วันของลูก
อ่าน: 1457วันนี้เป็นวันหนึ่งที่ชีวิตได้บันทึกวิถีของความเป็นครั้งแรกให้อีกครั้ง ก็ได้ประสบการณ์ว่าอะไรๆที่เป็นครั้งแรกของคน ถ้าได้ปลดเงื่อนไขที่มักสร้างขึ้นเพราะความยึดมั่น ถือมั่นให้หมด วางใจไว้บนมือต่างๆด้วยความเชื่อใจกับทุกๆมือที่ลงมือทำสิ่งต่างๆให้ ว่าอยู่บนฐานแห่งความดีงามของใจผู้นั้น สิ่งที่ได้รับมอบมาก็สร้างความสุขใจให้เป็นอย่างยิ่ง ดีใจกับครั้งแรกที่ความดีงามในใจของผู้คนได้มาเติมพลังให้ใจอิ่มเต็มอีกหน
ในระหว่างเตรียมการเรื่องของการงาน การเตรียมการเรื่องบวชของลูกชายก็ลงเอยว่า อะไรๆหลายอย่างที่เป็นเรื่องของพิธีกรรม เครือญาติและผู้ใหญ่ของสามีรับไปจัดการให้ กำหนดตารางเวลาและขั้นตอนของงานลูกชายและสามีจะทำหน้าที่ร่วมกัน ฉันกับลูกสาวเพียงแต่วางสติตัวเองให้นิ่งแล้วจัดการกับงานที่เกี่ยวข้องที่ประดังเข้ามาให้รับหน้ารับมือให้สามารถยุติภายใน ๒๙ เมษายน ให้สำเร็จก็พอ ซึ่งเราก็ทำได้สำเร็จลงด้วยดี….ไชโย
ครั้งนี้เป็นความตั้งใจแสดงกตัญญูที่ลูกชายดำริห์ขึ้นตามความปรารถนาส่วนตัว ฉันเห็นเป็นโอกาสดีจึงรวบยอดให้เป็นการแสดงกตัญญูต่อผู้มีพระคุณของเขาไปด้วยเลย
แขกที่ได้รับการบอกข่าวการบวชของเขาโดยฉันและสามีจึงเป็นเครือญาติสายตรงของเรา พยาบาลและหมอรุ่นพี่ รุ่นน้องที่มีโอกาสได้ช่วยเลี้ยงดูกล่อมเกลาลูกชายให้ในระหว่างที่แม่ของเขาติดอยู่กับภาระงานเมื่อเขายังเป็นเด็กเล็กเป็นผู้คนอีกกลุ่มที่ได้รับการบอกบุญการบวชนี้ แขกส่วนหนึ่งเป็นเพื่อนของลูกชายและลูกสาวที่เขาทั้งสองให้ความสำคัญ
ครอบครัวเราตกลงใจตามรอยคนรุ่นพ่อแม่ผสมผสานวิถีของคนสมัยใหม่ บอกบุญด้วยวาจาแทนบัตรเชิญ เจอตัวก็บอกกันสดๆ ไม่เจอตัวก็หมุนโทรศัพท์ไปหาตามแต่จะคว้าเบอร์ใครมาได้ก่อน ไม่เจอตัวก็ส่งเสียงบอกกันทางโทรศัพท์ ติดต่อไม่ทันก็ฝากบอกต่อ ใครอยู่ไกลก็ตัดสินใจไว้เพียงแค่หาวิธีบอกกล่าวเพื่ออนุโมทนาบุญเพื่อขอคำอโหสิกรรมให้ลูกชาย แขกต่างจังหวัดและลุงป้าน้าอาในลานแค่ได้บอกข่าวบุญเพื่ออนุโมทนาเราก็อิ่มใจแล้ว
เช้านี้คนทั้งบ้านตื่นกันมาตั้งแต่ตีห้า เพื่อเตรียมตัว ถึงเวลา ๖ โมงก็ยกขบวนกันพาว่าที่นาคใหม่ไปหาอะไรรองท้อง แล้วจึงพาตัวไปส่งที่วัด โอ้เอ้กับการกินอยู่นานมั๊ง ไปถึงวัด ปรากฏว่าญาติผู้ใหญ่พากันมารออยู่เต็มพรึด ลงจากรถว่าที่นาคก็ถูกจับตัวถือพานพานั่งมอร์เตอร์ไซด์ไปทำความเคารพเจ้าอาวาสและไหว้พระ
