เสียงกังสดาลเช้ามืดวันนั้น
เช้ามืดวันนั้น ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงคนเดินคุยกันบนถนน บังเอิญห้องนอนผมใกล้กับถนนที่จะไปสู่พระธาตุ อินแขวน สักพักเล็กๆก็มีเสียงรถใหญ่ดังลั่นพร้อมกับเสียงคนจอกแจกบนรถนั้น ผมแหวกม่านผ่านหน้าต่างกระจก มองไม่เห็นอะไรเพราะหมอกลงเต็มหมด
รีบจัดการตัวเองแล้วคว้ากล้องออกไปนอกถนนเพื่อสังเกตวิถีชีวิต ชาวเมียนมาร์ยามเช้าบนยอดดอยที่ติดกับพระธาตุอันศักดิสิทธิ์นี้ หลายคนชวนเดินไปที่ลานวัดเพื่อดูชาวบ้านที่มานอนและคอยดูพระอาทิตย์ขึ้นและอื่นๆ ผมว่าหมอกลงมากขนาดนี้ไปก็ไม่เห็นอะไร
พักใหญ่ๆ ก็ได้ยินเสียงกังสดาลและมีเสียงเด็กร้องดังลั่น เหมือนบอกอะไรสักอย่าง ไม่รู้เรื่องเพราะเป็นภาษาเมียนมาร์ มีเสียงใกล้เข้ามา เห็นเงาแถวพระที่ออกมาบิณฑบาต พ้นหมอกมา มีญาติโยมออกมาถวายดอกไม้ เงิน อาหาร
เสียงเด็กนั่นคือเณรน้อยที่เดินหน้าแถว ร้องลั่นแล้วก็ตีกังสดาล ผมมาทราบทีหลังว่า สิ่งที่เณรร้องนั้นคือตะโกนสุดเสียงบอกว่า “พระมาแล้ว” หากมองในแง่ทางโลกก็ว่าน่ารักจริงๆ มองทางธรรมก็เป็นการฝึกวิถีผู้ปฏิบัติธรรม ผมนึกถึงสมัยที่ผมบวช ยามเช้าออกบิณทบาตรนั้น พระเข้าแถวเดินทางพระอาจารย์นั้นยาวเหยียด ห่มจีวรสีกลักแบบนี้ และสำรวมสุดๆ สายตามองตรงไปข้างหน้าเท่านั้นเอียงลงมาเท่าแอกเทียมเกวียน มองจากภายนอกแล้วงดงามน่าเคารพศรัทธายิ่งนัก….
แต่ในเมืองไทยไม่มีเณรน้อยน่ารักมาเดินนำหน้าตีกังสดาลแบบนี้ครับ…
3 ความคิดเห็น
ในเมืองไทยนับวันจะยิ่งมีเณรน้อยออกมาบิณฑบาตรมากขี้นๆค่ะคุณบางทราย อันนี้ดิฉันสังเกตจากทุกปีที่ได้กลับบ้าน ตอนเช้าๆได้ตักบาตรกับแม่ค่ะ
มากขึ้นก็ดีสิครับ การได้บวชเรียนนั้นเป็นกระบวนการเรียนการสอนให้เป็นคนดีที่ดีที่สุดที่มีมาแต่โบราณ ครับ บ้านคุณ Putarn อยู่แถวไหนล่ะครับในเมืองไทย
คุณ Putarn ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