เสน่ห์เชียงรายในเฮ 6
อ่าน: 2944เรื่องราวที่ได้พบปะชาวเฮอีกครั้งได้หลั่งไหลผ่านออกมาสู่บันทึกของหลายๆท่านในมุมมองต่างๆ การได้พบปะกับชาวเฮในครั้งนี้ ฉันไม่อาจเขียนเรื่องราวทั้งหมดขึ้นมาได้ ณ วันนี้ จึงขอมีส่วนร่วมในการส่งบันทึกอันเป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งที่ฉันได้เก็บความทรงจำไว้ในภาพถ่ายที่เก็บไว้ในกล้องคู่ตัวมาแลกเปลี่ยนกันค่ะ
คุณลักษณะเฉพาะของต้นตระกูลเฮ
ในยามที่ชาวเฮได้พบปะกันนั้น ไม่มียามใดที่คนต้นตระกูลเฮอย่างพ่อครูจะไม่ใช้กล้องเก็บภาพงามๆไว้ในกล้องคู่ใจเพื่อนำไปรวบรวมไว้แนบอกยามคิดถึงลูกหลาน ลวดลายในการถ่ายภาพของท่านนั้นงดงามอยู่ในใจของลูกหลานอย่างไรอย่าให้บอกเลยค่ะ ดูจากภาพเอาเอง ในยามที่จริงจังกับงานที่มีภาระอยู่นั้น ท่านก็มีมาดไม่เบา..เชนคัมแบกนะสู้ไม่ได้เลยนะ..ขอบอก
คนเบื้องหลังผู้ยิ่งใหญ่
เฮ 6 ได้นัดหมายกันไว้ล่วงหน้าเป็นแรมเดือน แล้วเกิดเหตุอย่างไม่นึกไม่ฝันที่บ้านเมืองเกิดศึกภายในขึ้นแล้วมีอันทำให้เครื่องบินทั้งหลายพากันจอดนิ่งอยู่บนลานอย่างเฉยเมย ชาวเฮในกรุงเทพฯและใต้ต่างสะดุ้ง เฮ้ย นี่ตูจะไปร่วมเฮ 6 กันอย่างไรดีละนี่ ตั๋วเครื่องบินก็ซื้อกันเรียบร้อยแล้ว คอยลุ้นๆให้เครื่องมันบินมันจะลุ้นไหวมั๊ยละนี่ มิใช่แต่ชาวเฮที่เอ่ยถึงเท่านั้นที่สะดุ้งจนเรือนไหวและขยับกายไวๆเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ด้วยกัน เจ้าภาพที่จัดงานเฮ 6 ก็พากันชะเง้อมองด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ตูจะทำไงดีวะนี่ เสียชื่อป่นปี้แน่แล้ว ดวงใจที่มันแป้วมันมีลุ้นทุกวันว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง ชาวเฮในภาคเหนือที่คอยป่วน คอยใส่ใจลุ้นไปด้วยกับเจ้าภาพก็ตัดสินใจ ตูไปด้วยดีกว่า ว่าแล้วก็มีคนลั่นกลองรบ ประกาศก้องว่าเฮ 6 เริ่มแล้วหนอ เสียงนั้นมันเริ่มขึ้นจากพี่ชายบางทรายนะเองค่ะ คำประกาศทำให้ชาวเฮกลางและใต้ประสานงานกันซึ่งสุดท้ายเป็นอันว่าต่างได้มาร่วมเฮ 6 กัน ขาดแต่ชาวภูเก็ตอีกคนที่ติดเรื่องดูแลลูกสาวผ่าตัดด่วนที่มาร่วมไม่ได้ ขาไปไปรถตู้ ขากลับกลับเครื่องบิน วันนี้จึงขอมากล่าวขอบคุณบุคคลเบื้องหลังที่ได้นำพาให้ได้รู้จักเชียงรายเพิ่มขึ้นในหลายมุม
