CIA…
อย่าเพิ่งตกใจว่าผมกำลังจะเขียนถึงหน่วยงานสายลับของอเมริกานะครับ ไม่ใช่ครับ คืองี้… ผมทำงานในบริษัทที่ปรึกษาซึ่งเป็นธุรกิจประเภทหนึ่ง ธุรกิจส่วนใหญ่มีสินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ธุรกิจที่ผมเป็นลูกจ้างอยู่นี้เป็นธุรกิจขายความรู้ทางวิชาการ ที่เรียกปริษัทที่ปรึกษา ซึ่งมีหลายมุมมองของคนหลายกลุ่ม เช่น พี่น้อง NGO ส่วนใหญ่ก็จะมองว่าพวกนี้เป็นมือปืนรับจ้างทำเรื่องไม่ดีให้ดี กลุ่มที่มีกิจกรรมที่จะต้องทำประเมินผลกระทบก็ต้องว่าจ้างมืออาชีพที่มีชื่อเสียงมาทำการศึกษา
ผมคิดว่าเป็นความก้าวหน้าทางการพัฒนาบ้านเมือง ที่มีกฎหมายออกมาบังคับให้มีการศึกษาผลกระทบด้านต่างๆมากมาย และมีกิจการมากมายที่ไม่ผ่าน หมายความว่าจะต้องปรับปรุงบางส่วนของกิจการเพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจึงจะดำเนินการต่อไปได้
ที่ผ่านมานั้นก็มักจะได้ยินว่ามีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่เรียก EIA หรือ Environmental Impact Assessment และมีการศึกษาผลกระทบอื่นๆอีกเช่น IEE, HIA, SIA ฯ ซึ่งล้วนมีกฎหมายบังคับ และมีขั้นตอน มีกระบวนการ มีส่วนร่วมมากมาย ซึ่งใช้งบประมาณค่อนข้างมากในการดำเนินงานศึกษา วิเคราะห์ข้อมูล ใช้ผู้เชี่ยวชาญหลายด้านประกอบเป็นทีมงาน
ผมนั้นมีส่วนร่วมในกระบวนการประเมินผลชนิดต่างๆเหล่านี้ตามความถนัดและชำนาญที่มีอยู่ ล้วนเกี่ยวข้องกับชาวบ้าน เกี่ยวกับสนาม และข้อเท็จจริงในส่วนที่เป็นชาวบ้านหรือผู้มีส่วนได้เสีย
สิ่งที่ดีอีกประการหนึ่งของการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมคือ หากว่ามีประเด็นใดๆที่เสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบ จะต้องมีการกำหนดมาตรการต่างๆในการแก้ไข ปรับปรุง ดำเนินการต่างๆออกมา และเจ้าของธุรกิจนั้นๆก็จะต้อนำไปปฏิบัติ มิเช่นนั้นกิจการก็อาจถูกปิดลงตามกฎหมายที่ควบคุมได้
ผมพบว่าส่วนใหญ่ดูเรื่องเศรษฐกิจ และกายภาพต่างๆ สุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ตรวจวัดได้ สิ่งที่หายไปนั้นก็คือ ส่วนทื่จับต้องไม่ได้ก็คือผลกระทบด้านวัฒนธรรม จริงๆมีอยู่ครับแต่เป็นประเด็นย่อยในด้านสังคม ใน EIA มิได้หยิบมาให้เป็นประเด็นใหญ่ แต่ผมเห็นว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ มิใช่เรื่องเพียงผิวเผินเท่านั้นเอง
ผมยกตัวอย่าง สังคมเราตั้งแต่โบราณมานั้น วัฒนธรรมสังคมของเรานั้นมีความเรียบร้อย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ใครไม่มี คนมีก็แบ่งปันกัน ใครขาดอะไรก็ขอกันได้ เพียงเอ่ยปากบอกกล่าว มิได้ใช้เงินตรามาซื้อหากัน ฯลฯ แต่เมื่อสังคมพัฒนาไปสู่ความทันสมัย ซิวิไลซ์ ก้าวหน้า แล้วแต่จะสรรหาคำพูดมาอธิบาย คุณค่าทางวัฒนธรรมเดิมของเราก็จางหายไป อย่างที่เราๆ ท่านๆซึ้งอยู่แก่ใจ และเรียกร้องให้กลับคืนมา มีการจัดงานโน่นนี่เพื่อประกาศคืนสู่คุณค่าแบบดั้งเดิมแต่ก็เป็นแค่พิธีกรรมเท่านั้น
