สมใจกับการเพิ่มคุณค่าของคน
อ่าน: 1044ที่จริงก่อนเริ่มกิจกรรมในวันนี้ ครูณาได้บอกกับผู้เข้าร่วมตั้งแต่เช้าว่า โรงเรียนจะเลิกราวสี่โมงเย็น แต่เอาเข้าจริงเวลาก็ยืดไปกว่าเวลานี้
การที่กลุ่มคนที่ครูณาตัดใจว่าคงต้องปล่อยให้ค้นหาวิถีทำงานกับตัวเองด้วยวิธีของตัวต่อไปได้เอ่ยเล่าเช็คอินเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองและครอบครัวออกมามากขึ้น ฉันมองว่าเป็นเหตุให้ครูณาผ่อนกิจกรรมการอ่านแผนที่ความรักที่เล่าสู่กันฟังให้ดำเนินต่อไปช้าๆเพื่อรักษาบรรยากาศของวงนะ
จนเมื่อเวลาผ่านเลยห้าโมงเย็นไปมากโขแล้ว เพื่อให้คนที่มาร่วมจากตรังเดินทางกลับได้ทัน ครูณาจึงตัดสินใจไม่ผ่อนเวลาให้กับการอ่านแผนที่ต่อ ก่อนปิดวงเธอจึงแค่โยนคำถามลงไปในวงว่า “มีใครอีกไหมที่อยากอ่านแผนที่ให้เพื่อนในวงฟัง”
เมื่อเหลียวมองไปรอบๆดูเหมือนจะมีแต่คนสั่นหน้าหรือหลบตาเป็นเชิงปฏิเสธ จนครูณาเกือบตัดสินใจปิดวงแล้ว เจ้าลูกสาว(คนไข้คนหนึ่งของฉัน) จึงยกมือบอกว่า “หนูค่ะ” แล้วเธอก็อ่านสิ่งที่ได้เขียนไว้ในแผนที่ความรักของเธอออกมาให้ได้ยิน นอกจากคนในครอบครัวของเธอแล้ว ปรากฏว่ามีตัวฉันบรรจุอยู่ในแผนที่ความรักของเธอด้วย เมื่อเธออ่านมันออกมาแล้ว ฉันจึงอ้อกับข้อตัดสินใจของเธอ การที่เธอตัดสินใจขออ่านมันออกมาให้ฟังนั้น ด้วยเธออยากเอ่ยคำขอบคุณและบอกถึงความรักที่มีต่อฉันออกจากปากให้ฉันได้ยินนี่เอง
อันที่จริงก่อนหน้านี้ครูณาเธอสะกิดฉันและบอกว่า “แม่หนูคนนั้นเขามองมาที่หมอตลอดเวลาเลยนะ หมอเห็นสายตาของเธอรึเปล่า”
ขอบคุณนะลูกสาวที่เข้าใจในความห่วงใยที่ฉันมีต่อหนู ในฐานะของลูกคนเล็กในบ้าน แม้ในเวลาสองวันนี้ความเข้าใจอะไรบางอย่างในตัวเองของหนูเติบโตขึ้นแล้วก็จริง แต่ในความเป็นคนป่วยไข้ของหนู ฉันยังรอการเติบโตของหนูอยู่ทุกเวลานะ
เมื่อวงปิดลง เวลาปิดโรงเรียนก็มาถึง แล้วก็เป็นวาระของการอำลากันและกัน ก่อนเวลาอำลามาถึง ทุกคนก็ชวนกันมารวมหมู่ถ่ายรูปด้วยกันตามธรรมเนียม
ระหว่างที่ฉันจะเดินเข้าไปร่วมวงถ่ายรูป ก็ปะหน้ากับน้องนุช ไม่ทันได้ตั้งตัว น้องนุชก็โผเข้าจับตัวกอดซะแน่นจนแทบล้มทั้งยืน ได้แต่ยันตัวไว้สุดแรงและยืนให้กอดซะแทบหมดแรงขา กอดตอบเธอไปพลันที่โดนกอดนะแหละ
จำได้ว่ายืนกอดกันอยู่อย่างเนิ่นนาน นานมากทีเดียว ไม่เคยถูกใครกอดซะนานอย่างนี้มาก่อน ฉงนในใจว่าเกิดอะไรขึ้นหรือน้องนุชจึงมากอดซะแน่นเชียว คลายกอดกันแล้วก็ถ่ายรูปร่วมกัน
ระหว่างที่ช่วยกันจัดเก็บสถานที่ให้เรียบร้อย ครูณาก็หาโอกาสเข้าไปคุยตัวต่อตัวกับคนที่ยังไม่กล้าเปิดใจเต็มที่ แล้วคนสองคนสุดท้ายก็ได้รับการช่วยเหลือ อย่างน้อยก็ได้รับการช่วยด้วยการบอกให้รับรู้ว่าเข้าใจความรู้สึกภายในอยู่นะ แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับการปล่อยให้พวกเธอเติบโตต่อไป
