มุมดีๆของชีวิตในปี 2551

โดย สาวตา เมื่อ 1 มกราคม 2009 เวลา 3:08 ในหมวดหมู่ ประสบการณ์ชีวิต, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1373

โดยปกติชีวิตของคนเป็นหมอ ไม่ค่อยออกมาเจ๊าะแจ๊ะกับชาวบ้าน การเติบโตมาแบบลูกชาวบ้านและการรับงานใหม่ๆหลายงานในช่วงหนึ่ง ทำให้ชีวิตของฉันชินชากับเรื่องชีพจรลงเท้า งานล่าสุดที่กำลังทำอยู่นั้น คลุกคลีมันมากว่า 5 ปี งานนี้มันทำให้ชีวิตมันผันผ่านมาพบกับเรื่องดีๆมากหลาย วันนี้จึงมาเล่าเพื่อขอบคุณเรื่องงานที่ทำให้ได้พบเรื่องดีในปี 2551 ที่ผ่านมา

เรื่องที่หนึ่ง ก็ไม่พ้นเรื่องงาน เวลาผันผ่านไป 5 ปี มีความก้าวหน้าเชิงระบบในเรื่องการบริหารงบประมาณลงตัวระหว่างสถานบริการในเครือข่ายที่ดูแล อีกทั้งได้แถมมาด้วย ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน 4 ฝ่าย นั่นคือ คนทำงานใน 4 หน่วยงาน สสจ.(สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) สสอ.(สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ) สอ.(สถานีอนามัย) และเทศบาลเมือง กับตัวฉันเอง อีกทั้งระบบงานคุณภาพ เริ่มหมุนเฟืองไปช้าๆตามแนวทางเชิงระบบที่วางไว้ อีกทั้งบรรดาคนรุ่นหลังที่ได้พัฒนาความสามารถเอาไว้ สามารถผ่องถ่ายงานได้แล้ว ปีใหม่ปี 2552 ฉันจึงสามารถผันตัวเองไปอยู่เบื้องหลังในฐานะที่ปรึกษาสบายๆแล้ว

เรื่องที่สอง  ด้วยอยากให้คนรุ่นหลังรู้ว่า ระบบงานข้างหน้าควรเป็นอย่างไร จึงทำให้ฉันค้นหาแหล่งที่จะช่วยสอนเขาได้ เป็นเหตุที่ชักนำให้เริ่มต้นพบกับพี่คนดีที่น่ารัก ซึ่งพี่ได้ชักนำต่อให้ได้พบชาวเฮคนแรก แล้วลากยาวมาเรื่อยๆจน ฝึกทำตัวง่ายๆว่าง่ายๆ กระโจนเข้าเป็นพวกชาวเฮ ที่มีกิจกรรมร่วมกันมาตั้งแต่ เฮฮาศาสตร์4 เป็นต้นมา เรื่องดีๆที่ประทับใจในครั้งเฮฮาศาสตร์4 เป็นเรื่องของน้ำใจจากชาวเฮหลายคนที่ทำให้ตะลึงไม่น้อย ตั้งแต่น้องฑูรย์ที่ครั้งนั้น หลงดีใจว่าจะได้มีพี่เป็นอัยการซักคน แต่ก็แป่วได้น้องมาแทน ซึ่งก็ไม่เป็นไร คือกันแหละนะค่ะ เพราะว่าได้ญาติเป็นอัยการเหมือนเดิม อีกคนที่ทำให้ทึ่ง คนอะไรใจดีบริการทุกอย่าง เช็ดพื้นปัดฝุ่น ให้นอนได้สบายทั้งคืน ทั้งๆที่บอกไปว่า น้องไม่ต้องพี่ทำเอง เธอก็ไม่ยอม ใครซะอีกถ้าหากว่าไม่ใช่ น้าแห่งชาติ อึ่งอ๊อบ นะเอง  การพบปะกันในตอนนั้นเพียงส่งยิ้มพูดคุยกันบ้างเท่านั้น ฉัน ยังไม่เป็นชาวเฮเป็นหมอเจ๊ที่คนยังนึกๆอยู่ว่าหมอนี่ตูเคยพบในโกว์บ้างไหมหว่า  และแล้วความสัมพันธ์ก็ต่อเนื่องยาวนานมาจนบัดนี้ เป็นบัดดี้ เป็นแคดดี้ก็ได้หลังจากไปร่วมเฮฮาศาสตร์6 กลับมาแล้ว เรื่องมันสืบเนื่องมาจนถึงเฮฮาศาสตร์6 ที่ได้ทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้นในระหว่างชาวเฮ แม่หนูแก้มยุ้ยที่รีรอห่างมาตั้งแต่ครั้งเมื่อเฮฮาศาสตร์5 ย่นระยะห่างเข้ามาจนชิดใกล้กัน เป็นพี่เป็นน้อง ผ่องช่วยกันได้ให้สบายๆใจในทุกๆเรื่อง ในยามที่ได้มาสัมผัสเชียงรายเพื่อเรียนรู้เรื่องบางเรื่องที่สนใจ เอื้อเฟื้อที่อยู่ให้พักอาศัย ดูแลทำให้สะดวกสบายทุกอย่าง อีกทั้งยังจัดเฮฮาศาสตร์6 ให้รู้จักเมืองไทยและรู้รากเหง้าที่มาของชาติเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ขอบคุณทุกคนที่ได้ทำให้มีประสบการณ์ดีๆร่วมกันเสมอๆค่า

