เปลี่ยนประเทศไทยด้วยธรรมะ
อ่าน: 1033ไปดูงานอินเดียซะหลายวัน สัดส่วนประชากรอินเดีย นับถือพุทธน้อยมากๆ ท่านทูตพลเดช วรฉัตร ให้ข้อมูลว่า เมื่อท่านไปอยู่อินเดีย ท่านได้พยายามฟื้นฟูพื้นที่ของพุทธศาสนิกชนขึ้นมาใหม่ โดยการสร้างวัดพุทธคยา แม้จะไม่ง่ายแต่ก็โชคดีที่มีคนไทยช่วยสนับสนุนให้ดำเนินการไปได้
ถามคนอินเดียที่ฉันได้เจอ ปรากฏว่าเขาก็ไม่มีความรู้เรื่องพุทธศาสนา เรียกว่าไม่สนใจเลยก็ว่าได้
คำตอบที่เขาบอกมามีว่า วิธีคิดของคน ความเชื่อของคน ความเป็นสังคม กับ การนับถือศาสนาเป็นคนละเรื่องกัน
เขาเห็นว่าศาสนาเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนมีจิตใจเป็นมนุษย์ มิใช่หลักในการดำรงชีวิต ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเขามองว่ามันเป็นแค่อัตลักษณ์หนึ่งเท่านั้น
ไปแล้วก็มีข้อกังขาว่าอะไรทำให้พุทธศาสนาในอินเดียถูกกลืนหายไป กลับมาแล้วก็เลยถือโอกาส นำสิ่งที่ท่านว.วชิรเมธีเคยคุยกับคนรุ่นใหม่ไว้มาทบทวน ใครไม่เคยได้ยินได้ฟัง ชวนฟังไปด้วยกันค่ะ
คุณภาพของประชาชนขึ้นกับคุณภาพของปัญญา แล้วคุณจะเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวคุณได้บ้าง
ก้าวข้ามรูปลักษณ์ภายนอกจ่อไปที่เนื้อหาสาระจะได้ไหม - คนอยู่ข้างเวทีเห็นชัดกว่าคนถูกชก
สวดมนต์แล้วได้ปัญญา-พระพุทธเจ้าอยู่ในใจ
วัฒนธรรมไทย เป็นวัฒนธรรมความเชื่อ มากกว่าวัฒนธรรมความรู้ - ไม่เชื่อต้องศึกษา ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้
ฟังแล้วก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่า ทำไมพื้นที่ของศาสนาพุทธในอินเดียจึงถูกกลืนหายไปอยู่ดี
๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๓
« « Prev : 2563 เปลี่ยนประเทศไทย
5 ความคิดเห็น
อยากเห็นรูปจังค่ะ ท่านพลเดช วรฉัตร คุยกันบ่อยบน g2k เมื่อซัก 2 ปีที่แล้วมังคะ รู้งี๊ฝากความคิดถึงไปก่อนก็ดีล่ะ อิอิ
เท่าที่ผมทราบนั้น(ไม่แน่ใจว่าจำมาจากไหน อาจจะมาจาก พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต))
สมัยหนึ่งพระพุทธศาสนาในอินเดียเจริญมาก มากจนคนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา และดินแดนอินเดียในสมัยนั้นกว้างกว่าสมัยนี้นัก
เมื่อศาสนาพุทธเจริญมาก ศาสนาพราหมณ์สู้ไม่ได้ จึงคิดหาวิธีที่จะกำจัดพระพุทธศาสนา ทำมาหลายวิธีก็ไม่สำเร็จ เพราะจุดแข็งของพระพุทธศาสนาคือ ไม่แบ่งชั้นวรรณะ ไม่มีการกดขี่ระหว่างชนชั้น ไม่บูชายัญ มีวัด มีพระสงฆ์ อะไรประมาณนี้แหละครับ
แต่สุดท้ายศาสนาพราหมณ์ก็ทำสำเร็จ โดยวิธีการให้พระพุทธเจ้าเป็นปางหนึ่งของพระเจ้า(จำไม่ได้ว่าองค์ไหนแล้วครับ)และปรับปรุงศาสนสถานให้มีผู้นำศาสนา ยกเลิกการบูชายัญ ฯลฯ
