เจ้ามีที่มาอย่างไร(3)
อ่าน: 1100เมื่อเด็กน้อยย้ายที่อาศัยไปอยู่ที่บริษัทกับป้า เธอก็ได้พบว่ามีบทเรียนใหม่อยู่หลายบทที่ป้าและครอบครัวมอบให้เป็นการบ้าน เป็นบทเรียนที่ทำให้เธอรู้จักกรอบมากขึ้นอีกหลายกรอบทีเดียวเชียว
บทเรียนบทแรกก็คือการเป็นพี่ของน้องสามคน การต้องเปลี่ยนบทจากการดูแลตัวตนเป็นเรื่องการดูแลคนอื่นร่วมไปด้วยเป็นกรอบที่ทำให้เธอต้องถักทอเสื้อใหม่ขึ้นสวม ชีวิตใหม่ที่นี่ของเธอในบทของความเป็นพี่มีสุขมีทุกข์ปนกันไป เป็นทุกข์และสุขที่เกิดตามประสาเด็ก หนักบ้างเบาบ้างตามแต่ความอิ่มเต็มของอารมณ์ที่ตอบสนองต่อผู้ใหญ่หรือเด็กๆด้วยกัน
ภาพของเด็กน้อยที่ฉันเห็นเป็นเด็กหญิงที่เติบใหญ่ขึ้นมาแล้ว ท่าทางของเธอนั้นดูมั่น เนื้อตัวเก้งก้าง ผอมบาง ผิวขาวกว่าถ่าน ไม่พบพานรอยแป้งที่หน้า ไว้ผมหน้าม้าตามกระแส ผมแผ่ยาวระใต้หู ยาวไม่เกินแนวหูให้เห็น สวมใส่กระโปรงบานๆสองชั้นตัวสั้นๆ อยู่บนเล่าเต้งของบ้าน กำลังทำงานแบบอีแจ๋ว งานที่เธอรับผิดชอบทำนั้น เป็นงานเช็ดถูปัดกวาดเล่าเต้งและชั้นล่างส่วนหลังของบริษัท ทุกวันป้าสะใภ้ของเธอจะกำชับ ถามไถ่ว่าทำงานแล้วหรือยัง สีหน้าที่ฉันมองเห็น ตัวเธอนั้นมีแววความสนุก ส่วนป้านั้นมีความปราณี พูดด้วยเสียงที่ไม่ดุ
ฉับพลันฉันก็มองไปเห็น ภาพหนึ่งที่ทำให้สะดุ้ง เหตุไฉนใบหน้าเธอเปื้อนเลือด น้องชายสองคนที่อยู่ใกล้ก็มีสีหน้าตกใจเสียนัก สีเลือดที่เห็นนั้นเป็นเลือดที่ไหลจากศีรษะของเธอ อ้อ! พวกเขาเล่นด้วยกันอยู่ จู่ๆน้องชายเขาเกิดโมโหเอาไม้ฟาดหัวเข้าให้ ทีเดียวเท่านั้นแหละค่ะ หัวพี่สาวก็มีเลือดอาบเอ่อออกมา เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นครั้งหนึ่งของการถูกกระทำด้วยความรุนแรงที่เธอเจอ
แล้วก็มีภาพอื่นเลื่อนมาซ้อน หน้าตาของลุงที่เฉย ไม่พูดจาส่งเสียงใดๆ เมื่อป้านั้นกำลังส่งเสียงมา เสียงของใครก็ไม่รู้ดังขึ้น ลุงเกลียมัว ลุงเกลียมัว รู้ไว้ เมื่อเสียงที่พูดจบลง เสียงพูดของป้ามาแทนที่ เสียงดังและดุจริงหนา หน้าตาที่พูดก็ไม่ยิ้ม อืม! น่ากลัว น่ากลัว ซะจริง เด็กน้อยบอกมาว่าจำได้ ป้าไม่เคยตีเธอหรอกหนา แต่มักดุว่าเธอด้วยเสียงดัง หน้าตาก็ไม่มีรอยยิ้มเลย ดุแล้วก็ให้โอกาสเธอได้แก้ตัวทำใหม่ให้ดีกว่าเดิม แล้วก็จบเรื่องดุกันไป เรื่องที่ดุก็เป็นแบบว่าสอนให้เรียบร้อย มีระเบียบนะเอง
