ของฝากชาวเฮฮาศาสตร์

อ่าน: 2145

ในคราที่ไปเยือนหาดใหญ่เมื่อต้นเดือนนี้ มีกิจกรรมในมอ.จัดบรรยายเรื่อง “วิธีติดโช้คอัพให้กับความขัดแย้งในสังคมไทย” โดยขวัญใจชาวเฮฮาศาสตร์ 4 ท่าน อันมีลุงเอก พ่อครูบา อัยการชาวเกาะ และ หลวงพี่ติ๊กเป็นผู้บรรยาย ทั้ง 4 ท่านคุยให้ฟังแบบมันฮาส่งลูกกันลื่นไหลสอดคล้องกันโดยไม่ทิ้งเสน่ห์ประจำตัวไปแม้แต่น้อย จึงถือโอกาสนี้นำบางส่วนที่ท่านพูดๆกันมาเล่าสู่กันฟัง ด้วยภาษาที่ฉันเองแปลความมาค่ะ

ลุงเอกได้พูดเรื่องการใช้อาชีพเป็นอาวุธและยกตัวอย่างวัฒนธรรมของชาติต่างๆมาให้ฟังว่า วัฒนธรรมคนอเมริกันเป็นวัฒนธรรมวัยรุ่นโปร (Youth culture) วัฒนธรรมเยอรมันเป็นวัฒนธรรมแห่งของทน (Engineering culture) วัฒนธรรมฝรั่งเศสเป็นวัฒนธรรมความสวยหอม (Check culture) วัฒนธรรมอิตาลีเป็นวัฒนธรรมความสวยน่าหลงใหล (Sexy culture) วัฒนธรรมญี่ปุ่นเป็นวัฒนธรรมเทคโนโลยี (IT culture) และพี่ไทยเป็นวัฒนธรรมแห่งสัมผัสระหว่างคน ไม่มีอะไรชัดเจน (Human touch) เรื่องที่เป็นไผ่ลู่ลม นกสองหัว และไร้สาระศาสตร์จึงเป็นที่นิยมในสังคมไทย

พ่อครูได้ทักทายชาวมอ.และแซวว่า อย่าเจ้าชู้ที่นี่ เดี๋ยวจะโดนล็อกหัวใจ พร้อมทั้งโปรยคำหวานให้ชาวใต้หัวใจพองโตว่า นับเป็นวาสนาที่ได้มาเยือนใต้ แล้วได้เล่าเรื่องชุมชนมุสลิมเลี้ยงแพะไว้กำจัดขยะให้ฟังด้วย พ่อครูบอกว่าความขัดแย้งในสังคมไทยมีโจทย์อยู่มากมาย จะแก้อย่างไรตัวเองบอกได้ เพราะว่าไม่มีใครรู้จักตัวเองมากกว่าตัวเอง จะทำอะไรให้เรียนก่อนทำ มีความสะอาด มีวินัย วิธีการเรียนการสอนควรมีเทคนิคที่ปรับให้ส่งเสริมการเรียนรู้ที่เพียงพอกับการเปลี่ยนแปลงในสังคม การทำงานให้ทันเหตุการณ์ต้องปรับกุศโลบายให้เข้ากับเหตุการณ์ เชื่อมต่อสัมพันธ์ ทำลายความแห้งแล้ง และสร้างสังคมใหม่ที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ สันติภาพ

หลวงพี่ติ๊กพูดให้ฟังว่า ไม่มีอะไรที่มีพลังเท่าศาสนา ความไม่รู้นำมาซึ่งความรุนแรงได้ ความรัก ความปรารถนาดีถ้าไม่เข้าใจกันก็ทำให้เกิดความรุนแรงได้ ความเข้าใจคือปัญญา ใช้เมตตาสอนปัญญา ทำความเข้าใจคนอื่นให้มากๆโดยเฉพาะคนที่ทำอะไรไม่ได้แบบคนส่วนใหญ่ ความแปลกความไม่เหมือนทำให้คนส่วนนี้ถูกแยกออกมา การยอมรับความต่างจากคนส่วนใหญ่คือโช้คอัพ รู้จักมองให้ลึกคนไม่รู้เกิดเพราะการสื่อสาร บางเรื่องมีที่มาที่ไปสะสม มองแค่อย่างเดียวไม่พอ ให้มองว่าทำอย่างไรจึงจะดีด้วย โดยเฉพาะการมีความต่างอยู่ด้วย ให้ใช้ความเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา เข้าใจธรรม เข้าใจทำ เข้าใจนำเสนอ เปลี่ยน Love ที่ลงเอยด้วยความเศร้า น้ำตา ความตายให้เป็น Love ที่ลงเอยด้วยแสงสว่าง พลังงานใจ จิตวิญญาณ และจิตสำนึกที่มีพลัง

หลวงพี่ยกตัวอย่างวิธีคิดที่กระเพื่อมให้เกิดความเปลี่ยนแปลงดั่งลมที่เกิดจากจากผีเสื้อกระพือปีก ยกตัวอย่างคู่สามีภรรยาให้ฟังว่า อะไรที่ดีหรือที่ชั่วส่งผลให้ตัวเองและคนอื่นเสมอ เรามีส่วนในการเพิ่มหรือลดความขัดแย้งอยู่เสมอ ทุกอย่างมีที่มาที่ไป ชาติจะรอดหรือล่มจมอาจจะเกิดจากการสอนของเราเพียงแค่ 1 นาที ทำอย่างไรให้เราคิดดี ทำดี แล้วสื่อสารให้คนอื่นหันมาทำดีด้วย ทำอย่างไรให้คนใกล้ตัวไม่ทำร้ายกันเอง A good partner is essential. The best partner is your asset management.

