เส้นทางของเพ็ญ..
อ่าน: 2816การนำหลักการพึ่งตนเองไปประกาศให้ประชาชนเป้าหมายได้นำไปพิจารณาปฏิบัตินั้น แต่ละคำพูดก็ออกมาจากฐานความคิดบนสิ่งที่เรียกว่าเหตุและผล ประกอบกับการศึกษาดู สัมผัสของจริงในสถานที่ต่างๆ จนเรามั่นใจว่านี่คือสิ่งที่ควรนำไปประกาศ
แต่เราไม่เคยปฏิบัติเอง..เพียงหัวใจเราเชื่อมั่น
เพ็ญ เป็นชื่อของชาวบ้านคนหนึ่ง ไม่ใช่อีเพ็ญ แต่เป็นนายเพ็ญ ชายหนุ่มทั้งแท่งด้วยอายุ 47 ปี เขาตระเวนไปขายแรงงานทั่วประเทศไทย ที่ไหนมีงานจ้างเขาไปที่นั่น
แต่แล้ววันหนึ่งเขาเบื่อที่จะเร่ร่อนไปใช้แรงงานรับจ้าง เพราะมองไม่เห็นทางที่จะตั้งเนื้อตั้งตัวได้เลย เพียงสติที่กระตุกเขากลับมาให้คิดในสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ เมื่อไม่มีคำตอบเขาเดินทางกลับบ้านดงหลวงของเขา ทั้งที่ก็ยังคิดไม่ออกว่า แล้วจะทำอะไร
มือที่จับจอบเสียมนั้นต่างจากมือในวันเวลาที่ผ่านไป ผืนที่ดินที่ “แปนเอิดเติด” (โล่งเตียน) ตรงหน้าเขานั้นเขาถามตัวเองว่า จะทำอะไรกับที่ดินตรงนี้ อนาคตเขาจะทำอะไรที่แตกต่างไปจากเพื่อบ้าน พ่อแม่ ที่ต่างก็ย่ำรอย ความยากจนมาตลอด
เป็นช่วงเวลาที่พวกเราเข้าไปทำงานในพื้นที่ ตระเวนไปหาชาวบ้านผู้มีแววแห่งศักยภาพ หรือสนใจ เรานั่งคุยกัน เราชักชวนผ่านผู้นำในพื้นที่ไปดูงานการทำเกษตรผสมผสานเพื่อการพึ่งตนเอง เพ็ญเดินทางไปกับพ่อใบลิกา และพวกเรา ไปดูงานอินแปง ที่นั่นเพ็ญเห็น พ่อเสาร์ พ่อนั่น พ่อนี่ปลูกแต่ต้นไม้เต็มไปหมดบนที่ดินทั้งผืนเล็กผืนใหญ่ แทบจะไม่มีช่องว่างจะให้เดิน ดูพ่อเหล่านั้นอิ่มเอิบมีความสุข มีกินทุกอย่าง มีเสียงนกเสียงกา มีมดแดง มีเห็ดของโปรด มีหน่อไม้ ใบไม้ที่เป็นของเคียงลาบบ้านเรา
เพ็ญแอบคิดเงียบๆว่านี่แหละคือสิ่งที่เขาเดินหา พบแล้ว นี่คือวิถีที่เราต้องการ
อาว์เปลี่ยนเอาระบบน้ำไปให้สนับสนุนเกษตรกรที่ต้องการและมีแวว วันนั้นเพ็ญหลุดปากออกมาว่า “ผมจะทำให้ส.ป.ก.ดังให้ได้” พวกเราพยักหน้าแล้วก็ลืมไปหมดแล้วว่าเพ็ญพูดอะไรวันนั้น..
วันเวลาที่เปลี่ยนไป จากวันเป็นเดือนเป็นปี เป็นสองปี สามปี สี่ปี….กิจกรรมมากมายผ่านมือเรา สมองเรา ทีมงานและก้าวข้ามปัญหา อุปสรรค การทะเลาะเบาะแว้งกันตามปกติของคนทำงานและความคิด
วันนั้นเพ็ญจูงมือเราไปเยี่ยมแปลงของเขา ว่าอาจารย์ไปดูแปลงผมหน่อย
มันไม่ใช่.. เพ็ญทำอะไรลงไป …บนที่ดินที่เมื่อสามปีที่แล้วมีแต่ดินกับดินและดินไม่มีต้นไม้สักต้น… บัดนี้เต็มไปด้วยต้นไม้สารพัดชนิดเต็มพื้นที่ไปหมด เพียงสามปีบนที่ดินว่างเปล่า บัดนี้เป็นสวนไม้ผลไม้ยืนต้น พืชผัก ไม้ป่านับชนิดไม่ถ้วนที่เพ็ญใช้สองมือปลูกมันด้วยตัวเขาเอง กับศรีภรรยา
ผมจับมือเพ็ญแน่นๆ มองหน้าเขา พร้อมกับโอบไหล่เขา โดยไม่พูดอะไร เราสื่อกันด้วยความรู้สึก…
เมื่อเช้าผมตัดกล้วยไปขายริมถนนได้ 200 บาท วันก่อน ข่า ตะไคร้ คอนแคน ได้มา 300 บาทไม่ต้องไปตลาด แค่ตัดแล้ววางไว้ริมถนนแม่ค้าแย่งกันมาซื้อไปขายที่ อ.เขาวง วันไหนผมตัด เก็บพืชผัก ผมก็ได้เงินทุกวัน
ลูกหลานกลับจากโรงเรียนก็แวะมาสวนผม ผมก็เก็บหมากเม่าให้กิน ปากดำไปเลย เด็กๆก็วิ่งเล่นในสวน..มีความสุข
ผมหลับตาเห็นป่าครอบครัวกำลังโตขึ้นมาบนที่ดินผืนนี้ที่เมื่อสามปีที่แล้วไม่มีต้นไม้สักต้น.. เหมือนพ่อแสนบ้านเลื่อนเจริญ แล้วชีวิตวันวันก็วนไปวนมาอยู่ที่สวนนั่นแหละ เผลอไม่นานก็หมดวัน เพลินไปกับทำโน่นทำนี่กับต้นไม้ทุกต้นในสวน..