เรื่องที่สาม  เป็นเรื่องของการรู้จักคำว่า “สุนทรียสนทนา” ในตำราทำให้อยากรู้ จนไปสัมผัสกับมันในหลักสูตร KM ของอ.ประพนธ์ ผาสุขยืด ที่ทำให้ติดข้องจนใจดิ้นรนต่อขอรู้จักมัน และเป็นเหตุหนึ่งทำให้เมื่อสวนป่านัดพบเฮฮาศาสตร์5 ตัดสินใจพลันฉันไปดีกว่าไปดูซะหน่อย สวนป่านะอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไรหรือ ชวนสนใจนัก เป็นเหตุให้ได้รู้จักbloggerเพิ่มอีกพะเรอเกวียน ในตอนเฮฮาศาสตร์4 นั้นนะพ่อครูชวนให้เป็นคนสวยแซ่เฮ ฉันไม่ลังเลทำตัวง่ายๆไว้ประกาศเปลี่ยนใช้แซ่เฮในโกว์ให้เลยคุณขา  ตอนไปสวนป่าพบปะหน้ากับชาวเฮหลายคน แต่ยังไม่คุ้นเคยกันเท่าไร มีแต่ป้าจุ๋ม พี่ตึ๋ง ราณี สิงห์ป่าสักที่ดูคุ้นกว่าใคร  คุ้นลุงเอกเพิ่มมากขึ้นอีกนิด มีเจ้าจิคอยสะกิด คอยจ้อไม่หยุดชวนลุงเอกคุยจนหลุดโลกไปด้วย จนบัดนาวยังเป็นอย่างนั้นอยู่ตามประสาหลานแห่งชาติรุ่นแรกที่มีความเหน่อเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว พร้อมฝีมือขลุ่ยและอีแซวที่ฉมังทำหมาหลับได้เก่งจริงๆหนา  แล้วหลังจากนั้นมีเหตุที่เกี่ยวกับมารผจญเล็กน้อยมาทำให้ใจข้นไปด้วยความสับสนของใจ เกิดอะไรขึ้นกับตูและเพื่อนร่วมงานกัน(วะ) ตูได้ปลดปล่อยอิสระให้ความคิดและความรู้สึกได้แล้วบางส่วน แต่เหตุไฉนเพื่อนร่วมงานเขาจึงยังขัดข้องทั้งๆที่เขาผ่านหลักสูตร KM อ.ประพนธ์มาด้วยกันหนา ยิ่งทำให้กระสันต์อยากไปเรียนรู้เพิ่มจากวงน้ำชา  เมื่อไปมาแล้วครั้งแรกกลับมา น้องอึ่งอ๊อบ น้องสร้อยชวนไปห้อยโหนโจนทะยานร่วมเป็นกระบวนกรกับพี่ตึ๋งต่อ ทำๆไปแล้วประกอบกับยังกระสันต์อยากรู้เลยบานปลายต่อสมัครเป็นศิษย์วงน้ำชาพร้อมน้องอึ่งอ๊อบ แล้วจึงได้อ้อ! ว่าที่รู้ตนเองอยู่ก่อนนั้นมันมีสัญญาอะไรผูกพันมาก่อน  การได้พบกับความสุขสว่างที่ทำให้เข้าใจธรรมะกระจ่างขึ้นแล้วยังมีโอกาสได้แลกเปลี่ยนกับกัลยาณมิตรอย่างน้องอึ่ง น้องสร้อย ในเรื่องธรรมะอย่างใสๆทุกครั้งที่ได้เจอกันด้วยเป็นความวิเศษซะเหลือเกินของชีวิตในช่วง 8 เดือนที่ผ่านของปีที่เพิ่งหมดสิ้นเวลาลงไป 