รายการทั้งหลายที่ฉันได้มีโอกาสสัมผัสและดื่มด่ำกับความสวยงามของทิวทัศน์ บรรยากาศ ประวัติศาสตร์ และผู้คนแห่งเมืองเจียงฮายนั้นเป็นทุกอย่างที่ฟูมฟักอยู่ในใจของคนใจเด็ดและใจสู้ที่ได้แปรมาสู่การจัดการให้ทุกผู้คนที่มาเยือนในทีมเฮได้เก็บเกี่ยวสิ่งที่ชอบเข้าไปจนอิ่มเต็ม เป็นฝีมือของสาวสวยเสื้อสีแดงคนข้างบนนั้น ในภาพเป็นช่วงเวลาที่ชาวเฮได้ฤกษ์ดีที่อวยให้มาโดยอาจารย์ของพี่บูทซึ่งเป็นผู้มีชื่อเสียงก้องโลก ชายในชุดม่อฮ่อมสีเริ่มเก่าร่างอ้วนหนวดเคราขาวโพลนที่เห็นยืนคู่สาวเสื้อแดงนั้นคือ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินชื่อก้องโลก อาจารย์เล่าเรื่องเสียดสีรัฐบาลให้ฟังอย่างน่ารักว่า คุณสุวิทย์ ยอดมณีขอร้องให้ช่วยให้ข่าวว่ารัฐบาลได้ช่วยเหลือการต่อยอดให้ผลงานการสร้างของท่านที่นี่ อาจารย์ก็ให้ข่าวว่ารัฐบาลให้เงินช่วยสร้างที่นี่จริงๆ ในอัตราเดือนละสามพันบาท ให้มาในฐานะที่ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติแหละค่ะ เจ้าภาพที่เห็นฮาอยู่นั้นก็เพราะอาจารย์ได้เสนอให้นักการเมืองคนดังจำนวนสี่คนมาให้สาวเสื้อแดงเลือกเป็นคู่ครอง ชาวเฮเลยได้เฮกับการที่ท่านเป็นกันเองยิ่งที่มาล้อเล่นกับพวกเรา สาวน้อยมีชายหนุ่มผมเกรียนในชุดดำที่อ่อนวัยกว่าเป็นผู้ช่วยเตรียมงาน ชายหนุ่มผู้นั้นคือชายชุดดำในภาพล่างนั่นแหละค่ะ เขานั้นมีชื่อออกเพราะแต่น้องหล้าของชาวเฮ หนูจิแหละค่ะเปลี่ยนชื่อจาก ไพโรจน์ เป็น โพรด ไปซะได้
ถัดมาหญิงสาวผมซอยสั้น พันคอด้วยผ้าสีชมพูสวยงามที่เห็นอยู่นั้น คือ (อดีต)สว.เตือนใจ ดีเทศน์หรือพี่แดง พี่เป็นคนที่มุ่งมั่นและมีคุณอย่างยิ่งกับชาวเขาบนดอยแม่สลอง จนคนบนดอยนั้นรักเป็นนักหนา ครูแดงเธอเล่าว่าในพื้นที่ดอยสูงที่เธอทำงานอยู่นั้นเป็นพื้นที่ป่าเขาที่มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขาได้เข้ามาพัฒนานานแล้ว และในยามที่บ้านเมืองมีการยึดลานบินนั้น เธอได้เจอประสบการณ์หนึ่งที่ทำให้ทำงานไประวังตัวไป เหตุการณ์ที่เจอคือ มีคนปิดสนามบินไม่ให้ตัวเธอเท่านั้นเหยียบพื้นดินเชียงราย ครูแดงจะมีคุณผู้หญิงคนที่โพกผ้าคลุมผมในรูปช่วยดูแลสถานที่และจัดการพื้นที่ คุณพี่คนนี้เขาร้องเพลงด้วยน้ำเสียงใสแจ๋วไม่สมอายุสักนิด หนูจิมีโชคดีที่ได้ร้องอีแซวขอบคุณป้าทั้งสองสนองเสียงเรียกร้องจากครูแดง
