งานเขียนห้วยขาแข้ง..
“จงใช้ชีวิตให้ตรงกับศักยภาพของคุณ” ผมพูดเอง ไม่ใช่คำพูดของใคร หรือใครจะพูดในทำนองนี้มาแล้วก็เป็นเรื่องปกติ
ผมดีใจที่งานเขียนเรื่องเล่าจากดงหลวงเป็นที่พึงพอใจของท่านเลขาธิการ ส.ป.ก. วันนี้ท่านโทรมาหา แล้วบอกว่า ท่านอ่านทุกเย็นช่วงทานอาหารแล้วก็หยิบมาอ่านวันละเรื่องสองเรื่อง จนท่านบอกกับเลขาหน้าห้องว่า อยากไปเยี่ยมดงหลวงซะแล้ว…
ได้จังหวะผมก็เลยเสนอโครงการในฝันของผม ที่วันก่อนท่านกล่าวว่า เราทำงานโครงการมาด้วยกันที่ ห้วยขาแข้ง ชื่อโครงการก็ย้าวยาว ชื่อ โครงการประสานความร่วมมือเพื่ออนุรักษ์และพัฒนากลุ่มป่าห้วยขาแข้ง (HKKC-ICDP) โครงการนี้ได้รับงบประมาณแบบให้เปล่าจาก DANCED หรือ Danish Cooperation for Environment and Development แต่ต้องมีการสมทบจากรัฐบาลไทย และจากองค์กรพัฒนาเอกชน สมัยนั้นผมสังกัด Save the Children (USA) ซึ่งเป็น International NGO ท่านเคยบอกว่าเสียดายโครงการนี้ที่ไม่มีใครทำการบันทึกเหมือน “เรื่องเล่าจากดงหลวง”
วันนี้ผมเลยแย๊บท่านทันทีว่า ท่านเลขาฯครับผมอยากกลับไปกินๆ นอนๆ ที่นั่นสัก 4, 5.. เดือน เพื่อฟื้นความทรงจำแล้วเขียนบันทึกออกมาในรูปเรื่องเล่า… ท่านได้ยินก็บอกว่า …พี่เอาจริงนะ.. เอาเลย แล้วท่านก็ต่อว่า เนี่ยะ เชิญให้มาเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษปีนี้ก็ไม่มาจะได้มอบหมายงานนี้ซะเลย.. แล้วท่านก็กล่าวต่อไปว่า เอางี้ ซิ..พี่ส่ง CV ให้ผม ผมจะตั้งพี่เป็นที่ปรึกษา แล้วพี่เข้าไปพื้นที่ก็สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้..
เอาแล้วซิ งานเข้าแล้วเรา…
ผมเรียนท่านว่าผมสนใจงานชิ้นนี้ เพราะกลุ่มป่าห้วยขาแข้งเป็นมรดกโลกซึ่งหลายคนไม่ทราบ และเป็นป่าผืนใหญ่ที่สุดของประเทศเรา เป็นต้นน้ำทางซีกตะวันตกของประเทศเรา อยากทราบว่างานของเราหลังสิ้นสุดโครงการแล้วเป็นอย่างไรบ้าง และสิ่งต่อเนื่องกันคือพื้นที่ส่วนเหนือของโครงการนั้นกำลังมีกรณีการสร้างเขื่อนแม่วงก์
ผมรับปากท่าน ว่าจะพิจารณา และปรับชีวิตให้เหมาะสมกับภารกิจนี้ แต่ขอเวลาหน่อย ในหลักการนั้นตกลงแล้ว
ผมตื่นเต้นต่องานนี้ เริ่มงานอย่างไม่เป็นทางการทันที คือ การลงไปห้องสมุดขอเบิกเอกสารของโครงการนี้มาทบทวนรายละเอียดกันหน่อย ได้มาสองเล่ม จริงๆมีมากมาย แต่วันนี้เอาแค่นี้ก่อนก็ได้
ผมตั้งใจว่าจะพัฒนาการเขียนขึ้นไปเป็นแบบมีเค้าโครง เพราะ เรื่องเล่าจากดงหลวงนั้น เป็นเรื่องเล่าสบายๆจริงๆ วันวันเห็นอะไรก็เขียนสิ่งนั้น พบประเด็นอะไรที่น่าสนใจก็หยิบมาขยายความ ใส่ทัศนะ มุมมองของตัวเองลงไป แต่ “งานเขียนห้วยขาแข้ง” มีเป้าหมายการเขียนเพราะต้องการติดตามผลงานของโครงการ จะเรียก Expose evaluation ก็ไม่ใช่ เป็นเรื่องเล่านั้นแหละ แต่มีประเด็นหลักของการเขียน..
คงค่อยๆพัฒนางานเขียนไป เพราะนี่เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นเท่านั้น
ติดตาม “งานเขียนห้วยขาแข้ง” นะครับ..
ไม่รู้จะเริ่มจริงเมื่อไหร่..
« « Prev : สำนึกที่ข้างเตียงผู้ป่วย..
ความคิดเห็นสำหรับ "งานเขียนห้วยขาแข้ง.."