ย่ำหนามไม่ให้เจ็บ(2)
อ่าน: 1096จบเรื่องการคัดคนเข้าสอบ ก็คุยกันต่ออีกรอบในวันถัดมา ตกลงกันเรื่องการออกข้อสอบข้อเขียน ว่ากันตามเกณฑ์ที่ส่วนกลางบอกมานะแหละ คราวนี้ตกลงกันเรื่องข้อสอบข้อเขียน ดูภาพรวมๆทั้งคนในคนนอกที่มาสมัครดูดีๆทั้งนั้น ใครจะมีฝีมือแค่ไหนน่าจะเลือกให้เหมาะ ฝีมือในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่วิชาการ แต่รวมหมายถึงวิชาเกินด้านสังคม ฉันจึงเสนอไปว่าเพื่อให้เหมาะกับคนทั้งหมดที่มาสอบ มอบหมายกันออกข้อสอบมาคนละส่วนแล้วกัน ข้อสอบความรู้ทั่วไป ใครเคยสอบผ่านมาแบบไหนไปออกข้อสอบมาส่วนหนึ่ง จึงมอบให้รองฯบริหารไปออกมาให้ ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์(ส่วนกลางตั้งเกณฑ์มาคะแนนสูงมาก) มอบหมายให้ผู้รู้คอมฯไปออกข้อสอบให้ละกัน ส่วนข้อสอบความสามารถเฉพาะตำแหน่งมอบให้ฉันที่เป็นหมอและพยาบาลไปออกข้อสอบมา พยาบาลออกเรื่องของพยาบาลและงานที่คนไข้ต้องการจากการบริการในฐานะคนของร.พ. ฉันรับมาออกเรื่องธุรการ ให้เวลาออกข้อสอบ 4 วันแล้วนัดหมายกันมาส่งให้ก่อนวันสอบครึ่งวันเพื่อให้ธุรการไปทำก๊อปปี๊(กำหนดไว้เพื่อกันข้อสอบรั่ว)
เหอๆๆๆ ให้หมอออกข้อสอบด้านธุรการที่เป็นความสามารถเฉพาะตำแหน่ง เอาไงดี อีตอนตกปากรับคำมาน่ะ รู้สึกว่าหมู แต่อีตอนคืนก่อนถึงเวลาส่งยังออกข้อสอบไม่ได้เลย สุดท้ายตกลงใจว่าเอาเรื่องราวประจำวันมาทำข้อสอบดีกว่า เลยได้โจทย์มาสองข้อที่พิสูจน์ฝีมือคนทำงานธุรการได้ว่าเจ๋งไหม ออกแบบไหนที่ชมตัวเองว่าเจ๋งนะอย่าเพิ่งว่ากัน ก็แค่ทำเรื่องธรรมดาให้เป็นเรื่องพิเศษและคนยอมรับคุณค่าของตัวเองแค่นั้นเองที่ใช้หลักมาออกข้อสอบสองข้อนี้ วันสอบได้ยินแว่วๆว่า ทำไมข้อสอบออกมาแบบนี้เล่า ทุกทีเห็นมีแต่ถามกฎระเบียบ…อิอิ…ให้เดาว่า….ข้อสอบที่ฉันออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร….เรื่องราวไม่ต้องเล่าละกัน….เพราะมันยาว….ใครอยากเห็นค่อยเอามาโพสต์ในบันทึกอื่นละกันค่ะ(แต่ต้องขอดู จึงโพสต์ค่ะ)…..เฉลยนะค่ะ…คนเข้าสอบนะเขาสงสัยแน่นอน….เพราะว่าข้อสอบนะเป็นอัตนัยล้วนๆ…..ใครทำงานจริง….คนนั้นได้คะแนน…แค่คิดก็ได้คะแนนแล้ว…..ขอบอก
ขำๆๆอีตอนนัดกันมาตรวจข้อสอบ…หาใครมาช่วยตรวจบ่ได้สักกะคน….กรรมการที่มาช่วยตรวจเขาบอกว่า…ไม่กล้าช่วย…กลัวลำเอียง…ทั้งๆที่เกณฑ์ให้คะแนนง๊ายง่ายออก….ใครว่าคำตอบอัตนัยตรวจยาก…ง่ายมากขอบอก…ก็แค่ออกแบบรับรู้วิธีคิด…ความสามารถในการทำงาน….เปรียบเทียบความสามารถ….ความยอดเยี่ยมในฝีมือทำงาน….4 ประเด็นนี้ก็ตรวจได้แล้ว…งานนี้คนออกข้อสอบไม่สนใจ…ฟอร์มหนังสือราชการ….เพราะเห็นว่าเรื่องขี้ผง…สนอกันทีหลังได้….แต่สอนให้คิดเป็นนี่ซิ….สอนยากแท้…..คัดเอาคนคิดเป็นและกล้าทำจนสุดความสามารถให้หลวงดีกว่า…..คัดไปคัดมาเทียบเคียงคะแนนแล้ว….คนทำข้อสอบได้คะแนนจากข้อสอบฉันมากกว่าข้อสอบอื่นๆที่ออกมาแบบปรนัยซะอีก….ดีใจ๊ดีใจ
