สายใยผูกพัน…ช่วยได้น่า
เมษายน ปี 55 มีวันหยุดเยอะมาก อาชีพอื่นใช้วันหยุดยาวได้อย่างเป็นวันหยุดจริงๆ แต่อาชีพฉัน วันหยุดหรือวันธรรมดาไม่ต่าง ทุกวันเหมือนกันหมด โชคดีที่งานผ่านเข้ามาให้ทำเรื่อยๆ ไม่หนักให้ล้า ไม่เหนื่อยจนเพลียหัวใจ
หยุดช่วงแรก มีงานให้ทำพิเศษ เตรียมรับแขกที่มาประเมินรพ. มีงานใหญ่เข้ามาก่อนหน้าอยู่งานหนึ่ง งานถูกส่งใส่ซองสีน้ำตาลมาถึงมือ ในซองมีหนังสือจ่าหน้าเอกสารปึกใหญ่ว่า “ให้สอบข้อเท็จจริงและรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร”
อ่านความนัยของเอกสารในซองทีละแผ่น อ้อ เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่ขอเวลาทำงานไว้นี่เอง มีเรื่องราวของความไม่สบอารมณ์ต่อกันของคนหลายคู่ปรากฏแก่ตา ปรากฏอารมณ์โกรธผ่านตัวหนังสืออยู่เต็มไปหมด อะไรจะขนาดนั้น
เอาละซิจะเริ่มงานนี้ยังไงดี ก่อนลงมือถามตัวเองว่า ฝีมือดีขนาดพาตัวฝ่าอารมณ์โกรธขนาดนี้ไหวมั๊ยหนอ เผลอเมื่อไรมีพลาดพาหน่วยงานนี้พังไปได้เลยนา
เสียงภายในดังขึ้นบอกว่า มั่นใจเถิด ไปช้าๆ ไม่เร่ง ไม่ร้อนรน ผลจะดีเอง เชื่อตัวเองไว้เถิดว่า สายใยแห่งรักและปรารถนาดี ไม่หลอกตัวเอง ไม่ปั้นแต่ง จะนำพาไปสู่การเชื่อมสำเร็จ อืม ก็ลองดู
ลงมือนัดหมายคนที่รู้ว่า มีสายใยรักตอบ มาคุยก่อนทีละคนสองคน ใช้เวลาคุยกับแต่ละคนเนิ่นนานเป็นชั่วโมง บ้างกว่าชั่วโมง บ้างเลยไปกว่า 5 ชั่วโมง รู้สึกถึงการใช้พลังไปมากมาย สิ้นวันก็หมดแรง กินข้าว อาบน้ำแล้วอยากนอนทันที
ทำอย่างนี้อยู่ติดต่อกันทุกวันอยู่ราวหนึ่งสัปดาห์ แล้วก็มีความควายเข้ามาแทรก เจ้านายตามตัวด่วน ให้ไปพบหน้า ได้เรื่องใหม่อีกแล้ว “ดูนี่ มีคดีดำพร้อมหนังสือพิจารณาไกล่เกลี่ย น้องรับไปทำหน่อย”
นึกในใจ เอาแล้วซิงานเข้า ไหงเจ้านายไม่ทำเองละ ก็เขาส่งมาให้เจ้านายรับไปนี่นา รู้สึกว่าโดนท้าทายเล็กๆแฮะ เมื่อได้ยินคำสั่งว่า “พี่มอบให้ทำ ได้ผลแล้วมารายงาน ทำไม่ได้บอกมา จะให้ช่วยอะไร”
สติเตือนว่า “เฮ้ยๆ เจ้านายตื่นเต้นอะไรหรือเปล่า ถามหน่อย” ชวนเจ้านายอ่านหมายศาลใหม่ จนชัดว่าเป็นคดีฟ้องสบประมาท สบโอกาสบอกนิ่มๆว่า “เรื่องที่มอบ เป็นเรื่องส่วนตัว ปล่อยให้คน 2 คนตกลงกันเหอะ” ก็จบเรื่องควายๆลงได้…เฮ้อ….เกือบไปแล้ว
ไม่นึกเลยว่านั่งคุยกับคนทุกวันจะเหนื่อยขนาดนี้ นึกถึงจอมป่วน อัยการชาวเกาะขึ้นมา คนอะไร คุยได้คุยดี ไม่เหนื่อยเอาซะบ้างเลย อย่างเรานี่กว่าจะคุยได้ครบหัว 15 คน เร่งรัดมาให้สรุปลงให้ได้ใน 7 วันจะไปรอดมั๊ย(หว่า)
คุยทีละคนไปได้เพียง 3 คนก็ต้องพักรับแขกที่มาเยือน เมื่อแขกคนและแขกลมใหญ่จากไปแล้ว ก็เริ่มงานคุยต่อ ตั้งใจสรุปเรื่องทั้งหมดส่งต่อให้เรียบร้อยหลังวันหยุดยาวรอบหลัง
บ่ายวานนี้เริ่มคุยรอบใหม่ คนแรกหนีบเพื่อนมาด้วยหนึ่งคน คนนี้เคยคุยด้วยไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน เธอมาเป็นเพื่อนเงียบๆอยู่มุมห้อง
จ้องหน้าคนตรงหน้าก็เห็นกำแพงอารมณ์โกรธ รับรู้ภายในตัวเองว่า รับคลื่นความโกรธเข้าไปบางส่วน ใจเต้นแรงเชียว ชวนคุยโดยถามว่า จะมีเวลานานเท่าไรให้คุยด้วย เสียงสวนกลับเสียงดังเชียว “ไม่ว่าง มีเวลาคุยด้วยเพียง 15 นาที”