ดูเหมือนว่าเด็กน้อยไม่ได้กลัวป้าสักนิด แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะเอ่ยกับป้าก่อน ไม่เคยขอคำปรึกษาหารือหรือขออะไรโดยตรงจากป้า เธอพยายามทำหน้าที่ที่ป้ามอบไว้ให้ผลงานออกมาดีที่สุด มองย้อนไปแล้วจึงรู้ว่าเธอนะกลัวป้ามากอยู่นา
สำหรับเรื่องของการดูแลน้อง เธอยอมให้น้องทั้งสามคนทำอะไรอย่างใจเขาได้ เหตุการณ์เจ็บตัวที่เกิดขึ้นเป็นโชคที่มาช่วยกำราบน้อง ทำให้น้องทั้งสามคนเป็นเด็กดีว่าง่าย ซึ่งทำให้เธออยู่สบายตามสมควร
ระหว่างที่อยู่บ้านป้า เธอไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องพ่อและแม่ มีครั้งเดียวที่เธอได้พบกับพ่อที่บ้านกงสีหลังนี้ ทันทีที่พบใบหน้าพ่อที่มีรอยยิ้มกว้างเดินเข้ามา เธอดีใจจนกระโดดตัวลอยเลยค่ะ สำหรับการได้พบแม่จำได้ว่ามีเพียงสองครั้ง แต่เธอก็ไม่ดีใจเท่านี้
การมาอยู่กับป้าของเด็กน้อย ทำให้เด็กน้อยได้ปรับตัวในการดูแลตนเองเพิ่มขึ้น พี่ชายที่เธอเล่าถึงก็ย้ายมาอยู่ร่วมบ้านกัน ทุกเย็นสองคนพี่น้องจะพากันไปเรียนพิเศษเสริม ที่ไปเรียนเพราะเธออยากเรียน ครูพิเศษที่ไปเรียนด้วยไม่ใช่ครูในโรงเรียนที่เรียนอยู่ การไปเรียนพิเศษนั้นใช้การเดินกันไปบ้านครูเอง ฉันว่าอิสระที่ได้ทำให้เธอรู้สึกสนุกกับมัน จึงเป็นเหตุทำให้เธออยากไปเรียน
บ้านครูเป็นสถานที่แห่งที่สองที่ทำให้เธอเกิดเรื่องเลือดอาบหน้า ระหว่างที่พักเรียนแล้วเล่นกัน เธอลื่นหน้าคะมำลงบนพื้น เงยหน้าขึ้นมาอีกทีคิ้วก็มีเลือดออกมาเชียว วันนั้นเลยต้องเลิกเรียนไปให้หมอเย็บแผลหยุดเลือด หมอที่เจอก็เป็นเพื่อนพ่อ สมัยนั้นวัสดุสำหรับเย็บแผล ไม่ดีพอเหมือนอย่างเดี๋ยวนี้ ฝีมือหมอมียังไง มันก็กันแผลเป็นไม่ได้ดี เด็กน้อยจึงมีแผลเป็นที่ระลึกติดตัวมาจนกระทั่งบัดนี้
เด็กน้อยอาศัยอยู่บ้านกงสีจนกระทั่งจบประถมต้นจึงย้ายกลับไปอยู่กับแม่ พ่อและแม่นั้นอยู่ร่วมกันที่บ้านหลังหนึ่งใกล้บ้านตา เด็กน้อยเพิ่งมารู้เมื่อโตขึ้นว่าที่ดินผืนที่บ้านตั้งอยู่ เป็นที่ดินที่เศรษฐีใจบุญเขาเกื้อหนุนให้อาศัยอยู่ น้ำพักน้ำแรงของพ่อแม่ช่วยต่อเติมบ้านนี้ให้ได้อิงแอบอาศัยอยู่สบายตามอัตภาพมาจนโต
บทเรียนรู้จากชีวิตจริง
