น้ำท่วม (๒๓)
ในช่วงที่เข้าไปเยี่ยมศูนย์อพยพนั้น ฝนตั้งเค้ามาหนาตาแต่ไกล ความตั้งใจที่จะเข้าไปลึกถึงคลองแห้งก็เริ่มจางลง แม้เขาพนมเบญจาที่ยืนเด่นอยู่ไกลๆตรงหน้าจะบอกว่าเข้าไปได้ไม่เป็นไร
เห็นท้องฟ้าและเมฆที่นี่แล้วรู้สึกแปลก เมฆหนาตัวอยู่ให้เห็นลิบๆ หลังฝนตกอากาศก็อ้าวมากทีเดียว วงจรของความกดอากาศ ความชื้น ความร้อน ที่นี่ทำงานวนเวียนอย่างนี้ทุกวัน ฝนตก แดดออก ชื้น ร้อน อ้าว ไร้ลม
น่าสนใจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ ทั้งๆที่ยังมีต้นไม้ในพื้นราบอีกมากมาย
ถนนเส้นนี้วิ่งตรงไปยังศูนย์อพยพฯซึ่งชาวบ้านสร้างขึ้นเผื่อว่า ครบปีถ้ายังไม่มีที่อยู่ถาวรก็ยังพอใช้อยู่แทนบ้านน็อคดาวน์ได้
เส้นทางที่น้องมนวิ่งรถพาไปนั้น อยู่อีกซีกของเขาพนมเบญจา เมื่อรถตรงดิ่งเข้าไปเรื่อยๆ หมู่บ้านอพยพก็ปรากฏแก่ตา ได้ข้อมูลว่า วันที่ ๖-๗ มิถุนายน ชาวบ้านจะรวมตัวกันจัดงานรำลึกวันเกิดเหตุ ในวันดังกล่าวนั้นจะมีผู้อาวุโสที่สังคม ให้ความเชื่อถือมาร่วมงานด้วย อย่างเช่น อาจารย์หมอประเวศ วะสี และอีกหลายคนที่ทำงานในแวดวงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ
ฟังคำบอกเล่าแล้วมีเอ๊ะกับความคิดของคน การไปคลุกคลีกับคนใน ๓ จังหวัดใต้มาบ่อยๆทำให้เห็นความเหมือนกันคือ ความเฉียดตายที่พบมาทำให้ลืมอดีตไม่ลง
เห็นความต่างว่าคนมุสลิมปฏิเสธวัฒนธรรมฝรั่ง เขาไม่สนเรื่องการจัดงานรำลึก ไม่ให้ความสำคัญ มีแต่คนพุทธที่ให้ความสำคัญ และเดินตามวัฒนธรรมฝรั่ง
พื้นดินที่ใช้สร้างศูนย์ฯชั่วคราวเพื่อใช้สอยต่อไป ของหมู่บ้านแห่งนี้ เป็นที่ดินเช่าของกรมป่าไม้
ศาลาที่เห็นจะมีพิธีเปิดใช้ในวันที่จัดงานรำลึก ต่อไปถ้าจะมาปลูกต้นไม้ให้ชาวบ้านที่นี่ ใครจะมาด้วยบ้างนะ
๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔
ความคิดเห็นสำหรับ "น้ำท่วม (๒๓)"