คืนแรก ณ เมืองเจียงฮาย

โดย สาวตา เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2008 เวลา 18:49 ในหมวดหมู่ เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1158

ก่อนเข้านอนเมื่อคืน นัดกันว่าจะตื่นนอนไม่เกินเจ็ดโมงครึ่ง แต่นอนเพลินฉันตื่นเอาตั้งแปดโมงครึ่งแนะค่ะ คิดดูซิว่าที่นอนบ้านน้าน่านอนขนาดไหน และหากว่าใครจะอิจฉาก็ขอน้ามาพักเองแล้วกันนะค่ะ

 

เตรียมกายาเรียบร้อยก็ออกจากบ้านกันมาที่คณะเภสัชฯ กะว่าจะไปกินข้าวเช้ากันทีนั่น ปรากฏว่าพรรคพวกสาวน้อยเขากำลังโจ้มื้อเช้ากันอย่างอร่อย ฉันทำตัวใจง่ายอีกแล้วค่ะ เขาชวนกินด้วยก็ไปร่วมกินหน้าตาเฉย  เสร็จแล้วก็นั่งเล่นคอมฯรอโดยแย่งที่นั่งทำงานของน้องผึ้งเอาไว้ซะเลย จนกระทั่งมีเสียงถามจากในห้องว่าจะกินอะไร เหลือบตามองนาฬิกาอ้อว่าเวลาสิบเอ็ดโมงแล้วรึ แล้วนั่งเล่นคอมฯต่อ จนน้าเตือนว่ากินมื้อเที่ยงได้แล้วตอนสิบเอ็ดโมงกว่า ในใจตอนนั้นคิดว่าเอ๊ะเด็กที่นี่เขากินข้าวกันเร็วจัง จึงยังคงนั่งโอ้เอ้ต่ออีกหน่อย จนกระทั่งได้ยินเด็กๆเงียบเสียงไป หันไปมองอีกที อ้าว หายไปไหนกันหมด มีแต่น้องสองคนนั่งรีบกินกันอยู่ ถามไถ่ได้ความว่าทุกวันพุธที่นี่เขามีเวทีพบปะของเหล่ากระบวนกร

 

กระบวนกรที่นี่เขามีอยู่ทั้งหมดสิบคน มีหนุ่มร่วมอยู่สองคนเท่านั้นเอง วันนี้เขามีกิจกรรมพบปะกันอีกครั้ง น้าอึ่งเขามีการบ้านของตัวเองที่อยากรู้ จึงให้เวลากับการพบปะนี้ก่อนเดินทางไปเชียงราย เราออกเดินทางไปเชียงรายเวลาเกือบบ่ายสองโมงค่ะ

 

เวทีพบปะของกระบวนกรที่ไปเห็น เป็นห้องเล็กๆที่แบ่งส่วนมาใช้งาน พื้นที่ใช้งานมีขนาดราวสามคูณสี่เมตร มีทีวี ตู้หนังสือ และเครื่องเล่นดีวีดีพร้อม มีผ้าสำรองเตรียมไว้ให้นุ่งเพื่อเปลี่ยนให้นั่งนอนสบายให้ด้วยนะ พื้นห้องก็มีเบาะหนังพับได้วางปูไว้ มีตู้วางหมอนไว้เรียงรายเป็นระเบียบเรียบร้อยเพื่อให้ใช้นอนได้ ตอนที่นั่งกันอยู่ก็มีคนขนตู้ใหม่มาให้อีกสามตู้ ดูแล้วน่าอิจฉาไหม

 

เรื่องราวที่พบปะวันนี้ของพวกเขา เป็นเรื่องการเตรียมพร้อมของการไปช่วยเหลือหน่วยงานอื่นในฐานะกระบวนกร มีคนมาร่วมวงอยู่ทั้งหมดเจ็ดคนรวมตัวน้า และมีฉันเป็นแขกร่วมวงไปด้วยโดยปริยาย

 

ตอนที่ฟังเขาอยู่นั้น ฉันจับเรื่องราวไม่ได้ปะติดปะต่อ จับได้แต่ความรู้สึกว่ามีบางคนในพวกเขาไม่มั่นใจว่าจะเริ่มต้นการช่วยเหลือการทำ KM ให้หน่วยงานอื่นอย่างไรและในใจมีบุคคลที่คาดว่าจะต้องไปคุยด้วยซึ่งฉันฟังแล้วลำดับไม่ได้ว่าคนที่เขาจะไปคุยด้วยนั้นอยู่สูงแค่ไหนค่ะ รับรู้แต่ว่า เป็นระดับหัวหน้าของหน่วยงานหลายหน่วย 

 

เมื่อเขาคุยกันเรื่องของการเริ่มคุย และได้แลกเปลี่ยนกันแล้ว น้าอึ่งชวนฉันร่วมคุยด้วย ฉันโยนตัวกวนลงไปให้เขาเอ๊ะว่า ฉันฟังว่าพวกเขากำลังค้นหาตัวกวน ที่จะโยนไปในขณะคุยด้วยกับหัวหน้าหน่วยงาน ถ้าได้ตัวกวนนี้เขาก็จะเริ่มคุยได้ง่าย

 

สังเกตแล้วดูเหมือนเขายังค้นหามันไม่เจอ ฉันจึงชวนให้เขาเล่าว่า เมื่อก่อนตอนเริ่มต้นที่จะทำ KM เขารู้สึกอย่างไรกับการทำ KM บ้าง แล้วทำลงไปแล้วเขารู้สึกกับมันอย่างไร  ฉันว่าคำชวนนี้คือตัวกวนนะค่ะ เพราะว่าทำให้เขาได้ย้อนทวนความรู้สึกที่เขาเคยพบมันมาก่อน ซึ่งเขาน่าจะปิ๊งอะไรกับมันขึ้นมาบ้าง