ผลพวงการปฏิบัติของผู้ใหญ่โดยตรงต่อกัน ทำให้เด็กเรียนรู้และขีดกรอบการปฏิบัติของตนตามแบบอย่างที่ผู้ใหญ่ทำให้ดู
เด็กเรียนรู้วิธีอยู่รอดในความสัมพันธ์จากพฤติกรรมของผู้ใหญ่ที่อยู่ใกล้
การได้ลงมือทำอะไรเองของเด็กเป็นการเรียนที่เด็กไม่รู้ตัวว่ากำลังเรียน
การมอบอะไรให้เด็กได้ลงมือทำเอง ผู้ใหญ่ไม่ต้องสอน เด็กก็สอนตัวเองได้ หากว่าเขาเกิดความรู้สึกสนุกกับมัน
ความสนุกกับการทำอะไรของเด็ก เกิดได้จากการได้รับความไว้ใจให้ทำในสิ่งที่ทำได้ จากผู้ใหญ่
การเงียบ การไม่ไถ่ถาม การไม่พูดคุย การไม่ปรึกษา ไม่ได้แปลว่า เด็กไม่มีปัญหาในใจ
ความเรียบร้อยของเด็ก เป็นรูปหนึ่งของพฤติกรรมของเด็กที่มีความไม่มั่นคงทางอารมณ์บางอย่างอยู่นะ
การถูกกระทำรุนแรงแค่ดุก็ปลูกต้นความกลัวให้แล้วในใจเด็ก ยิ่งการกระทำนั้นรุนแรงทางกายเข้าด้วยแล้ว ลองคิดดูว่า ต้นความกลัวนั้นจะเติบใหญ่แค่ไหน ยิ่งถูกกระทำซ้ำๆบ่อยๆยิ่งแล้วใหญ่
เมื่อเด็กจากอกพ่อและแม่ เด็กรู้สึกโดดเดี่ยว ว้าเหว่ ผู้ใหญ่ที่เด็กอยู่ด้วยเมื่อไม่มีพ่อแม่อยู่ มีอิทธิพลสำคัญต่อการถักทอเสื้อที่มองไม่เห็นมาปกป้องตัวเองให้อยู่รอดและอยู่ร่วมกับผู้ใหญ่อย่างปลอดภัย
Keywords :
เด็กแปลผลการกระทำรุนแรงที่ได้พบเห็นของผู้ใหญ่เป็นอารมณ์ของผู้ใหญ่ที่น่ากลัว น่ารังเกียจนะ เขาจึงปรับตัวเองเพื่อปกป้องตัวเขาให้อยู่ร่วมได้อย่างปลอดภัย เป็นการอยู่ร่วมอย่างมีความหมายต่อตัวเขาว่าจะทำให้ตัวเขาอยู่รอดในแง่ความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่
« « Prev : เจ้ามีที่มาอย่างไร(2)
Next : เจ้ามีที่มาอย่างไร(4) » »
2 ความคิดเห็น
ทุกอย่างเป็นไปแบบที่มันเป็นครับ จะสุข จะทุกข์ จะเป็นอะไร มันก็เป็นไปแล้ว และเราก็ผ่านมาได้
ความเรียบร้อยของเด็ก เป็นรูปหนึ่งของพฤติกรรมของเด็กที่มีความไม่มั่นคงทางอารมณ์บางอย่างอยู่นะ
ยกมือสนับสนุนครับ ผมเคยเป็นคนเรียบร้อย พูดน้อย ชอบอยู่เงียบๆ แต่เพราะหน้าที่การงานทำให้ต้องพูด ไม่พูดก็ไม่ได้ ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่… และแล้วโลกก็พบว่า อีตานี่พูดอะไร(ฟะ) ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ฮาๆๆๆๆๆ
[...] เจ้าเป็นมาอย่างไร(3) เสร็จแล้วค่ะ [...]