หลวงพี่แนะเคล็ดลับการอยู่ร่วมกับคนที่ไม่เหมือนกับเราไว้ว่า ให้พูดเรื่องใกล้ตัวเขาไว้ก่อน พูดถึงสิ่งที่เขารักก่อน นึกถึงไว้เสมอว่าทุกคนรักตัวเอง เมื่อสติแตกก็กลับไปเป็นไอ้บ้า คนเราไม่มีใครโชคร้ายและโชคดีตลอดชีวิต แต่จะมีสิ่งเหล่านี้สลับกันไปตลอดเวลา ความขัดแย้งเกิดได้ทุกพื้นที่ อย่าไปคิดว่าคนอื่นต้องเหมือนเรา

อัยการชาวเกาะนั้นทำหน้าที่ เป็นผู้ดำเนินการอภิปรายในคราวนี้ ทำหน้าที่โยนกลองให้แต่ละคนได้ตีตามสไตล์ของตัวเองอย่างลื่นไหลดีพร้อมทั้งมีลูกเล่นมาเล่าให้ฟังเป็นระยะๆ มีวิดีโอเตรียมมาให้ดูพร้อม สลับฉากให้กับการสรุปความ ท่านพูดถึงอาวุธที่ลดความขัดแย้งว่า มันคือ “การพูดการสื่อสารที่ชัดเจน” ค่ะ

หลวงพี่ติ๊กให้ข้อคิดไว้ว่า จุดเริ่มที่จะแก้ไขความขัดแย้งนั้นหาไม่ยาก คือ เริ่มหาและแก้ไขที่ตัวเราก่อนใครๆค่ะ

1 กันยายน 2551

« « Prev : ศรัทธาเปี่ยมล้น

Next : ถ้าเข้าใกล้ปู โปรดระวังก้น » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

8 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 7:07

    อิอิ ไม่ค่อยออก บรรยากาศ ฟังข้างเดียว เฉยๆ ไม่โต้ถ้อย

  • #2 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 8:56

    โดนๆๆๆๆๆ โดนอีกแล้ว

    ……อาวุธที่ลดความขัดแย้งว่า มันคือ “การพูดการสื่อสารที่ชัดเจน” ……

    แหมๆๆๆๆ ถูกใจทั้งท่านอัยการคนพูด ถูกใจหมอเจ๊ คนที่ไปฟังแล้วเอามาเขียนเล่าให้ฟัง ขอบคุณหลาย ๆ ๆ ๆ ๆ

  • #3 rani ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 10:18

    สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊

    สบายดีไหมค่ะ แหม วัฒนธรรมไทย เป็นแบบไผ่ลู่ลม ยังพอนึกออกว่าใช่ แต่นกสองหัว นี่เพิ่มเติมมาแบบจั๋งหนับ อิอิ
    เสียดายคนไทยด้วยกันขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน การสื่อสาร ยึดหลักพวกใครพวกมัน ไม่ียอมรับความต่างเหมือนที่หลวงพี่ติ๊กบอก ฟัง แล้ัวคิด ผ่านหู ผ่านสมอง และก็ทิ้งไป (คนส่วนใหญ่นะคะ แต่บางคนก็ผ่านแค่หู แบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา อุอุ)เมื่อเวลาผ่านไป ไม่ได้ทำไปปฏิบัติจริง ๆ จังๆ แบบที่หมอจอมป่วนเคยเขียนบันทึกนั่นแหละคะ รู้ แต่ไม่ทำ หรือ ทำทั้ง ๆ ที่รู้

    การสื่อสารที่ชัดเจนจะลดความขัดแย้งได้หรือไม่ บทพิสูจน์ หน้าใหม่กำลังจะเกิดขึ้น หรือจะกลายเป็นเพียงคลื่นกระทบฝั่งละค่ะ เพราะคนส่วนใหญ่ ยึดติดกับพวกมากเกินไปหรือปล่าว ผิดถูกประการใดชี้แนะนะคะ ราณี ก็พูดไปเรื่อย อิอิ

  • #4 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 10:24

    #1 ก็เชิญเขามาฟังนี่ค่ะพ่อครูขา

  • #5 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 10:24

    #2 ถ้าไปนั่งฟังด้วยจะมันกว่านี้ เพราะจะได้ช่วยป่วนป้อนคำถาม

  • #6 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 10:26

    #3 นกสองหัวในความหมายที่ลุงเอกหมายถึง น่าจะเป็นไม่กล้าตัดสินใจ เดี๋ยวก็เข้าข้างฝ่ายโน้น เดี๋ยวก็เปลี่ยนใจมาเข้าข้างฝ่ายนี้ แล้วถ้าให้ตอบตรงหน้าก็เงียบนะค่ะ

  • #7 Sasinand ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 15:11

    จริงค่ะ ไทยเป็นวัฒนธรรมแห่งสัมผัสระหว่างคน ไม่มีอะไรชัดเจน (Human touch) เรื่องที่เป็นไผ่ลู่ลม นกสองหัว และไร้สาระศาสตร์จึงเป็นที่นิยมในสังคมไทย

  • #8 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กันยายน 2008 เวลา 16:36

    #7 คนไทยเราจึงหัวเราะได้เสมอ มีน้ำใจไมตรีกับใครๆได้ทั้งนั้น ทำให้ประเทศไทยเราได้ชื่อว่า Land of Smile และชาวต่างชาตินิยมเสน่ห์นี้ไงค่ะพี่


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.57745504379272 sec
Sidebar: 0.66594195365906 sec