รอบของข้อเขียน รวมคะแนนทุกวิชาสอบแล้วตัดเกรดด้วยค่ากลาง(median) เพื่อปรับคะแนนให้ได้ตามเกณฑ์คือต้องผ่าน 60 เปอร์เซ็นต์ มีคนถูกคัดออกประมาณห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดที่มีสิทธิสอบ
ช่วงที่ใจมันแอบแตกแถวไปซ่าแถวสองแควและสตึกน่ะ คกก.เขาก็มีการคุยกันในรายละเอียดเรื่องตั้งคกก.สอบสัมภาษณ์ต่อจากสอบข้อเขียน เกณฑ์ที่คุยกันไว้ก่อนหนีไปซ่าคือ การสอบครั้งนี้เป็นการคัดคนให้บรรจุที่มีอัตรน้อยกว่าน้อย ฉะนั้นเอาเป็นว่า คัดกันแบบคัดนักกีฬาเหรียญทองให้หลวงกันดีกว่า เอกฉันท์ว่า สอบข้อเขียนเพื่อคัดเข้ารอบชิงเหรียญทองแล้วกัน รอบแรกเหรียญทองแดงคัดมาแล้วจากคุณวุฒิที่สั่งสม รอบสองเหรียญเงินคัดมาแล้วจากความรู้ที่สั่งสม รอบคัดเหรียญทองนี่เอาประสบการณ์และการนำเอาสมรรถนะมาใช้ละกัน คุยกันจนตกผลึกความคิดเห็นตรงกันว่าเอาเรื่องตอนสึนามิมาสอบละกัน ประธานก็มอบหมายให้พยาบาลไปช่วยออกข้อสอบให้ตรงหลักการที่ตกลงกัน ประธานขอดูข้อสอบก่อนถึงวันสอบ ปรากฏว่าคนที่คาดว่าจะขอให้ช่วยออกข้อสอบเขาไม่ว่าง เลขาถูกมอบให้ทำหน้าที่แทน ทำงานไปส่งแล้วประธานไม่ถูกใจ สั่งเลขาคกก.มาบอกว่า เจ๊ออกข้อสอบมาให้ด้วยละกัน
เมื่อคืนนี้เล่าแล้วว่าไปกินข้าวกับเจ้านาย ทำงานไปกินไป กลับมาซะดึกนะค่ะ เกือบๆห้าทุ่ม แล้วก็มานั่งอ่านลานเจ๊าะแจ๊ะซะรวดเดียวจบให้จุใจไปเลย ก่อนทำงานกับตัวเองทำงานเรื่องข้อสอบแล้วค่ะ กินข้าวไปคุยไปคิดไปเอาไงดี สุดท้ายหวยมาออกเรื่องราวตอนเกิดสึนามิที่เคยเจอเอง เลยเอามาพิมพ์เป็นข้อสอบ ที่จริงเรื่องนี้แสนธรรมดาๆนะค่ะตอนที่ออกนะ แต่วันนี้เอาไปใช้สอบแล้วเจ๋งจริงๆ อ่านฝีมือคนได้ทุกคนเลย วัดมุมไหนก็ได้ สุขใจกับฝีมือตัวเอง นั่งสัมภาษณ์ไปไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นั่งฟังหลังบอกโจทย์ทีละโจทย์ มีอะไรดีๆเยอะเลย ไม่เครียด ไม่เหนื่อยสักกะติ๊ดเลย เสร็จงานเกือบทุ่มครึ่งค่ะ