เรื่องที่สี่    เป็นเรื่องของการได้พี่ชาย พี่สาว น้องชาย น้องสาวมามากหลาย จากกลุ่มชาวเฮทั้งหลายที่มอบน้ำใจใสๆให้ จากกรุงเทพฯ สตึก เชียงใหม่ พิษณุโลก ลำพูน เชียงราย กำแพงเพชร ซึ่งล้วนแต่เด็ดสะระตี่กันทั้งน๊านเลย มีเซอไพร้ท์ช็อตเด็ดๆให้ประทับใจกี๋อยู่เรื่อยๆ ทั้งหลานสาวและหลานชายแสนแก่นแสนซนอีกหลายคน บรรยายกันไม่หมดเลย การเป็นลูกคนเดียวที่โดดเดี่ยวนั้นคึกคักขึ้น มีพี่ให้เรียก มีน้องให้ขาน มีหลานให้ล้อเลียน มีเรื่องให้เขียน-อ่าน แลกเปลี่ยนกันไปมา เจ๊าะแจ๊ะจนเพลินลืมไปเลยว่าพี่น้องท้องเดียวกันซะเมื่อไรไหงมันสนิทกันยิ่งกว่าคนที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กอีกเล่า แปลกแสนแปลกหนาอธิบายใครเขา เขาก็ไม่เชื่อเอาจนกว่าจะลองมาอยู่ด้วยกันหนา  คนที่ทำให้เซอไพร้ท์คนล่าสุดนั้นคือน้องรอกอด ที่คาดไม่ถึงจู่ๆส่งเสียงมา พี่ครับพี่พี่เป็นอะไรครับพี่ หลังจากที่ฉันโพสต์บทความนี้ในโกว์ แพ้ใจ…เพื่อชนะใจตัวเอง ไม่เคยคุยด้วยจู่ๆโทรมาได้ยังไง แล้วคนๆนี้น่ะ เขาเก็บตัวเขายิ่งกว่าใครซะอีก ซึ้งใจและเป็นสุขในความห่วงใยที่ส่งมาให้ รับรู้ด้วยหัวใจว่าเขาห่วงใยด้วยใจจริง แล้วที่เขาจะโทรมาได้นั้นใช่ว่าง่ายด้วยว่าเขาไม่มีเบอร์โทรฉันหรอก แต่เขาก็หามันมาจนได้จากใครฉันไม่รู้ที่มอบเบอร์ฉันให้  ตอนที่เขาโทรมาอารมณ์นั้นมันถูกฉันใคร่ครวญแล้วจนมีคำตอบให้ตัวเองชัด ฉันจึงแจ่มใสพอและหัวเราะออกมาได้เมื่อเขาโทรมาแล้วได้คุยกัน การคุยกันต่อทำให้รู้ว่าเขาเป็นคนที่มีน้ำใจมากๆๆๆ นี่ขนาดไม่เคยเห็นหน้ากัน ไม่เคยคุยกันตรงๆเลยนะนี่ ยังมีน้ำใจขนาดนี้ ยิ่งมารู้จัก ยิ่งรักเขามากขึ้นๆ เป็นน้องชายร่วมโลกที่คนควรรักเป็นอย่างยิ่ง ยังจำได้อยู่เขาเอื้อเฟื้อมารับไปร่วมพบปะเหล่าชาวเฮที่ร้านอาหารญวนถนนแจ้งวัฒนะ  ฉันนะทำโก๊ะขึ้นนั่งรถด้านหลังแล้วปีนข้ามไปนั่งตรงหลังคนขับหิ้วรองเท้าปีนไปเลยให้เห็น ไม่ยอมเดินอ้อมไปขึ้นทางประตูด้านหลังคนขับแบบสุภาพสตรีที่ควรกระทำเวลาขึ้นนั่งรถเบนซ์ซะงั้น