 

ปรากฏว่ากระบวนการคุยลื่นไหล ฉันสะกิดให้น้าอึ่งบันทึกสิ่งที่ได้ยินเอาไว้ ด้วยคิดว่าน่าจะมีอะไรที่น้าอึ่งเก็บเกี่ยวไปใช้ต่อได้ถ้านำมาใคร่ครวญ  พอเขาเล่าจบแล้วฉันบอกเขาไปว่า คำตอบของตัวกวนและวิธีที่พวกเขากำลังค้นหา ฉันฟังแล้วมันอยู่ในคำพูดที่เขาได้เล่ามันออกมานะเอง ดูเหมือนคำพูดนี้จะไปกระตุกความคิดของบางคนให้คลายความกังวลในงานที่กำลังจะไปทำ และเขาเกร็งกับมันเพราะคราวนี้เขาต้องไปเผชิญกับคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่า  จำได้ว่าประโยคสุดท้ายที่ฉันคุยออกไป ฉันบอกว่าการไปชวนคนทำ KM ก็เหมือนคนที่เคยไปเล่นรถไฟเหาะที่สวนสยามแล้วสนุก จะชวนคนอีกคนที่ไม่เคยเล่นรถไฟเหาะให้อยากเล่นและรู้สึกว่ามันน่าสนุกอย่างไรนั่นแหละค่ะ

 

ออกเดินทางจากเชียงใหม่ถึงเชียงรายก็เป็นเวลาหกโมงแล้ว ได้พบกับน้องสาวชาวเจียงฮายที่สี่แยกเข้าเมือง แจกกอดให้กันแล้วก็พากันไปกินผัดไทยหน้าห้องนั่งเล่น ด้วยว่าอาจารย์วิศิษฐ์ให้ลูกศิษย์โทรนัดไปพบปะหนึ่งทุ่ม เพื่อการพูดคุยทำความรู้จักกันก่อน  ขอชวนให้ไชโยกับสาวเจียงใหม่ที่ออกจากไข่แดงได้อีกเรื่องแล้วกับการขับรถยาวจากเจียงใหม่มาเจียงฮายแบบมือเดี่ยวเมียสิบล้อก่อนเล่าต่อเรื่องอื่นค่ะ  อีกทั้งขอสรุปดื้อๆว่าคืนนี้คุยกันที่ห้องนั่งเล่นเพลินจนถึงสามทุ่มเศษ แล้วจึงแยกตัวกลับออกมาและไปนอนกันที่บ้านเจ้าถิ่นค่ะ

 

เรื่องราวที่พูดคุยที่ห้องนั่งเล่นคืนนี้นั้น เป็นการทำความรู้จักกันว่าไผเป็นไผ มากันทำไมค่ะ มีคนที่มานั่งคุยอยู่หกคน ซึ่งมีหนึ่งหมอ หนึ่งพยาบาล หนึ่งมือเดี่ยวเมียสิบล้อ หนึ่งเซียน และสองลูกศิษย์เซียนค่ะ ก็เป็นเวทีคุยแลกเปลี่ยนความในใจเล่าสู่กัน  ในเรื่องแรงจูงใจที่ทำให้ดั้นด้นมาถึงวงน้ำชา

 

มือเดี่ยวสิบล้อนั้นบอกว่า ฉันชวนมา และอยากมาหาครูให้กับความเป็นกระบวนกรของตน  น้องสาวคนใหม่ที่เป็นพยาบาลบอกว่า มาตามหาคำตอบให้กับความสับสนในความคิดของตน  น้องสองคนที่เป็นศิษย์เซียนบอกว่า มาเข้าร่วมเพื่อพัฒนาตน ส่วนฉันนั้นบอกว่ามาเพราะสนใจในหลักสูตร สนใจว่าหลักสูตรที่จัดในสี่วันนี้จะให้ความรู้อะไรค่ะ ส่วนเซียนนั้นท่านเล่าประวัติอีกมุมหนึ่งให้ฟัง พร้อมทั้งเบื้องหลังความเชื่อที่ทำให้ได้พัฒนาหลักสูตรต่างๆขึ้น ซึ่งฉันไม่ขอเล่าด้วยว่ามันบันทึกอยู่ในหนังสือของที่นี่หลายที่อยู่แล้ว 

 

 

 

« « Prev : เมื่อได้เจอสาวสวยรวยน้ำใจ

Next : วันที่สอง ณ ห้องนั่งเล่น » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2008 เวลา 21:57

    มาจองที่นั่งแถวหน้า ฟังหมอเจ๊เล่าเรื่อง อิอิ

  • #2 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2008 เวลา 10:14

    ว่าแล้วว่าแล้ว อิอิ…พ่อยกมาฟังแล้ว..ดีใจค่ะ

  • #3 sompornp ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2008 เวลา 13:58

    หมอจอมป่วนคะ
    น้าไม่ต้องเขียนแล้ว
    พี่หมอเขียนให้หมด
    อิอิอิ

    เหลือแต่เก็บตกของตัวเอง
    รอก่อนนะ
    ของคณะพยาบาลยังไม่เสร็จเลย
    5555

  • #4 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2008 เวลา 23:50

    #3 ฮั่นแน่ขี้โกง มิน่า พอยุติกิจกรรมของวันรีบเปิดคอมฯบริการให้ทันที ร้ายนักๆนะน้อง
    หมอจอมป่วนจับตีก้นซะน้อย…ดีกว่ามั๊ย


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.27029013633728 sec
Sidebar: 2.5225310325623 sec