อีตอนที่สอบๆไป ตอนราวๆสี่โมงนะเพิ่งสอบได้ไม่ถึงสิบคนเลยค่ะ ทั้งหมดเข้าสอบยี่สิบห้าคน ดูเวลาที่สอบๆคนก่อนๆมาแล้ว จะเร่งยังไงก็คงนาน เลยควักตังบอกคนที่อยู่ห้องใกล้ๆให้ไปซื้ออาหารมื้อเย็นมาให้คนที่รอสอบกันและของคกก.ด้วย เดกๆเขาคงตื่นเต้น บอกไม่กินแล้วข้าว ขอแค่ขนมและน้ำละกัน เข้ามาบอกคกก.ว่าจัดการหามื้อเย็นให้แล้ว เขาบอกว่าไม่ต้องๆ เดี๋ยวเสร็จ…เสร็จจริงอ่ะแหละ…เสร็จเวลาค่า….ทำลงไปแล้วรู้สึกดีค่ะ….ที่ได้ดูแลคนและได้ทำอย่างที่ได้ยินเสียงแรกจากใจบอก
ตอนรอจะกลับบ้าน เจอน้องๆลูกจ้างประชาสัมพันธ์เขาก็บอกว่า ข้อสอบหมอยอดมากเลย หนูเข้าสอบแล้วสอบไม่ได้นะ หนูยังรู้สึกดีเลย มีความสุขมากค่ะที่ได้สอบคราวนี้ ไม่เสียใจเลยที่ตัวเองสอบตก รู้ว่าตัวเองสอบไม่ได้เพราะฝีมือไม่เท่าคนอื่น ชื่นใจซะไม่มี เธอยังบอกอีกด้วยว่า มีหลายคนมากเลยที่พูดว่า “หนูเสียดายคราวนี้ที่ไม่สมัครเข้าสอบ” ฉันนะรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เลยบอกไปว่า หนูรู้มั๊ยคราวนี้นะ คกก.เรากลัวยิ่งกว่าหนูกลัวกันซะอีก เพราะว่ามีคนเส้นหญ่ายมาเข้าสอบร่วมด้วย และเราก็ดีใจที่ผ่านมาด้วยดี ฝากไปบอกเพื่อนๆให้หมอด้วยนะ
ระหว่างสอบสัมภาษณ์อยู่ ฉันยังบอกประธานเลยว่า เสียดายที่ไม่ได้อัดเสียงไว้ ถ้าอัดเสียงทุกคนไว้ เราสามารถเอามาเปิดให้ทุกคนที่เข้าสอบรับรู้ได้ด้วย โปร่งใสดี และฉันเชื่อว่าทุกคนที่ได้ฟังจะรู้ว่า เราให้ความสำคัญกับทุกคนที่เข้ารอบมา ทั้งคนนอกและคนในเลยน่ะขอบอก และขอกระซิบว่า เจอช้างเผือกหลายเชือกด้วยนะ ถ้าพวกเขามีใจกับหลวงซะหน่อย ไม่รังเกียจเงินเดือนลูกจ้างชั่วคราว มาขอทำงานอีกเมื่อเราต้องการ น่ารับไว้จริงๆค่ะ แล้วจะเล่าต่อเรื่องความรู้ที่ได้ระหว่างการสอบสัมภาษณ์เด็กๆพวกนี้ค่ะ
ลืมบอกไปว่า คนที่สัมภาษณ์มากที่สุดไม่ใช่พวกเราที่เป็นกรรมการหลักกันหรอกนะ แต่เป็นน้องพยาบาลตึกเด็กที่ฉันยังคงทำงานให้เขาอยู่บ้างนะเอง เจ๋งจริงๆ คุยกับคนยี่สิบห้าคนแบบไม่มีแผ่นเสียงตกร่องเลยอ่ะ นี่ตั้งใจว่าจะไปหาของขวัญให้สักชิ้นนะนี่ ขอบคุณที่ช่วยให้เราสนุกสนานในวันนี้ เธอเองก็รู้สึกสนุกนะค่ะ เธอบอกว่า “หมอออกข้อสอบดีจัง” แจกข้าวกล่องให้คนละกล่องแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เดินออกจากห้องมาพวกการเงินเขายังนั่งทำงานกันอยู่เลย ถามน้องคนที่ไปซื้อข้าวมาว่า ซื้อมาเผื่อพวกนี้แล้วยัง เขาแจกจ่ายให้ไปแล้วก็โล่งใจ ก่อนลงมาจากห้อง แวะเข้าไปแซวคนที่เข้าสอบสองคนจากการเงิน เขามีความสุขจริงๆค่ะ กับการสอบคราวนี้ ฉันเชื่อมั่นว่า ทุกคนเข้าใจตัวเองหากว่าคะแนนที่ออกมาบอกว่า เขาสอบไม่ผ่าน มีคนลุ้นคนที่อายุงานนานๆด้วยนะค่ะ เรียกว่าเป็นแม่ยกเชียร์เลยค่ะ