ฉันจำได้ว่าเขาร้องออกมาว่า โอ้โห พี่ เอายังงี้เลยเรอะ แล้วหัวเราะ ในตอนนั้นฉันไม่ได้นึกอะไรหรอก ทำไปตามธรรมชาติที่นึกอยากจะทำไป  ทำลงไปแล้วก็มานึกว่าเขาคงจะค่อนว่าหมอคนนี้ไม่เป็นกุลสตรีเอาซะเลยทำแต่เรื่องโก๊ะ  แต่ที่ไหนได้ ไม่มีเลยแหละ การกลับเป็นว่าน้องชายคนนี้เป็นคนที่สามารถพูดตรงๆกับเขาได้ในทุกเรื่องแม้แต่เรื่องของหัวใจ เอ๊ะ! ใช่ไหมน้อง  นอกจากคนนี้ ยังมีพี่ชายอีกคนที่เพิ่งรู้จักไม่นานมานี้เมื่อไปเฮฮาศาสตร์6 นามของเขานั้นฉันจะบอกให้ เหมือนคนข้างกายฉันยังไงยังงั้นนะขอบอก เลยเรียกชื่อเขาเพี้ยนไม่ได้นะค่ะ เรียกได้แต่ว่า เฮียเหลียง พี่เหลียงเท่านั้น ห้ามเรียกโกเหลียงเด็ดขาดน่ะค่ะ ไม่งั้นฉันจะคอขาดเอาได้ค่ะ เดี๋ยวเปิ้นจะว่าแอบไปมีกิ๊กใหม่ซะแล้วหรือไร คนข้างกายฉันเขายิ่งเป็นคนขี้งอนอยู่..เฮ้อ..จุด..จุด..จุด…อันว่าพี่เหลียงนั้น….ใจดี ใจดี ใจดี ใจดีค่า….สำหรับทีมเชียงรายนั้นจะไม่เอ่ยถึงคนชื่อหนุ่มเห็นจะไม่ได้ คนนี้มาดดีเห็นแล้วสบายตา เก๊กท่าดูแล้วเหมือนตำรวจ แต่กลับคุยเก่งเรื่องโบราณคดี แปลกดี…..แถมด้วยครอบครัวใหม่…คุณพ่อ คุณแม่ และน้องสาวแก้มยุ้ย…ตามด้วยน้องโพรด….อันนี้ยังคงห่างๆ…เจ๊าะแจ๊ะกันยังน้อยอยู่…แต่สัมผัสรู้ว่าใจนั้น…เป็นคนที่ใสๆและห่วงใยคนยิ่งนักเช่นกัน….โอ๊ย..ใครอย่ามาอิจฉา…ที่ชะตาชีวิตฉันในปีที่ผ่านมานี้…พบแต่คนดีๆอยู่รอบกายไปโหม๊ดเลย….สบายใจจัง…เวลาได้พูดได้เขียนเล่าถึงพวกเขาเหล่านี้….อ้อ…ลืมอีกคน…ลุงเอกนั้นแปลกคราวนี้มีหลุด…ปล่อยให้หลานโปรดเขารอลุงเก้อ..จนร้องเอ้อเฮอลุงทิ้งหนูได้..หนูไปกับรถอาอารามตลอดก็ได้…ให้ป้าหมอ ป้าสร้อย ป้าอึ่ง…ไปเป็นพลทหารตามนายทหารอย่างลุงก็ด๊าย….และแล้วลุงเอก…ก็พาย้อนยุคไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย..ทำเอาครูอึ่งบอกว่าอยากกลับไปเรียนประวัติศาสตร์…ใช่มะ..ใช่มะ..เอ๊ะ..รึว่าไม่ช่าย….อ้อ..ลืมบอกไป..ลุงเอกแถมวิชาวิ่งตามรถให้น้องสร้อยด้วย….ทำเอาน้องสร้อย..ร้องเอ๋อไปทีเดียว   

