หมอเจ๊เรียนโลก

ไปนั่งเล่นที่ลานทับทิมและแซวแม่ยกในเรื่องการหุงข้าวธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเอาไว้ ในเรื่องของก้นหมอ แล้วนึกได้ถึงเรื่องเล่าชวนขำขัน

มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง ทำมาหากินอยู่ตามนาข้าวริมเกาะ รอบๆเกาะนั้นมีป่าชายเลนอยู่ วันหนึ่งพ่อแม่ออกไปดำนากัน ทิ้งลูกๆไว้กับตายาย ตายายนั้นยังแข็งแรงอยู่ นึกครึ้มอยากกินปู จึงชวนหลานไปด้วยกันเพื่อดักจับปูที่ริมป่าชายเลน

ทั้งหมดเดินกันมาที่ริมป่า ด้อมๆมองๆหารูปู แต่ละคนแยกย้ายกันเดินหา และแล้วยายก็เหลือบเห็นรูๆหนึ่งแถมเห็นอะไรแวบๆคล้ายขาปู ในใจยายนึกว่า อย่าเลย อย่าบอกตาเลยว่าเจอรูปูแล้ว เดี๋ยวจะไม่ได้แสดงฝีมือขุดปูให้หลานดู คิดแล้วยายตะโกนบอกให้ตาเดินไปล่วงหน้าและดูหลาน ยายจะขอพักเหนื่อยตรงนี้ก่อน บอกแล้วยายก็นั่งผลุบทับปากรูโดยไม่ได้ดูว่าปูนั้นมันกำลังโผล่ออกมา

ตาได้ยินเสียงยายร้องโอ๊ยในขณะที่ยายนั่งลงไปแล้ว จึงหันมามองด้วยความฉงนว่ายายเป็นอะไรไปจึงร้องดัง ขณะที่ฉงนก็ได้ยินเสียงยายร้องบอกให้ช่วย เสียงที่บอกร้องมาว่าปูหนีบก้นเข้าแล้ว ตาพะวงไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ เข้ามาใกล้ยายแล้วลงมือดึงปู เสียงร้องโอ๊ยของยายดังขึ้นใหม่ หลานๆตกใจรู้ว่ายายเจ็บ รีบเข้ามาช่วยตาดึงปู แต่ยายบอกให้ดูอยู่ห่างๆ แล้วเตือนตาว่าดึงไม่ได้เจ็บเจียนตายเวลาดึง ลองเอาปากกัดมันดีกว่ามั๊ย ตาฟังแล้วรีบทำตาม ในจังหวะที่ตาอ้าปากจะกัด ปูมันสะบัดอีกก้ามมา พอดีหนีบเข้าที่จมูก ตาสะบัดหน้าทันทีด้วยความเจ็บ คราวนี้หลานได้ยินทั้งสองร้องพร้อมๆกันด้วยเสียงดังเพราะความเจ็บ มีเสียงตาดังกว่าร้องว่า “อีแก่เอ๊ย มึงจะร้องหาอะไร มึงนะแค่เจ็บอย่างเดียว แต่กูน่ะ มันทั้งเจ็บ ทั้งเหม็น”

« « Prev : ของฝากชาวเฮฮาศาสตร์

Next : คิดว่าเข้าใจ » »