คืนแรก ณ เมืองเจียงฮาย
อ่าน: 1165ก่อนเข้านอนเมื่อคืน นัดกันว่าจะตื่นนอนไม่เกินเจ็ดโมงครึ่ง แต่นอนเพลินฉันตื่นเอาตั้งแปดโมงครึ่งแนะค่ะ คิดดูซิว่าที่นอนบ้านน้าน่านอนขนาดไหน และหากว่าใครจะอิจฉาก็ขอน้ามาพักเองแล้วกันนะค่ะ
เตรียมกายาเรียบร้อยก็ออกจากบ้านกันมาที่คณะเภสัชฯ กะว่าจะไปกินข้าวเช้ากันทีนั่น ปรากฏว่าพรรคพวกสาวน้อยเขากำลังโจ้มื้อเช้ากันอย่างอร่อย ฉันทำตัวใจง่ายอีกแล้วค่ะ เขาชวนกินด้วยก็ไปร่วมกินหน้าตาเฉย เสร็จแล้วก็นั่งเล่นคอมฯรอโดยแย่งที่นั่งทำงานของน้องผึ้งเอาไว้ซะเลย จนกระทั่งมีเสียงถามจากในห้องว่าจะกินอะไร เหลือบตามองนาฬิกาอ้อว่าเวลาสิบเอ็ดโมงแล้วรึ แล้วนั่งเล่นคอมฯต่อ จนน้าเตือนว่ากินมื้อเที่ยงได้แล้วตอนสิบเอ็ดโมงกว่า ในใจตอนนั้นคิดว่าเอ๊ะเด็กที่นี่เขากินข้าวกันเร็วจัง จึงยังคงนั่งโอ้เอ้ต่ออีกหน่อย จนกระทั่งได้ยินเด็กๆเงียบเสียงไป หันไปมองอีกที อ้าว หายไปไหนกันหมด มีแต่น้องสองคนนั่งรีบกินกันอยู่ ถามไถ่ได้ความว่าทุกวันพุธที่นี่เขามีเวทีพบปะของเหล่ากระบวนกร
กระบวนกรที่นี่เขามีอยู่ทั้งหมดสิบคน มีหนุ่มร่วมอยู่สองคนเท่านั้นเอง วันนี้เขามีกิจกรรมพบปะกันอีกครั้ง น้าอึ่งเขามีการบ้านของตัวเองที่อยากรู้ จึงให้เวลากับการพบปะนี้ก่อนเดินทางไปเชียงราย เราออกเดินทางไปเชียงรายเวลาเกือบบ่ายสองโมงค่ะ
เวทีพบปะของกระบวนกรที่ไปเห็น เป็นห้องเล็กๆที่แบ่งส่วนมาใช้งาน พื้นที่ใช้งานมีขนาดราวสามคูณสี่เมตร มีทีวี ตู้หนังสือ และเครื่องเล่นดีวีดีพร้อม มีผ้าสำรองเตรียมไว้ให้นุ่งเพื่อเปลี่ยนให้นั่งนอนสบายให้ด้วยนะ พื้นห้องก็มีเบาะหนังพับได้วางปูไว้ มีตู้วางหมอนไว้เรียงรายเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้ใช้นอนได้ ตอนที่นั่งกันอยู่ก็มีคนขนตู้ใหม่มาให้อีกสามตู้ ดูแล้วน่าอิจฉาไหม
เรื่องราวที่พบปะวันนี้ของพวกเขา เป็นเรื่องการเตรียมพร้อมของการไปช่วยเหลือหน่วยงานอื่นในฐานะกระบวนกร มีคนมาร่วมวงอยู่ทั้งหมดเจ็ดคนรวมตัวน้า และมีฉันเป็นแขกร่วมวงไปด้วยโดยปริยาย
ตอนที่ฟังเขาอยู่นั้น ฉันจับเรื่องราวไม่ได้ปะติดปะต่อ จับได้แต่ความรู้สึกว่ามีบางคนในพวกเขาไม่มั่นใจว่าจะเริ่มต้นการช่วยเหลือการทำ KM ให้หน่วยงานอื่นอย่างไรและในใจมีบุคคลที่คาดว่าจะต้องไปคุยด้วยซึ่งฉันฟังแล้วลำดับไม่ได้ว่าคนที่เขาจะไปคุยด้วยนั้นอยู่สูงแค่ไหนค่ะ รับรู้แต่ว่า เป็นระดับหัวหน้าของหน่วยงานหลายหน่วย
เมื่อเขาคุยกันเรื่องของการเริ่มคุย และได้แลกเปลี่ยนกันแล้ว น้าอึ่งชวนฉันร่วมคุยด้วย ฉันโยนตัวกวนลงไปให้เขาเอ๊ะว่า ฉันฟังว่าพวกเขากำลังค้นหาตัวกวน ที่จะโยนไปในขณะคุยด้วยกับหัวหน้าหน่วยงาน ถ้าได้ตัวกวนนี้เขาก็จะเริ่มคุยได้ง่าย
สังเกตแล้วดูเหมือนเขายังค้นหามันไม่เจอ ฉันจึงชวนให้เขาเล่าว่า เมื่อก่อนตอนเริ่มต้นที่จะทำ KM เขารู้สึกอย่างไรกับการทำ KM บ้าง แล้วทำลงไปแล้วเขารู้สึกกับมันอย่างไร ฉันว่าคำชวนนี้คือตัวกวนนะค่ะ เพราะว่าทำให้เขาได้ย้อนทวนความรู้สึกที่เขาเคยพบมันมาก่อน ซึ่งเขาน่าจะปิ๊งอะไรกับมันขึ้นมาบ้าง