สาวผมยาวสลวยที่อยู่ตรงมุมขวาบนนะน่ะ คือ พี่หมู ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของที่หลับที่นอนที่ชาวเฮใช้เอนกายหลบความหนาวเย็นหลังกลับลงมาตีนดอยแล้ว เธอเป็นเจ้าของรีสอร์ทที่ชาวเฮไปพักค่ะ ที่พักของเธออยู่ในราวสิบกว่ากิโลเมตรจากปากทางวิ่งรถมาแม่จัน คุณพี่ผู้ชายที่ใส่เสื้อดำนะเป็นสามีของพี่หมู ทั้งคู่มีเจตนารมณ์เหมือนครูบาอีตรงที่ปลูกพืชทุกต้นด้วยมือเองและดูแลมันโดยวิธีปลอดยาฆ่าแมลงวิทยาศาสตร์ ต้นไม้ที่เก็บมาปลูกไว้นั้นส่วนใหญ่เป็นไม้หายากและดอกไม้ในวรรณคดีไทย ในภาพพี่เขากำลังขอความรู้จากครูบาเรื่องการปลูกต้นไม้ การพูดคุยถูกจริตจนเกิดสัญญาว่าครูบาและป้าจุ๋มจะให้เอกมหาชัยมาปลูกที่นี่ และทั้งสองจะไปหาต้นมะรุมมาปลูกไว้เยอะๆด้วย
พี่ชายคนถัดมามีหนวดเสน่ห์ที่ริมฝีปากด้วยนะ คนที่ว่าคือคนที่ขี้หนาวอย่างยิ่ง เดาเอาจากที่ได้เห็นพี่เขาใช้ผ้าพันคอทีเดียวสองผืนค่ะ เขาคือเจ้าพ่อรายการแว๊บๆทัวร์ ซึ่งคราวนี้แทนที่จะให้เวลาลูกทัวร์สองนาทีอย่างที่เคยทำ พี่เขาก็เมตตาขยายเวลาให้เป็นสามนาทีค่ะ ทำเอาน้องครูอึ่งหายใจโล่งด้วยพอมีเวลาให้วิ่งเข้าห้องน้ำได้ทันเวลา คนนี้มีดีอะไรอื่นบ้างฉันไม่รู้ รู้แต่ว่ามีภรรยาและลูกสาวสวยน่ารักจริงๆ แถมยังมาบอกรักกันในระหว่างงานขันโตกให้เราได้ยินได้ชมอีกด้วยนานี่ คำแรกที่ได้ยินพี่แกพูดเมื่อเจอหน้ากันตอนที่ฉันเดินเข้าไปแสดงตัวนี่คือหมอตา ถ้าหูฉันไม่แว่วและเครื่องฟังในหูไม่เพี้ยน ฉันได้ยินพี่เขาอุทานว่า สวยยังงี้เชียวรึนี่ ซึ่งพอฉันได้ยินแล้วมันงงนะจะบอกให้พี่ชาย ดีอื่นที่สัมผัสก็คือเป็นคนที่รักลูกสาวและภรรยามากอยู่นา แล้วก็เป็นคนที่มีน้ำใจกว้างขวางยิ่งนักค่ะ สาวเสื้อดำผมดัดสั้นที่เห็นในภาพล่างนั่นแหละค่ะภรรยาของพี่เขา