การก่อสร้างสรรพสินค้า สมควรมีการศึกษาผลกระทบด้านวัฒนธรรม การเข้ามาของ เทคโนโลยี่ใหม่ๆ ควรศึกษาผลกระทบด้านวัฒนธรรม ฯลฯ มิใช่ศึกษาเพื่อเอาไม่เอาเทคโนโลยี่นั้นๆ เทคโนโลยีมีผลสองด้าน ด้านดีเรารับ แต่ด้านส่งผลเสียก็น่าที่จะพิจารณามีมาตรการป้องกัน แก้ไข หรืออย่างใดอย่างหนึ่งมิให้ใช้เทคโนโลยี่นั้นๆอย่างอิสระ และปล่อยให้ส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของเรา
สมควรหยิบเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ หรือเป็นวาระแห่งชาติอะไรก็ว่าไป ทีน้ำเสียส่งกลิ่นนิดเดียวโอยมีมาตรการมากมายไปบังคับให้เจ้าของกิจการแก้ไข ปรับปรุง แต่กรณีเด็กนัดเรียนหนีโรงเรียนไปนั่งเล่นเกมที่ห้างสรรพสินค้าเป็นวันๆ ไม่มีมาตรการใดๆ ร้านเกมปล่อยให้เด็กวัยรุ่นเปิดดูภาพลามก…ฯลฯ
การพัฒนาเมืองไปสู่ความทันสมัยไปสร้างค่านิยมว่าคนเราต้องมุ่งหาเงินเพื่อไปซื้อสิ่งที่ใจต้องการ แต่มากเกินขอบเขตปัจจัยการดำรงชีวิตแบบพอเพียง ผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่นกรณีตัวอย่างที่ผมประสบมาคือ ที่เมืองหนึ่ง เป็นสังคมพุทธ เป็นสังคมค่อนข้างชนบทกำลังเร่งพัฒนา เป็นสังคมที่ดีงาม เย็นวันหนึ่งผมเดินไปชมบ้านเมือง พร้อมกล้องถ่ายรูปที่นิสัยผมชอบถ่ายรูปวิถีชีวิต ขณะที่ผมเดินผ่านห้องแถว มีสาวกลางคนอุ้มลูกน้อยเดินรี่มาหาผมแล้วถามตรงๆดังชัดเจนว่า “เอาผู้สาวบ่” ผมตะลึงที่ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้ออมาจากปากสตรีในเมืองเช่นนี้ ในเวลาเย็นๆที่อากาศกำลังดีเช่นนี้…
เราเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ กายภาพ ความทันสมัย การเติบโต ฯลฯ แต่คุณค่าทางสังคมเดิมๆของเราก็กลายเป็นสินค้าไปด้วย เพียงเพื่อเงิน เพราะเงินคือสื่อกลางที่จะนำมาในสิ่งที่ใจต้องการ ใจที่ต้องการนั้นมาจากการกระตุ้นของระบบค่าทางสังคมที่มีธุรกิจเป็นตัวสร้างค่านี้ขึ้นมา และจากปัจจัยอื่นๆที่ระบบสังคมเราไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบ
ผมคิดว่าทุนนิยมไม่ได้เลวร้ายไปหมด ผมก็ไม่ได้คิดว่า วัฒนธรรมเดิมของสังคมเราจะดีไปหมดทุกเรื่อง แต่ควรมีการศึกษา กลั่นกรอง ปรับแก้ มีมาตรการที่เลือกสรรสิ่งที่เป็นประโยชน์สังคมเท่านั้น การปล่อยฟรี อิสระ ในระบบประชาธิปไตยเสรีนั้น คือเหยื่อของระบบธุรกิจสามานย์ ทั้งแบบจงใจและไม่รู้ตัว..
นี่คือความหมายหยาบๆที่เสนอให้มีการทำการศึกษาผลกระทบด้านวัฒนธรรมและคุณค่าทางสังคมหรือ Cultural Impact Assessment หรือ CIA นี่แหละครับ..
2 ความคิดเห็น
ชอบมาก กด like ให้พันครั้งเลยค่ะ
ขอบคุณครับคุณ sakura