คิดได้ ก็ได้คิด

โดย สาวตา เมื่อ 18 กุมภาพันธ 2012 เวลา 0:25 ในหมวดหมู่ จัดการตัวเอง, วงเสื้อกาวน์, สร้างนิสัย, สังคม, เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1318

เมื่อโอกาสเปิดให้ได้เวลาจากรุ่นน้องหมอหลายคน  ก็ได้คุยกันจนทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน ได้ให้กำลังใจ ได้ช่วยกันทำให้สติของบรรดาน้องๆตื่น-รู้  ความเปลี่ยนแปลงในตัวตนของคนรุ่นน้องก็เกิดขึ้น

เพียงแต่คุยใหัเข้าใจบทบาทแห่งตน เข้าใจ “ความหวัง” ที่คนอื่นมีต่อ และ ชวนให้ “ดูแลตัวเอง”  หมอคนหนึ่งที่ทำตัวสบายๆ คิดว่าเข้างานสายแล้วไม่เป็นไรก็เปลี่ยนไป  พาตัวเองมาทำงานเช้าได้ในไม่กี่วัน

เพียงแต่คุยให้ เข้าใจเรื่องที่ “คิดได้ ให้ได้คิด” หมอคนหนึ่งในอีกร.พ.หนึ่งที่อยู่ไกลกันมาก กำลังรู้สึกหมดพลังกับการงาน จนต้องขอพาตัวไปอยู่ห่างจากครอบครัว ก็ใจสว่าง มีพลัง ใจโปร่งโล่ง  ไม่น่าเชื่อว่าพูดเพียงแค่ “ดีแล้วละ ไปอยู่ใกล้คนดีๆเพื่อรับพลังที่อบอุ่นมาเติมให้ตัว” จะมีพลังถึงเพียงนี้

ไม่กี่วันมานี้ ทำหน้าที่กรรมการสอบสัมภาษณ์รับคนเข้าทำงาน  เด็กคราวลูกรวม 6 นาง และ 1 หนุ่มพากันมาสอบ

ป้อนคำถามเกี่ยวกับครอบครัว ความมั่นใจในตัวเองเป็นหัวข้อสนทนา ก็พบความแปลกว่า กว่าครึ่งของเด็กหลั่งน้ำตา น้อยๆหน่อยก็ตาแดง มากหน่อยก็ปล่อยโฮ จนต้องให้เวลาตั้งสติ  ต๊กกะใจวิ่งหาทิชชูให้แทบไม่ทัน

นึกสงสัยว่าบรรดากรรมการทำอีท่าไหนเข้าละ  ชวนคุยต่อจึงรู้ว่า ต้นเหตุมาจากโจทย์ “วาดรูปภาพแห่งความสุขในวัยเด็ก” ที่ให้ทำไว้ก่อนชวนมาสนทนาตะหาก ที่ไปทำให้ตัวตนข้างในของเด็กตื่น แล้วพาให้เกิด “อาทรเสวนา” ขึ้นในโลกภายใน

ได้เห็นคนที่ตื่นรู้เร็ว ทันอารมณ์ บ๊ายบายอารมณ์ได้เร็ว

ได้เห็นว่าเมื่อทำให้คนบ๊ายบายสิ่งที่ครุ่นคิดอยู่ได้ อารมณ์ก็ไม่ตามติดมา

ได้เห็นเบื้องหลังความภูมิใจที่ทำให้คนน้ำตาหล่นแปะว่า มีความเจ็บปวดฝังลึกอยู่ในความคิด เมื่อไรคนจ๊ะเอ๋กับอารมณ์นั้นได้ อารมณ์ก็หยุด มีรอยยิ้มผลิบาน บ๊ายบายความคิดได้

เป็นอะไรที่น่าทึ่ง  ถือว่าเป็นมงคลที่ได้รับในเดือนแห่งความรักปีนี้ จึงบันทึกไว้

แค่พูดคุยให้ “คิดได้ เพื่อให้ได้คิด” คนก็เปลี่ยนได้  ตัดสินใจที่ จะ “จบ” หรือจะ “จม” กับอารมณ์ต่อไปได้ ดวงจิตประภัสสรนี่น่าทึ่งจริงๆ

16 กุมภาพันธ์ 2555

« « Prev : สั่งทำไมกันเล่า

Next : เนื้อนาบุญที่ติดตัวเปลี่ยนคน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น

  • #1 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 กุมภาพันธ 2012 เวลา 12:38

    การเยียวยามีจังหวะของตัวเอง แบบปัจจัตตังนะคะพี่สาวตา

    บางทีคนเรามันก็มีลืมตัวเองคือลืมแยกตัวเองออกมาจากเรื่องราว …

    มีคนสะกิดในจัวหวะที่เหมาะด้วยบริบทที่ลงตัว…คนที่เขากำลังจะจมน้ำก็ได้หายใจออก…คนช่วยได้บุญทันทีคือปิติสุขนะคะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.051764965057373 sec
Sidebar: 0.20971703529358 sec