เรียนวิธี…สอนงาน
อ่าน: 1385ได้เล่าไปว่าเมื่อวานถือว่าไปเข้าโรงเรียนและได้เรียนโจทย์อะไร นอกจากเรียนบทของการทำงานเป็นครูแบบนอกระบบแล้ว มีโจทย์อีกโจทย์ที่ตั้งไว้เป็นบทเรียนเช่นกัน
โจทย์นี้เป็นโจทย์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแบบยัดเยียด แล้วในที่สุดก็กลายเป็นการเรียนรู้แล้วนำมาทำแบบครูพักลักจำ ได้ดีบ้าง ไม่ได้ดีบ้างตามประสา
เมื่อวานนี้ เจ้านายเรียกไปทำงานอะไรยังไม่ได้เล่่า ก็ขอเล่าคร่าวๆให้ฟังสักหน่อยจะได้รู้ทันๆกัน เพื่อไม่ให้โดนกล่าวหาว่า พูดอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้เรื่อง ก็แล้วกัน
เจ้านายเรียกไปคุยกันเรื่องการพัฒนาร.พ.ในทิศทางที่จะมีการตรวจประเมินคุณภาพโดยสรพ. ค่ะ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยการคุยกันเกี่ยวกับระบบฉุกเฉินของร.พ. ว่ามีอะไรที่เห็นเป็นจุดอ่อนกันอยู่บ้าง ขอให้ทุกคนในบอร์ดบอกข้อมูลที่เห็นออกมาหน่อย จะได้ช่วยกันตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อเพื่อพัฒนา คุยกันไป แลกเปลี่ยนกันไป แล้วประเมินด้วย คุณภาพที่ประเมินกันนั้นเป็นเรื่องการวัดระบบที่มีอยู่ ได้ตัวระบบแล้วก็มองเชื่อมโยงไปสู่ผลที่เกิดขึ้น ว่ามีจุดอ่อนอะไรหรือไม่ ให้ว่ามา
จุดอ่อนที่ใช้มองกันนั้นหนีไม่พ้น คนที่มารับบริการปลอดภัยหรือเปล่า พอใจหรือเปล่า สบายใจหรือเปล่า มั่นใจกับความปลอดภัยหรือเปล่า
หน่วยงานที่ยกมาใช้เป็นตัวอย่างมองระบบ ก็เป็นหน่วยบริการฉุกเฉินของร.พ. คุยกันไป แลกเปลี่ยนกันไป หวยก็ออก
หวยมาออกที่จุดอ่อนของการทำงานของบรรดาแพทย์ ที่มีชื่อเรียกตามศัพท์คุณภาพว่า “องค์กรแพทย์”
ได้ข้อมูลของจุดอ่อนระบบที่เป็นบทบาทของแพทย์ออกมามากมายจากการถอดบทเรียนที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
ในทีแรกเรื่องราวของจุดอ่อน ดึงไม่ออก เพราะว่าบรรดาบอร์ดที่มาร่วมนั้นไม่กล้าออกความเห็น อึกๆอักๆกันอยู่เป็นนานเชียว ฉันจึงตัดสินใจเริ่มต้นจากเรื่องราวภายใต้บทบาทที่ฉันเคยได้กระทำมาก่อนในอดีต แกะรอยเป็นตัวอย่างว่ามีเหตุการณ์อะไรที่เป็นทำให้ฉันมาดูคนไข้ช้า
เมื่อได้เหตุการณ์จริงที่เป็นตัวอย่างความช้า ก็มีการเจาะลึกลงไปต่อช้าด้วยเหตุอะไร ก็มีการมองย้อนรอยไปหาระบบรองรับว่าการช้าที่ไม่ควรยอมรับนั้นได้มีการลงมือแก้ไปหรือยัง มีอะไรบ้างที่แก้ไปแล้วยังคงอยู่และอยู่ที่ไหน
ส่วนที่แก้แล้วและยังมีความช้าคงอยู่ที่ไหน ก็มีข้อเสนอให้นำระบบที่มีแพทย์บางแผนกทำเป็นตัวอย่างไปขยายใช้
โดยส่งมอบการตัดสินใจการนำไปขยายให้รองฯด้านการแพทย์ และรองฯด้านการพยาบาล มีการถามความเห็นเรื่องความเป็นไปได้ของการทำ ก่อนทำความตกลงร่วมว่า “งั้นทำ”