เสร็จแล้วก็กลับมาประจำที่นั่งให้สามีและฉันประเดิมตัดผมให้เป็นคู่แรก ตามด้วยย่าน้อยและลุงป้าน้าอาทั้งหลาย
ระหว่างผู้ใหญ่เข้าคิวกันขลิบปอยผมให้ลูกชาย ลูกสาวก็ทำหน้าที่เก็บภาพแห่งความทรงจำไว้ทีละช๊อต หนึ่งชั่วโมงเศษผ่านไป แขกที่ทะยอยมาร่วมอนุโมทนาบุญไม่ขาดสายจึงวายลง จากนั้นลูกชายก็โดนโกนหัวจนเกลี้ยง แล้วไปอาบน้ำล้างหัว ล้างตัว พี่ๆลุงๆหลายคนพากันมาช่วยแต่งตัวด้วยเสื้อผ้านาค แต่งตัวเสร็จก็เป็นขั้นตอนนาคกราบลาขอขมาพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ ได้ถ่ายภาพร่วมกันไว้เป็นที่ระลึกก่อนเริ่มขบวนแห่
เมื่อเสียงกลองยาวดังขึ้นเวลาของการแห่นาคก็เริ่มขึ้น ต้นขบวนข้างหน้าเป็นขบวนกลองยาว ขบวนกำหนดให้ฉันถือพานผ้าไตรเดินตามขบวนกลองยาว นำหน้านาค แล้วจึงเป็นขบวนผู้ช่วยถือเครื่องบริขาร งานนี้คนที่อยากเห็นว่าที่ลูกสะใภ้ไม่มีโอกาสเห็น เพราะในเครื่องบริขารที่เตรียมนั้นไม่มีหมอน ถ้าจะถามเหตุผลเรื่องไม่มีหมอน คนเดียวที่ตอบได้คือย่าน้อยของลูกชายเท่านั้น แต่เชื่อว่าไม่ได้หวงหลานชายหรอก เป็นประเพณีของที่นี่มากกว่าที่ไม่ต้องเตรียมหมอนในขบวนเครื่องบริขาร
ขบวนแห่ไปถึงรั้วโบสถ์ ขบวนก็ตั้งใหม่หลังผ่านเข้าไปบริเวณโบสถ์แล้ว นาคถูกแบกขึ้นบ่า แล้วขบวนก็เริ่มต้นเวียนโบสถ์ เดินเวียนกันตามเข็มนาฬิกาอยู่ ๓ รอบ จึงปล่อยตัวนาคลงทำพิธีปฏิญาณตนหน้าพระธรรมจักรซึ่งอยู่หน้าโบสถ์ กรวดน้ำแผ่เมตตาขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวรประกาศตัวว่าจะบวช แล้วโปรยกัลปพฤกษ์จนหมดขัน หลังจากนั้นนาคก็ถูกอุ้มเข้าในตัวโบสถ์
พิธีสงฆ์ดำเนินไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับมีแขกมาสมทบร่วมพิธีด้วยอีกหลายคน ญาติส่วนหนึ่งที่นั่งพื้นไม่ไหว ชวนกันไปนั่งรอที่ศาลาธรรมที่ใช้โกนหัวนาค
เมื่อนาคครองผ้าเป็นเณรแล้วเป็นพระเต็มตัว ก็มีการตักบาตรด้วยกันในโบสถ์ กรวดน้ำกันอีกครั้ง พิธีการสงฆ์จึงจบลง แล้วการถ่ายภาพประสบการณ์ครั้งแรกของครอบครัวเก็บไว้เป็นความทรงจำก็เริ่มขึ้นใหม่ แขกที่มาอยู่ร่วมในโบสถ์ถ่ายภาพร่วมกับพระด้วย