ปรากฏว่ากระบวนการคุยลื่นไหล ฉันสะกิดให้น้าอึ่งบันทึกสิ่งที่ได้ยินเอาไว้ ด้วยคิดว่าน่าจะมีอะไรที่น้าอึ่งเก็บเกี่ยวไปใช้ต่อได้ถ้านำมาใคร่ครวญ พอเขาเล่าจบแล้วฉันบอกเขาไปว่า คำตอบของตัวกวนและวิธีที่พวกเขากำลังค้นหา ฉันฟังแล้วมันอยู่ในคำพูดที่เขาได้เล่ามันออกมานะเอง ดูเหมือนคำพูดนี้จะไปกระตุกความคิดของบางคนให้คลายความกังวลในงานที่กำลังจะไปทำ และเขาเกร็งกับมันเพราะคราวนี้เขาต้องไปเผชิญกับคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่า จำได้ว่าประโยคสุดท้ายที่ฉันคุยออกไป ฉันบอกว่าการไปชวนคนทำ KM ก็เหมือนคนที่เคยไปเล่นรถไฟเหาะที่สวนสยามแล้วสนุก จะชวนคนอีกคนที่ไม่เคยเล่นรถไฟเหาะให้อยากเล่นและรู้สึกว่ามันน่าสนุกอย่างไรนั่นแหละค่ะ
ออกเดินทางจากเชียงใหม่ถึงเชียงรายก็เป็นเวลาหกโมงแล้ว ได้พบกับน้องสาวชาวเจียงฮายที่สี่แยกเข้าเมือง แจกกอดให้กันแล้วก็พากันไปกินผัดไทยหน้าห้องนั่งเล่น ด้วยว่าอาจารย์วิศิษฐ์ให้ลูกศิษย์โทรนัดไปพบปะหนึ่งทุ่ม เพื่อการพูดคุยทำความรู้จักกันก่อน ขอชวนให้ไชโยกับสาวเจียงใหม่ที่ออกจากไข่แดงได้อีกเรื่องแล้วกับการขับรถยาวจากเจียงใหม่มาเจียงฮายแบบมือเดี่ยวเมียสิบล้อก่อนเล่าต่อเรื่องอื่นค่ะ อีกทั้งขอสรุปดื้อๆว่าคืนนี้คุยกันที่ห้องนั่งเล่นเพลินจนถึงสามทุ่มเศษ แล้วจึงแยกตัวกลับออกมาและไปนอนกันที่บ้านเจ้าถิ่นค่ะ
เรื่องราวที่พูดคุยที่ห้องนั่งเล่นคืนนี้นั้น เป็นการทำความรู้จักกันว่าไผเป็นไผ มากันทำไมค่ะ มีคนที่มานั่งคุยอยู่หกคน ซึ่งมีหนึ่งหมอ หนึ่งพยาบาล หนึ่งมือเดี่ยวเมียสิบล้อ หนึ่งเซียน และสองลูกศิษย์เซียนค่ะ ก็เป็นเวทีคุยแลกเปลี่ยนความในใจเล่าสู่กัน ในเรื่องแรงจูงใจที่ทำให้ดั้นด้นมาถึงวงน้ำชา
มือเดี่ยวสิบล้อนั้นบอกว่า ฉันชวนมา และอยากมาหาครูให้กับความเป็นกระบวนกรของตน น้องสาวคนใหม่ที่เป็นพยาบาลบอกว่า มาตามหาคำตอบให้กับความสับสนในความคิดของตน น้องสองคนที่เป็นศิษย์เซียนบอกว่า มาเข้าร่วมเพื่อพัฒนาตน ส่วนฉันนั้นบอกว่ามาเพราะสนใจในหลักสูตร สนใจว่าหลักสูตรที่จัดในสี่วันนี้จะให้ความรู้อะไรค่ะ ส่วนเซียนนั้นท่านเล่าประวัติอีกมุมหนึ่งให้ฟัง พร้อมทั้งเบื้องหลังความเชื่อที่ทำให้ได้พัฒนาหลักสูตรต่างๆขึ้น ซึ่งฉันไม่ขอเล่าด้วยว่ามันบันทึกอยู่ในหนังสือของที่นี่หลายที่อยู่แล้ว
« « Prev : เมื่อได้เจอสาวสวยรวยน้ำใจ
Next : วันที่สอง ณ ห้องนั่งเล่น » »
4 ความคิดเห็น
มาจองที่นั่งแถวหน้า ฟังหมอเจ๊เล่าเรื่อง อิอิ
ว่าแล้วว่าแล้ว อิอิ…พ่อยกมาฟังแล้ว..ดีใจค่ะ
หมอจอมป่วนคะ
น้าไม่ต้องเขียนแล้ว
พี่หมอเขียนให้หมด
อิอิอิ
เหลือแต่เก็บตกของตัวเอง
รอก่อนนะ
ของคณะพยาบาลยังไม่เสร็จเลย
5555
#3 ฮั่นแน่ขี้โกง มิน่า พอยุติกิจกรรมของวันรีบเปิดคอมฯบริการให้ทันที ร้ายนักๆนะน้อง
หมอจอมป่วนจับตีก้นซะน้อย…ดีกว่ามั๊ย