การคุยกันนั้นได้แลกเปลี่ยนเรื่องการตัดสินใจ เป็นการตัดสินใจที่ไม่นำทฤษฎีมาสอนกัน ไม่มีแม้แต่การอ้างอิงถึง ใครที่พูดต่อในเชิงต่อยอด ไม่ได้อยู่กับเรื่องราวของการแลกเปลี่ยนการตัดสินใจ เจ้านายจะพูดทวนซ้ำเพื่อสื่อสาร จนกระทั่งทุกคนเข้าใจตรงกัน จึงมีการตัดสินใจสุดท้ายเกิดขึ้น
ในรอบนี้ของการทำงานร่วมกัน ได้เห็นว่า ทุกๆอย่างที่ต้องใช้ในการบริหาร ผุดโผล่ออกมาให้เห็นระหว่างการคุย
มีตัวอย่างเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้เป็นพี่กับคนเป็นน้อง ที่ฝ่ายน้องไม่กล้าคุยกับพี่ ด้วยความรู้สึกว่าพี่เป็นโจรเมื่อขอคำปรึกษา
หลายๆคนในบอร์ดไม่กล้าเอ่ยชื่อพี่ ทั้งๆที่รู้ดีว่าเป็นผู้ใด ด้วยคนเหล่านี้มีคำตัดสินซ่อนอยู่ในหลืบซอกของหัวใจที่เป็นความรู้สึกเช่นเดียวกับน้อง เจ้านายนั้นพูดจนเหนื่อยทีเดียวว่าที่ถามถึงเป็นด้วยหวังผลจะพัฒนาคุณภาพของระบบ ไม่ได้กำลังเจาะหาความผิดของแพทย์เหล่านั้น
จนเมื่อบอร์ดคนหนึ่งเกิดความเข้าใจ จึงเล่าออกมาว่ารู้เหตุผลว่าว่าเรื่องที่ทำให้พี่เล่นบทเป็นโจร ก็เหตุด้วยน้องไม่ได้ลงมือทำในสิ่งที่ควรทำให้คนไข้ก่อนถึงมือพี่
ข้อมูลบอกเล่าของบอร์ดคนนี้ ทำให้เจ้านายมองเห็นทางออกว่าควรจะทำอย่างไรในการแก้ปัญหา จึงชี้ให้ทุกคนมองเห็น และช่วยกันมองความเป็นไปได้ว่าแก้ปัญหาได้ตรงโจทย์หรือยัง เมื่อตกลงร่วมกันแล้วว่านี่คือทางออกของการแก้โจทย์ที่เกิดจากความสัมพันธ์พี่น้อง โจทย์ก็ส่งมอบต่อให้รองฯแพทย์ไปทำงาน ไปลงมือค้นหากติกาปฏิบัติสำหรับการขอคำปรึกษาก่อนส่งถึงมือพี่ที่มีปัญหาความสัมพันธ์กับน้อง รับรู้มาแล้วให้บอกกับน้องให้รู้ตรงกัน
หนึ่ง สอง สาม สี่….ที่จะกลายเป็นวิธีปฏิบัติ….จึงกลายเป็นงานที่รองฯแพทย์มีคนช่วยแก้โจทย์ให้จากการพูดคุย…คำสั่งที่มอบก็คือ..ขอให้ไปสื่อสารต่อให้เกิดผลปฏิบัติ…แล้วกลับมาบอกว่าลงมือแล้วได้ผลอย่างไร…มีอีกหลายส่วนของการปฏิบัติที่ได้มอบต่อให้รองฯแพทย์ไปทำ
รองฯด้านพยาบาล หัวหน้านางฟ้า ก็เป็นอีกคนที่ได้รับมอบงาน ให้ไปทำคู่ขนานในการจัดระบบในส่วนของพยาบาลมาเสริมจุดอ่อน
จุดอ่อนที่ว่า คือ การสื่อสารในส่วนที่เกี่ยวกับการทำงานร่วมกันระหว่างแพทย์กับพยาบาล ซึ่งในคราวนี้เป็นการมอบหมายให้บรรดานางฟ้าช่วยบริหารการสื่อสารเพื่อให้คนไข้ได้รับบริการจากบรรดาหมอๆที่ไม่ช้าไปจนเกิดอันตราย
ก่อนลาจากกันก็มีการสรุปในเรื่องของเวลานัดหมาย บ่งบอกไว้ชัดตามงานอะไร เมื่อไร อย่างไร บอกกล่าวไปให้คนรับงานรับรู้
โจทย์ในได้เรียนอีกบทนี้คือ การบริหารงานที่ได้เรียนครบ ได้เหนตัวอย่างที่ครูสาธิต วิธีสอนงานไปพร้อมกับการสั่งงาน ควบคุมงาน ติดตามงาน (รวมตัวกะปิที่สามารถตามได้จากหลักฐานเชิงประจักษ์) และการประเมินผล (ที่ได้เป้าชัดว่าต้องการผลอะไร)
« « Prev : เรียนการใช้…ปัจจุบันขณะ…ลดความขัดแย้ง…และเรียนการเป็นครู
Next : ปฏิเสธความรัก..จริงๆอ่ะ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "เรียนวิธี…สอนงาน"