เมื่อฉันเดินเข้าไปเพื่อร่วมสนทนาด้วย ก็แอบเห็นคนหนึ่งในสองคนน้ำไหลออกตา ได้ยินครูณาพูดแว่วๆว่า “รู้อยู่ว่าอึดอัดจะแย่แล้ว และอยากจะพูดออกมา” เมื่อเธอเห็นฉันเดินเข้าไปหา เธอจึงผละจากอ้อมกอดครูณาออกมา
เมื่อเดินเข้าไปปะครูณาตอนนี้ ฉันก็โดนครูณาจับกอดเข้าอีกคน กอดครูณาแน่นปึ๊กบ่งบอกถึงพลังที่มีเต็มเปี่ยม กอดสักครู่ครูณาก็ปล่อยตัวฉันออก ฉันจึงพาตัวเดินเข้าไปแล้วกอดสาวที่ผละจากครูณาและบอกว่า “ฉันมีประสบการณ์มาก่อนกับความอึดอัดอย่างนี้ แล้วฉันก็เรียนรู้ว่าการได้พูดอะไรออกมาซะบ้างมันทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น” เธอขอบคุณที่ฉันเอื้อให้เกิดเวทีในวันนี้ค่ะ
สาวอีกคนนั้นฉันแอบไปเห็น เธอนั่งแอบอยู่คนเดียวเงียบๆข้างตึกที่ใช้เรียนกัน ไม่มีใครเห็นเธอและสังเกตเธอหรอก ฉันแอบเห็นด้วยหางตาแวบเห็น ตอนที่เดินไปที่ถนนเพื่อเคลื่อนย้ายรถ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังนั่งใคร่ครวญ ไตร่ตรองอะไรบางอย่างอยู่ ก็เสียดายที่ตัวเองไปทำให้บรรยากาศเสียซะก่อน การปรากฏตัวเงาของฉันออกไปให้เธอรู้ว่ามีคนเห็น ทำให้เธอพาตัวลุกออกไปจากการใคร่ครวญซะนี่
ก่อนจะเดินออกมาจากตึกแห่งนั้น เจ้าลูกสาวที่กำลังช่วยเก็บสถานที่อยู่ด้วยก็เข้ามากอด กอดนิ่งๆอยู่นานเชียวแหละ เธอกล่าวคำเบาๆในระหว่างที่กอดอยู่ให้ชื่นใจว่า “อ้อมรักหมอ” เมื่อได้ยินฉันบอกกลับเธอไปว่า “หมอก็รักอ้อม” หลังจากกอดกันอยู่ไม่นาน เราก็ลาจากกัน
เป็นอันว่าโรงเรียนพ่อแม่ลูกครั้งแรกที่กระบี่ได้ปิดตัวลงแล้ว ผลนะหรือคงไม่ต้องบอกอะไรนะ ประสบความสำเร็จตามที่พวกเขาปรารถนาอยู่แล้ว แถมด้วยโอกาสให้สปสช.ได้เข้ามาเอี่ยวรับรู้ ซึ่งน่าจะเป็นฐานให้ฉันทำงานที่นี่ได้ง่ายขึ้นต่อไป
เมื่อวานเย็นเพิ่งชัดเจนว่าสปอนเซอร์ใหญ่ที่ช่วยให้การจัดโรงเรียนพ่อแม่ลูกในครั้งนี้เป็นไปด้วยดี คือสปสช.นี่แหละเป็นหลักใหญ่ เธอผู้ให้ความเห็นชอบสนับสนุนงบประมาณให้ก็มาเข้าร่วมกิจกรรมด้วยตลอดสองวัน เธอมาร่วมเพื่อเรียนรู้ ประเมินและรับรู้ถึงคุณค่าที่โรงเรียนแห่งนี้ให้ผล
วันนี้ฉันได้มอบหนังสือเจ้าเป็นไผ ๑ ให้ไปเล่มหนึ่ง พร้อมคำบอกขอบคุณจากใจแทนคนกระบี่ในที่แห่งนี้ทุกๆคน ขอบอกว่าเธอชอบมันมากนะค่ะ
สำหรับคนที่ตั้งใจทำงานกับตัวเองต่อ พร้อมรดน้ำให้ต้นกล้า้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง ฉันมอบหนังสือของอาจารย์วรภัทรให้ไป คนกลุ่มนี้เป็นคนที่สร้างคุณค่าให้กับสังคมและมีคุณค่ากับสังคมค่ะ ก็พวกเขาล้วนมีจิตอาสาและทำงานเป็นอสม.กันอยู่แทบทั้งนั้นเลยค่ะ
29 กค.2552
« « Prev : คงพลังในวงไว้….สำคัญ
ความคิดเห็นสำหรับ "สมใจกับการเพิ่มคุณค่าของคน"