ชายในชุดสีฟ้า ปากแดงเหมือนกินหมากที่มีหน้าตาขึงขังในภาพที่เห็นอยู่นั้น ร้องเพลงได้ไพเราะมาก ช่วงเวลาที่เขาร้องเพลงให้ฟัง ฉันรับสัญญาณความรู้สึกของเขาได้ว่า เขามีความสุขใจและตื้นตันมากๆๆๆ ฟังเพลงที่เขาร้องในตอนต้นไม่เท่าไรหรอกค่ะ แต่พอนั่งฟังๆไปน้ำตามันไหลจนอยากสะอื้นไห้ออกมาดังๆเลยละ ตอนนั้นขืนร้องไห้ออกมา คนที่เห็นเขาน่าจะงงว่าเป็นอะไรไปแล้ว ฉันเลยเฉไฉนั่งก้มหน้าสะกดกลั้นตัวเองไว้ไม่ให้น้ำไหลรินออกตามามากมายและแอบเช็ดน้ำตาเมื่อเขาร้องเพลงจบลงแล้ว ตอนนั้นนึกว่ามีฉันคนเดียวที่รับความรู้สึกของเขาได้ เพิ่งมาได้ยินทีหลังว่ามีอารามอีกคนที่เอ่ยออกมาว่าฟังแล้วรู้สึกว่าเพลงนี้ผู้ร้องกำลังตื้นตันใจ เฮ้อ! พอได้ฟัง มันโล่งค่ะว่า ไม่ได้เป็นคนแปลกคนอีกครั้งแล้ว นี่คือชายคนหนึ่งที่ภูมิใจในความเป็นไทยมากกว่าคนไทยที่แท้ เพราะเนื้อแท้เขาเป็นชาวเขาที่มาขอใช้สัญชาติไทยค่ะ
ชายชุดดำผู้ที่ใช้ผ้าขาวม้าพาดบ่าและแอคชั่นอยู่นั้น มีมาดเท่เหมือนนายร้อยยังไงยังงั้น นี่ถ้ามีใครหลอกฉันว่าเขาเป็นตำรวจละก็ฉันเชื่อนะค่ะ เขาคือผู้ที่ทำให้ชาวเฮได้รู้ลึกถึงประวัติของอาณาจักรเชียงแสนในอดีต เขาเป็นผู้ที่ประสานที่ทำให้ได้เห็นเพิ่มถึงความพร้อมและน้ำใจของชาวเชียงแสนในอีกแง่มุม ได้สัมผัสและลิ้มรสอาหารเหนือสไตล์เชียงแสนในบรรยากาศโรแมนติกท่ามกลางแสงตะเกียง มีเด็กน้อยมาร่ายรำป้อนเสน่ห์ให้งานขันโตกยิ่งมีมนตร์
งานนี้คงไม่โลด หากไม่มีสาวผมสั้นและหนุ่มหน้าแบนๆใส่แว่นตากลมๆที่ได้เห็นในภาพเป็นผู้คอยลุ้น คอยจัดเงื่อนปมให้งานไปได้สวย เป็นกุศลของตัวที่ได้ช่วยเจ้าภาพให้ไม่เหนื่อยเกินไปไม่มากก็น้อย ฉันว่าทุกคนรู้จักกันแล้วว่าไผเป็นไผ ที่น่าประหลาดก็คืออยู่ๆพี่ผู้ชายท่านเลื่อนวันหมั้นลูกชายเฉยเลย แล้วขนขบวนทั้งครัวของท่านมาร่วมงานเฮ 6 อย่างสบายอุรา
หนุ่มน้อยตุ้ยนุ๊ย และหนุ่มใหญ่ที่ไม่เปิดเผยหน้าตา เป็นอีกคู่หนึ่งที่อยู่เบื้องหลังทำให้ฉันนั้นมีโอกาสมาลิ้มรสมนตร์ขลังของเมืองเชียงราย คนแรกเป็นคนที่หาพาหนะขนคนจากกลาง-ใต้ขึ้นมาในยามที่ลานบินถูกปิด คนหลังเป็นคนที่ชี้ เฮ 6 คราวนี้ขอเป็นเจียงฮาย ไผเป็นไผและชื่ออะไรขอไม่เอ่ยยี่ห้อด้วยทุกคนรู้จักกันแล้ว
สาวน้อย(ลง) ที่ใส่ชุดเขียวในภาพล่างนั้น คือ คุณแม่คนสวยของคนตาหวาน เป็นผู้ที่กรุณาอย่างยิ่งที่ยอมเหน็ดเหนื่อย เตรียมอาหารไว้ให้กองคาราวานกลาง-ใต้ ได้มาเติมพุง ทำให้มีพลังมากพอให้เดินทางต่อจนถึงเจียงฮาย