เรื่องที่ห้า  เป็นเรื่องของครอบครัว ลูกคนโตสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งแล้วได้เข้าเฝ้ารับปริญญากับมือเขา ซึ่งเป็นโอกาสหนึ่งของชีวิตเด็กชายคนหนึ่งที่จะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าหน้าพระพักตร์ของพระราชวงศ์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งได้ด้วยตัวเอง  ต่อมาลูกชายเขามาขอว่า แม่ครับลูกอยากเรียนทำอาหาร ขอไปเรียนหน่อยได้ไหม ลูกอยากจะเปิดร้านอาหารทำกิจการของตัวเอง ขายให้ฝรั่งที่มาเที่ยวกัน ฟังแล้วฉันรีบให้ไปเลย ไปเลยลูกไปเรียนอะไรก็ได้ ที่ลูกอยากทำ ทำได้ทำไปไม่ว่าอะไรถ้าลูกชอบจะทำ เขาไปเรียนแล้วและกลับมาแล้ว มาฝึกทำอาหารให้ฉันชิมอยู่ พร้อมด้วยการตระเวณดูสถานที่ไม่ให้ลงทุนแพงเกินไป ระหว่างรอให้ได้สถานที่ก็ตามหาครูที่รู้ว่าเขาสามารถจะสอนเมนูเฉพาะที่ชอบเพิ่มได้ ไปเรียนมาแล้วแม่ก็เป็นเหยื่อทดลองรสชาติ ไม่เป็นไรน่ะมันดีใจ ที่อีกไม่นานความฝันที่ว่าลูกชายเขาพร้อมจะออกจากไข่แดงเริ่มเป็นความจริงมากขึ้นๆแล้ว  ความสุขอีกอย่างของฉันคือ ลูกทั้งสองคนรักเรียนอย่างยิ่ง วิธีเรียนของเขาทั้งสองก็เป็นวิธีที่เขา “เรียนและรู้” จริง ทำให้ฉันหายห่วงไปเลยในข้อเหล่านี้  ดีใจมากค่ะที่ผลการฟูมฟักมันเห็นผลที่ชื่นใจๆแล้ว  ปีนี้ฉันเพิ่มความสุขให้ตัวเองด้วยปลดแอกเวลาให้ตัวเองมีเวลาฟรีไทม์มากขึ้นสำหรับชีวิตในช่วงเวลาเย็นนอกเวลาราชการและวันหยุด จึงไม่สะดุดหากชีพจรจะลงเท้าไปไหนๆซะบ้าง จะไปเยี่ยมใครอยู่ไกลอยู่ใกล้ไม่ต้องรีรอห่วงงานเหมือนแต่ก่อน ชีวิตสบาย สบาย อย่างนี้น่ะฉันมอบให้ตัวเองในวันคล้ายวันเกิดของปีที่เพิ่งจากลามานี้เอง

