันไป ตามแต่ใครจะถนัดเรื่องอะไร จ่ายงานไปตามที่รับรู้กัน
แถมยังได้บังหีมคนตัวใหญ่ ใจใหญ่จากพัทลุงมาร่วมด้วยช่วยกันอีกคน
ผลงานคราวนี้ทีมดูแลเบาหวานภาคใต้มาแจมทั้งหมดจาก 12 จังหวัด ขาดไปเพียงแค่ 2 จังหวัด นี่คือเรื่องที่ทำให้ดีใจจริงๆ
สมใจที่อยากทำมากๆเลย
ร.พ.ที่มาร่วม มีทั้งร.พ.เล็ก ร.พ.ใหญ่ ไม่สมใจก็แค่เพียงว่า ร.พ.วชิระภูเก็ต ร.พ.บ้านเกิดมาร่วมไม่ได้
มีแต่ร.พ.ถลางที่มาร่วม เสียดายก็อีตรงนี้แหละที่รับใช้บ้านเกิดเมืองนอนได้ไม่สมใจเลย
6 ความคิดเห็น
เห็น อ. วัลลา คุณหมอนิพัธ….. ด้วย อิอิ
คนเล็กทำงานใหญ่
หมอนิพัธมาประชุมที่นครศรีธรรมราช
แล้วทีมของน้องเขามีความชำนาญในเรื่องของการทำ KM มาก่อนในเรื่องการดูแลเท้า
ฉะนั้นจึงเป็นพี่เลี้ยงภาคใต้ได้ดีที่สุดแล้วในเวลานี้
ได้ทีมนี้มาช่วยแล้ว ก็คาดหวังว่าเมื่อผ่านเวลาไปแล้ว คนไข้เบาหวานที่จะโดนตัดขาให้พิการโดยใช่เหตุ จะได้หดหายจำนวนลงไปเรื่อยๆค่ะพี่
นี่คือกุศลที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนๆหนึ่งที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ในชีวิตของตัวค่ะ
น้องเพียงแค่ตั้งใจเชื่อมโยงให้มีการถ่ายโอนความรู้เล็กๆให้กันและกันให้ได้ค่ะ จะเกิดผลต่อไปแค่ไหนไม่คาดหวังมากมาย สำคัญขอเพียงแต่มีแค่หนึ่งร.พ.ปิ๊งแล้วกลับไปเริ่ม แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วค่ะ
พี่บู๊ทค่ะ เรื่องการป่วยของเบาหวานและความดันสูง เป็นเรื่องด่วนของประเทศแล้วค่ะพี่
ไม่ลงมือทำอะไรซักเรื่องที่เป็นส่วนขาดสำคัญที่ยังมีช่องทางทำได้ด้วยฝีมือคน ด้วยเหตุเพียงแค่ขาดความเข้าใจว่าทำได้ และไม่ยากที่จะทำ ไม่ดีมากๆเลยค่ะ
เพิ่งได้ข้อมูลจากที่ประชุมค่ะว่า ระบบการดูแลเบาหวานของภาคใต้นั้น ส่วนใหญ่ล้าหลังภาคเหนือ ภาคอีสานซะเกือบ 10 ปีค่ะ (เปรียบเทียบการทำได้ดีที่สุดของภาคนะค่ะ)
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ
ความล้าหลังนั้นก็มิได้เกิดจากเฉื่อยชา ไม่อยากลงมือบริการแต่อย่างใดเลย
หากแต่เกิดจากขาดความรู้เล็กๆที่ง่ายๆและทำได้ ซึ่งไม่น่าเชื่อเลย
เป็นเรื่องเส้นผมบังภูเขาทีเดียวค่ะ
ช่องว่างของความรู้นี้สำคัญจริงๆนะค่ะพี่
แล้วเจ้าความรู้เล็กๆอย่างนี้หากว่าได้กระจายไปสู่สถานบริการเล็กๆขนาดสถานีอนามัยได้ด้วยละก็
คนพิการขาขาดจากเจ้าโรคที่พูดถึงมันอยู่นี้จะลดลงๆไปได้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ความรู้ ความสามารถของรากหญ้าหรือฐานล่างของระบบนี่สำคัญมากจริงๆค่ะ”
คิดถึงพี่ตา….
คิดถึงน้องดาเช่นกันค่ะ
เสียดายที่สัปดาห์ซึ่ง SCG ไปสวนป่า พี่ไม่ว่างด้วยเหตุว่าสัปดาห์นี้พี่ไม่สามารถอยู่โยงในที่ทำงานได้ด้วยมีภาระกิจที่กทม.ซะ 2 วัน แถมด้วยลำพูน-เชียงใหม่อีก 3 วัน ไม่งั้นก็จะไปแจมด้วยค่ะ