มันเป็นความสุขลึกๆของคนทำงานพัฒนา ที่ไม่มีใครมองเห็น
นี่คือฝีมือ ลุงเปลี่ยน.. เมืองหงสา.. เพ็ญเขาฝากความระลึกถึง
Next : แกนนำ.. » »
4 ความคิดเห็น
พี่คะ…อ่านบันทึกแล้วยิ่งตอกย้ำความ”อยากในใจ”
หนักขึ้นและหนักขึ้นค่ะ
ตัวอย่างของความอยากด้วยปัญญา ขอบพระคุณอาเปลี่ยนและพี่บางทรายในหลายๆสิ่งที่ทั้ง 2 ท่านได้กระทำค่ะ แม้ไม่ได้เป็นผู้เกี่ยวข้องก็ขอชื่นชม ชื่นใจ ด้วยคนค่ะ
ขอบคุณข่าวสารที่แปลงเป็นพละกำลังกายใจได้อย่างล้นเหลือครับพี่
หว่านเมล็ดไปร้อยพัน งอกงามยืนต้นมาเป็นไม้ใหญ่ยั่งยืนเพียงหนึ่งต้นก็คุ้มค่าครับ
เพราะว่าต้นไม้ต้นนี้เขาจะออกแม่แพร่หลานขยายพันธุ์ไปได้อีก
ผมเชื่อเช่นนั้น
ขอบคุณนายเพ็ญครับ
ผมเพิ่งกลับมาจากมุกดาหาร ทั้งวันพาผู้นำชาวบ้านจาก ต.คำชะอีและ ต.นาอุดม ไปดูงานที่ ต.กกตูม พื้นที่โครงการ และไปเยี่ยมชมแปลงของนายเพ็ญด้วย ผู้มาดูงานชื่นชมใหญ่เลย ท่านรองนายกอบต.นาอุดมบอกว่า เพ็ญเป็นคนขยันมากๆ สังเกตได้จากต้นไม้ทุกต้นมีฟางคลุม และปลูกสารพัดชนิดจริงๆรวมทั้งสมุนไพร ก่อนขึ้นรถมีคนชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง ใครต่อใครเดาไม่ถูกว่าต้นอะไร จนนายเพ็ญบอกว่านี่คือ “ตะไคร้ต้น” พืชป่าที่เป็นสมุนไพรและเป็นอีกหลายอย่าง ท่านรองนายกสั่งทันที 10 ต้น ช่วยเพาะกล้าให้หน่อย ขายเท่าไหร่ก็จะซื้อ ใครอยากรู้ว่าตะไคร้ต้นคืออะไร ลองค้นดูที่นี่ซิครับ http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=289742 และที่ http://www.ryt9.com/s/fmo/883717
อีกอย่างดงหลวงมีเซียนผักหวานป่าหลายคน นายเพ็ญก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะเดินไปไหนมีแต่ผักหวานป่า เขาบอกว่าลงไปประมาณ 500 ต้น ทุกคนอ้าปาก นายเพ็ญทดลองปลูกทุกแบบ จากการเพาะเมล็ด จากการตอน จากการเอารากมาปลูก และท้านสุดปีนี้ใช้เมล็ดปลูกบนที่ดินไปเลยไม่ต้องเพาะ… และต้นผักหวานของนายเพ็ญอายุ 2 ปี สูงเท่าหัวผม ซึ่งตกใจมาก ของผู้ใหญ่วอง นายบุญยืน แม้พ่อแสนก็ไม่สูงเท่านี้ ….
ทุกคนที่ดูงานวันนี้ลงความเห็นเรื่องใจของนายเพ็ญว่าเด็ดเดี่ยวจริงๆ