เสร็จพิธีกรรมเวลา ๑๑ โมง คณะสงฆ์ได้รับนิมนต์ให้ไปฉันเพลในศาลาธรรม นิมนต์พระลูกชายตามไปด้วย ญาติส่วนหนึ่งที่รออยู่ในศาลาธรรม ได้ถ่ายภาพร่วมกับพระลูกชายเมื่อพระสงฆ์ให้พรแล้ว
นิมนต์พระอุปัชฌาและพระที่นับถือกลับวัด แล้วนิมนต์พระลูกชายและพระพี่เลี้ยงเดินทางกลับเข้าเมือง พระลูกชายไม่ได้จำวัดที่วัดแห่งนี้ ครอบครัวเราเลือกวัดนี้เป็นที่บวชเพราะผู้มีพระคุณของลูกชายส่วนใหญ่อยู่ใกล้วัดนี้ และเป็นวัดที่ครอบครัวของเรานำร่างของพ่อฉันมาทำพิธีเผาหลังท่านเสียชีวิต
วัดที่ลูกชายจะจำวัดในระหว่างบวชอยู่ในเมือง ไม่ไกลจากโรงแรม ๓๗๐ วันนี้สามีนิมนต์พระสงฆ์จาก ๕ วัดมาร่วมพิธีบวชพระลูกชาย พระในคณะสงฆ์ทั้งหมดมี ๑๑ องค์รวมพระอุปัชฌา
ดีใจมากที่พระลูกชายได้ทำหน้าที่ของพุทธบริษัท ปาวารณาตัวเข้าสู่ร่มธรรมเพื่อศึกษาเรียนรู้โดยความสมัครใจของตัวเอง ตั้งใจบวชเอง
โอกาสที่ได้แสดงกตัญญุตาต่อผู้มีพระคุณทั้งหลายของพระลูกชายในวันนี้ จึงเป็นมงคลแห่งชีวิตที่ทุกคนในครอบครัวของเราได้รับ
ขอบุญต่างๆที่เกิดขึ้นจากการตั้งใจเข้าเรียนรู้เพื่อการเข้าถึงพระธรรมในครั้งนี้ของเขาเป็นกุศลที่แผ่ถึงทุกๆท่านด้วยเทอญ
ขอบคุณน้ำใจของทุกๆท่าน มือทุกๆมือ ที่ช่วยฉันฟูมฟักลูกชายจนเขามีวันนี้
ขอบคุณทุกๆมือ ทุกๆความคิดที่ช่วยวางแผนและจัดการงานบวชของพระลูกชายให้พ้นผ่านไปอย่างราบรื่นด้วยดี
ขอบคุณสมาชิกในครอบครัวทุกคนที่ทำให้วันนี้เป็นวันแห่งความสุขในชีวิตที่อิ่มเต็มอีกวันหนึ่ง
ดีใจและสุขใจกับโอกาสดีๆในชีวิตของพระลูกชาย
ขอบคุณโอกาสของชีวิตที่ทำให้มีวันนี้ค่ะ
« « Prev : วันของแม่
4 ความคิดเห็น
อนุโมทนา สาธุ
อ่านบันทึกนี้ด้วยความปีติ ค่ะ
สาธุ อนุโมทนาค่ะพี่สาวตา
อนุโมทนาด้วยครับ เสียดายที่ตกข่าวไม่ได้ร่วมงานบุญ แต่ตอนบวชน้องเนติ์ก็ไม่ได้พิมพ์บัตรไม่ได้บอกใคร โกนหัวเข้าวัดทีเดียวเลยครับ
#1 น้องอึ่งที่รัก อารมณ์ที่เกิดเมื่อรับรู้ความเป็นครั้งแรกในครั้งนี้ ทำให้เข้าใจความรู้สึกของคนเป็น “แม่” มากขึ้น ชัดขึ้นเลยแหละ อนุโมทนาค่ะ
#2 น้องสร้อยจ๋า การบวชคราวนี้ของลูกชายได้บทเรียนสะท้อนมาสอนหลายอย่างเหมือนกันละน้องเอ๋ย อนุโมทนาค่ะ
#3 น้องฑูรย์ค่ะ ใช่แต่คนอยู่ไกลตกข่าวนะคะ คนอยู่ใกล้หลายคนก็ตกข่าว พระบวชใหม่มีเรื่องมากมายให้เรียนรู้และฝึกตนในการก้าวข้ามให้ได้เนอะค่ะ อนุโมทนาค่ะ