บอกเธอไปว่า มีเรื่องยาวต้องคุย มีเวลาให้แค่นี้ก็ขอคุยเรื่องที่จบได้ในเวลาละกัน ได้เรื่องเลย อารมณ์โกรธเธอยิ่งเพิ่มขึ้น หน้าบึ้ง เสียงดังเวลาตอบถ้อย คุยๆไปก็ร้องในใจว่า “เฮ้อ ที่ตั้งใจจะคุยนานๆให้เข้าใจความปรารถนาดีที่มีต่อ โดยตัวเองไม่เป็นโจรอีกรอบ น่าจะไม่ไหว เสียงเธอยั่วอารมณ์ได้ดีแท้”
ตามรู้อารมณ์ตัวเองไปด้วย รับรู้ข้อมูลตอบถ้อยของเธอไปด้วย ป้อนคำถามขอรายละเอียดของประเด็นในกระดาษ เธอตอบว่าเขียนไว้แล้ว ไม่มีความเห็น ไม่มีข้อมูลให้เิ่พิ่ม
ชัดเจนว่า “เธอไม่เปิดใจคุย” จึงตัดสินใจยุติการคุย บอกเธอว่า ความร่วมมือมีเพียงเท่านี้ก็ไม่เป็นไร ขอใช้เวลาที่ให้เพียง 15 นาที เรื่องอื่นไม่ต้องคุยกันแล้ว
วินาทีที่จบคำพูด ก็ทันรู้ว่า อารมณ์ตัวเองเริ่มกรุ่นๆ เห็นคลื่นพริ้วๆ จึงรีบผละตัวมา ออกจากห้องก็พบอีกคนที่นัดไว้มารออยู่
คุยกับอีกคนจนถึง 4 โมงเย็น แล้วต่อด้วยคนที่ 3 โชคดีที่จับอารมณ์ได้ทัน การคุยกับคนที่ 2 และ 3 จึงสามารถชวนให้เขาดิ่งลึกไปถึงการฟังที่มีคุณภาพ เมื่อสนทนากันจบลง แต่ละคนพาตัวเข้าไปสู่โหมดของตัวยูได้ ถึงแม้จะไม่ดิ่งถึงก้นก็ถือว่าโอแล้ว
วันนี้ทำงานต่อ มีคนมาคุยด้วย 2 คน ไม่คาดว่าคนหลังจะยอมมาคุยด้วย ใช้เวลา 3 ชั่วโมง-5 ชั่วโมงต่อคน หมดแรงไปอีกวัน เหลืองานอีก 2 คนให้เก็บต่อ
ไม่เสียดายเวลาที่ให้ไป ก่อนจบงานของวันนี้ ได้ข้อสรุปที่ทำให้เข้าใจอารมณ์ผู้หญิงมากขึ้น ได้ความรู้ใหม่ว่า “อารมณ์โกรธคือเงาของความน้อยใจ มีรากเหง้ามาจากความรู้สึกไม่มั่นใจในความสำคัญแห่งตน”
จบงานด้วยการบอกเธอว่า “หมอรักทุกคน ไม่สบายใจที่รับรู้ว่ามีคนตำหนิเธอ ไม่สบายใจกับสิ่งที่เธอทำ มันทำให้ภาพลักษณ์เธอเป็นลบในสายตาคนอื่น ไม่อยากให้เกิด ต่อไปมีอะไรไม่สบายใจ อยากมาบอกนัดมา ให้เวลาหมอเตรียมตัว เตรียมเวลาให้ เมื่อบอกไป ให้มาได้ อย่าทำลายตัวเอง เป็นห่วง”
มอบกอดให้เธอก่อนจาก ได้ยินเสียงรำพึงว่า เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของหมอ…..เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ…จึงให้เวลาเธออยู่ในอ้อมกอดอยู่พักใหญ่ ก่อนจากลากันพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
เห็นรอยยิ้มเธอก็สัมผัสได้ว่าปมคลายแล้ว สายใยผูกพันช่วยไว้ได้จริงๆ อย่างที่เชื่อ เรื่องราวที่ตั้งใจจะช่วยเชื่อมผู้คนในหน่วยงานเข้าหากันไม่ยากแล้ว
แปลกนะ จริงๆแล้ว “คน” ไม่ต้องการอะไรมากมายหรอก แค่ได้ความจริงใจอย่างแท้จริงมอบให้…….ก็สุขแล้ว
ขอบคุณวันดีสงกรานต์นี้ ที่เื้อื้อโอกาสให้ได้ช่วยเติมความสุขให้คน
ขอบคุณ “ใหญ่” ที่ช่วยเปิดประตูให้เข้าถึงใจคน ขอบคุณผู้พิทักษ์ตัวตน ที่ยอมรับความอ่อนโยนเข้าไปห่มใจผู้คนไว้
ขอบคุณสายใยแห่งรักที่เพื่อนๆพี่ๆชาวเฮมอบให้ พลังนี้ช่วยผลักให้มีแรงทำงานวันนี้ได้ค่ะ
« « Prev : ธรรมชาติส่งเสียงเตือน
Next : ตามลม(๙๐) : โล่งอกไปที…ได้งบครม.สัญจรไว้รับมือ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "สายใยผูกพัน…ช่วยได้น่า"