พรุ่งนี้ยังมีงานต่อ ไปรวมคะแนนสอบของกรรมการทุกคนให้เป้นหนึ่งเดียวแล้วปรับเกรด แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะค่ะ
« « Prev : ย่ำหนามไม่ให้เจ็บ(1)
Next : ย่ำหนามไม่ให้เจ็บ(3) » »
8 ความคิดเห็น
อยากไปลองสอบดูมั่งจังเลย อิอิ
อยากเห็นค่ะว่า พี่สาวตาออกข้อสอบว่าอย่างไง…
จอมป่วนไปทำข้อสอบแล้วมาเล่าสู่กันฟังด้วยนะคะ…อิอิ
กลัวพี่ตึ๋งสอบได้ที่หนึ่งอ่ะ เลยยังไม่เอามาให้ลองสอบดู เดี๋ยวแย่งลูกค้าหมด
สอบเด็กคราวนั้ได้มุมมองหลายมุม
คนสอบตกก็เป็นคนอีกประเภทหนึ่งที่ถ้าอยากได้ก็จะกลายเป็นคนสอบได้ คนสอบได้ก็จะกลายเป็นคนสอบตก
แค่พลิกกรอบคิดนิดเดียวเอง หน้ามือกลายเป็นหลังทีนไปเลย นั่งคุมสอบอยู่นะความคิดนี้มันแวบวาบขึ้นมาเลยค่ะ
แล้วจะเอาข้อสอบมาโพสต์ให้ลองดูค่ะ
ออกข้อสอบให้ play roll ค่ะ คนสอบสนุกสนานกับตัวเอง คนคุมสอบก็คลายเครียดดีค่ะ
พี่ได้โจทย์น้องสร้อยมาใคร่ครวญมุมมองต่อนะกับเรื่องที่เห็นแล้วตั้งใจจะเอามาเขียนอ่ะน่ะ
มีเวลาแค่ไม่กี่นาทีแรกที่เจอก็ตัดสินกันซะแล้ว ยากเนอะที่จะยุติธรรม วันนี้ก็มีวิจารณ์กันเรื่องการคัดเลือกคนเก่งไปรับรางวัล ไม่รู้จักเขามาก่อนเลย ให้เขาแค่พูดๆๆๆๆให้ฟัง แล้วบอกว่าไอ้คนที่พูดเก่งนะมันเก่ง มันจะยุติธรรมไหมสำหรับคนที่เก่งจริงแต่ไม่พูด
บางครั้งเวลาสอบคัดเลือกคน..รู้สึกอยากเลือกคนมาทำงานเกินจำนวนตำแหน่งที่ว่างจริงๆ ค่ะ
และส่วนใหญ่ที่เห็นตรงกันของบรรดาคุณครูที่โรงเรียนคือ อยากได้คนที่จิตใจดี พร้อมจะเรียนรู้และทำงานร่วมทีมได้
คณะกรรมการคัดเลือกในแต่ละขั้นตอนจึงรวมกันแล้ว ปาเข้าไปซะค่อนจำนวนครูที่มีอยู่ อิ อิ
ถือคติ..ใครร่วมคัดเลือกมา ก็สอนกันเอง ฝึกกันเอง แบบที่เคยเล่าให้พี่ตาฟังนั่นแหละค่ะ
เลยต้องร่วมรับผิดชอบโดยทั่วหน้ากัน..555
“ใจมันแอบแตกแถว” … ชอบ ชอบ วันหลังจะแอบแตกแถวไปเจอพี่ตาอีกนะคะ
เรื่องสอบสัมภาษณ์คนเข้าทำงานนี่ ตอนตัดสินสุดท้ายมักจะเกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง บ่อยครั้งก็เจอว่าคะแนนผลการเรียน กับ สิ่งที่เราสัมผัสได้ตอนพูดคุย สวนทางกัน
ใช่เลยค่ะน้องอึ่ง คราวนี้นะพอเจอช้างเผือก คือ คนที่มีคุณสมบัติที่อยากได้ และมองเห็นว่าน่าจะเอามาฝึกให้เป็นช้างเผือกที่สวยสง่าได้ มันรู้สึกอย่างที่น้องอึ่งรู้สึกเลยค่ะ
ชวนตามไปอ่านข้อสอบที่จะเอามาโพสต์ให้ดูนะค่ะ แล้วช่วยวิจารณ์หน่อย
ใช่เลยค่ะน้องดา คนเรียนเก่งกับนิสัยการทำงาน และฝีมือการทำงานนะมันกลับทางกันบ่อยไป กว่าวาระของเขาจะมาถึง เรื่องราวต่างๆก็ผ่านไปอย่างน่าเสียดายค่ะ
ลุ้นให้ใจมันแตกแถวบ่อยขึ้นเน้อ จะได้เจอกัน