สำหรับเรื่องสุดท้าย ที่แสนดีใจและมีความสุข คือเรื่องที่แอบไปตีท้ายครัวพี่ตึ๋งสำเร็จ ด้วยการไปเชื่อมเครือข่ายในพิดโลกก่อนพี่ตึ๋ง ไปเชื่อมอีตอนที่เดินทางกลับจากเฮฮาศาสตร์6…55555…และแล้วเรื่องราวที่อยากสรุปไว้….ก็จบลงโดยสังเขปเพียงแค่นี้…พร้อมกับข่าวดีที่รู้มาว่าเครือข่ายที่แอบไปเชื่อมที่พิดโลกน่ะ……เขาเริ่มติดต่อคุยกันเองบ้างแล้ว….เอาวะเอาเหวยขอจบละน่ะ…ขอลงท้ายจบลงด้วย 5อิ ก็แล้วกันค่ะ

« « Prev : เจ้ามีที่มาอย่างไร(14)

Next : เจ้ามีที่มาอย่างไร(15) » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

14 ความคิดเห็น

  • #1 Iem ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2009 เวลา 9:48

    ขอให้พี่ตา มีความสุขทุกเวลาที่ต้องการค่ะ

  • #2 สร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2009 เวลา 10:42

    นับว่าเป็นวาสนาที่ได้เจอพี่ตาค่ะ

    ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

  • #3 rani ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2009 เวลา 10:48

    มีความสุข สดชื่น สมหวังในทุกด้านคะ่ ดีใจที่ได้รู้จักพี่หมอ ตา คิดฮอดแต่กอดบ่ได้ อิอิอิ.

  • #4 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2009 เวลา 11:42

    ระวังโดนตีท้ายครัวบ้างเน้อ อิอิ

  • #5 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 มกราคม 2009 เวลา 20:25

    มาซึมซับครับ

  • #6 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 มกราคม 2009 เวลา 17:22

    มีความสุขที่ได้อ่านทุกๆเรืองดีๆครับ
    โดยเฉพาะเรื่องตีท้ายครัว อิ อิ

  • #7 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 มกราคม 2009 เวลา 19:37

    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ และรู้สึกว่ามีความสุขในปีที่ผ่านมาเช่นเดียวกันที่ได้รู้จักคนดีๆน่ารักมากมายซึ่งพี่ตาก็เป็นหนึ่งในนั้น

    พี่สาวคนนี้มีท่าทีที่หนักแน่น แม่นยำ แต่อบอุ่น พร้อมรับฟังและเข้าใจทุกคนอย่างลึกซึ้ง กอดข้ามฟ้าด้วยความคิดถึงค่ะ

  • #8 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2009 เวลา 0:27

    สวัสดีปีใหม่ค่ะ น้องอิ่ม ฝากสวัสดีปีใหม่คุณแม่และพี่สาวด้วยค่ะ

  • #9 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2009 เวลา 0:36

    สวัสดีปีใหม่ค่ะ น้องสร้อย ฝากสวัสดีปีใหม่ บรรดาอาจารย์พยาบาลทั้งหลายด้วยค่ะ

  • #10 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2009 เวลา 0:47

    ราณีจ๋า สวัสดีปีใหม่จ๊า ขอให้ตาหวาน ยิ้มหวาน มีความสุขตลอดปีใหม่ค่ะ

  • #11 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2009 เวลา 0:48

    พี่ตึ๋งเจ้าขา เปิดท้ายครัวไว้แล้วค่า เมื่อไรเมื่อนั้น พร้อมค่า…อิอิ

  • #12 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2009 เวลา 0:48

    พี่บูธค่ะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ

  • #13 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2009 เวลา 0:49

    อ้ายเปลี่ยนค่ะ คิดฮอดค่ะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ

  • #14 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มกราคม 2009 เวลา 0:50

    น้องแก้มยุ้ยจ๋า สวัสดีปีใหม่จ๊า ปีใหม่เยือนมาแล้ว ขอให้แคล้วจากโพยภัยใดๆที่จะมากร้ำกราย มีความสุขสดใส ซาบซ่าสมใจนึกจ๊า


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.73507118225098 sec
Sidebar: 0.83160901069641 sec