ข้อมูลที่เล่ามานั้นมาจากความจำที่เลือนๆ นะครับ แต่ก็คงประมาณนี้แหละครับ ถ้าหาหลักฐานยืนยันได้แล้วค่อยมาบอกนะครับ
แต่ก็เป็นอะไรที่เตือนใจเหล่าชาวพุทธอย่างเรานะครับ ว่าอย่าประมาท ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้นประเสริฐนัก ช่วยกันศึกษาบ้าง ไม่ใช่ฟังผิวๆ แล้วเอามาประสมกับกิเลสตนเอง แล้วก็ทำผิดพลาด พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา ไม่ใช่อาศัยศรัทธาอย่างเดียว ถึงจะศรัทธาหรืออาศัยสิ่งอื่น สุดท้ายก็ต้องจบลงที่ปัญญา และกว่าจะได้มาซึ่งปัญญาก็ต้องศึกษา ที่เรียกว่าไตรสิกขา อันมี อธิสีลสิกขา อธิปัญญาสิกขา และอธิจิตสิกขา หรือเรียกอีกชื่อว่า มรรคมีองค์แปด ครับ
ต่อนะครับ
ทีนี้เมื่อศาสนาพุทธเราเน้นเรื่องปัญญา เมื่อเราไม่ศึกษา(ไม่ว่าด้วยวิธีใด แต่สำคัญและขาดไม่ได้ก็คือการปฏิบัติ) ก็ไม่รู้จะได้ปัญญามาจากไหน เมื่อไม่มีปัญญาเราก็ไม่สามารถรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้ ซึ่งตอนนี้ก็ร่อแร่แล้วครับ ไม่นานก็คงตามอินเดียไป และเป็นไปได้ว่าอาจงอกงามในดินแดนตะวันตก
อ้อ เพิ่งนึกออก อีกเหตุผลหนึ่งที่พระพุทธศาสนาถูกทำลายไปได้ง่ายก็คือ เกิดการเหินห่างระหว่างพระสงฆ์กับฆราวาส พระก็อยู่ส่วนพระ เองแต่คร่ำเคร่งร่ำเรียนตำรา ทิ้งให่ฆราวาสอยู่กันตามลำพัง(ซึ่งไม่รู้ว่าใครทิ่งใครกันแน่)ยกตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยนาลันทา เมื่อข้าศึกมาฆ่าพระ ละมหาวิทยาลัย พระไตรปิฏกและตำรับตำราถูกเผาหมด ทุกอย่างก็หมดเกลี้ยง เพราะชาวบ้านไม่สนใจ พระตาย ตำราถูกเผา
ก็ไม่รู้ว่าประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาเราจะกำลังดำเนินตามอินเดียอยู่หรือเปล่านะครับ
ส่วนหนังสือที่แนะนำให้อ่านอย่างยิ่งคือ พุทธศาสนาไทยในอนาคต แนวโน้มและทางออกจากวิกฤต โดย พระไพศาลวิสาโล อยากให้รีบซื้อมาเก็บไว้นะครับ เพราะจำนวนพิมพ์จำกัดมาก
ขอบคุณครับ
หาหลักฐานเจอแล้วครับ เพราะเพิ่งได้ฟังเหมือนกัน(แต่ที่เล่าข้างบนนั้นมาจากแหล่งอื่น) อิอิ
http://www.watnyanaves.net/th/album_detail/wandering-dhamma
ถ้ารีบก็โหลดเฉพาะข้อ 3.ความยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งเจริญและเสื่อม มาฟังก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ
#1 น้องครูปูที่รัก แล้วพี่จะหาภาพท่านมาให้ดู ภาพที่ถ่ายไว้ทั้งหมดอยู่กับเพื่อนค่ะ
#2 คุณหนูติ่งค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยทำการบ้าน พี่ไปเจอที่มหาวิทยาลัยมหิดลเขาสังเคราะห์ไว้ ยกมาไว้ตรงนี้ซะเลยดีกว่า
http://www.crs.mahidol.ac.th/thai/mahayana29.htm