ส่วนหนุ่มคนสุดท้ายที่เห็นใส่เสื้อกั๊กนั่งเอนกายอยู่นั้นคือต้นเหตุที่ทำให้หนุ่มน้อยตุ้ยนุ๊ยอยากมาสัมผัสกับห้องนั่งเล่น พี่เขามีชื่อว่า ใหญ่นะค่ะ ชื่อที่คนทั่วไปเรียกขานนะคือ วิศิษฐ วังวิญญู ค่ะ ฉันว่าหนุ่มน้อยเขาแปลกอยากมาสัมผัสแต่พอมาถึงจริงกลับนั่งหนีห่างไม่ยอมพูดคุยกับใหญ่สักนิด ยิ่งคืนวันก่อนกลับเมืองกรุงยิ่งแปลกไปใหญ่ หนุ่มน้อยตุ๊ยนุ๊ยเขาเล่นนอนกรน…..ครอกฟี๊..ครอกฟี๊…ระหว่างที่มีการนั่งสนทนากันเฉยเลย พูดถึงการสนทนาขอบอกเล่าว่า สวนป่าและที่นี่ได้จับมือเป็นพันธมิตรและกัลยาณมิตรของกันและกันแล้วน่ะ ส่วนการต่อยอดไปสู่สิ่งใด กิจกรรมเยี่ยงใด ใหญ่เขารอให้ครูบาเริ่มค่ะ
เสน่ห์เจียงฮาย
ด้วยครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่ฉันได้มาที่เมืองเจียงฮายแห่งนี้ จึงขอยกให้ผู้อื่นนั้นเล่าถึงสถานที่ซึ่งเคยไปเยือนมาแล้วแทน เจ้าภาพนำพาไปชมเพื่อเรียนรู้รากของเมืองไทย อันมีที่มาที่แสนยิ่งใหญ่ เกี่ยวข้องกันไป ไทยใหญ่ ไทยดำ ขอม ลาว พม่า ในภาพล่างที่เห็นตระหง่านตรงมุมซ้ายบนที่เป็นโบสถ์วิจิตรพิสดารนะ คือ โบสถ์วัดมิ่งเมือง ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับตลาดสดเช้า เดินไปไม่ถึงครึ่งของครึ่งกิโลแม้วก็ถึงได้ ถัดเข้าไปภาพของอาคารที่ภาคเอกชนได้สร้างขึ้นเพื่อเก็บหลักฐานอันรุ่งเรืองยิ่งของเมืองไทยเรานี้ในอดีตกาลที่รวบรวมมามาไว้
สถานที่แห่งนี้ชื่อ พิพิธภัณฑ์กูบคำ ถัดไปที่เห็นสายน้ำอยู่เบื้องหลังช้างนั่นคือแม่น้ำกก ส่วนคนที่อยู่บนหลังช้างสองสาวสองวัย คือ ป้าจุ๋มและน้องจิค่ะ ที่นี่คือปางช้างของชาวกะเหรี่ยงที่พัฒนาแล้ว ทำให้เมื่อเข้าไปแล้ว จะเห็นว่าพวกเขาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบบคนเมือง หมู่บ้านที่นี่มีชนเผ่าอยู่ปะปนกันอยู่ค่ะ น้องจิ ป้าจุ๋มมาที่นี่ สนุกสนานมากกับการเรียนภาษาที่เขาใช้พูดกัน เป็นคำอะไรบ้างนั้น ลองภูมิน้องจิดูหน่อยก็ได้ ซึ่งฉันประกันไม่ได้ว่าเธอยังจำมันได้มากคำแค่ไหน แต่ที่แน่ๆฉันประกันได้ว่า เธอจะไม่พูดคำว่า กาลาโต้ ออกมาแน่นอน
ถัดมาในแถวที่สอง อาคารเล็กๆที่มีเขาควายประดับเอาไว้ นั่นนะคือ ส้วม ที่อาจารย์ถวัลย์ ออกแบบเอาไว้อย่างเลิศอลังการยิ่ง อยากรู้ข้างในเป็นยังไง ขอโยนไปให้หนูจิเล่าออกมา เพราะว่าเธอเป็นคนแรกในทีมที่เดินเข้าไปขอใช้ห้องน้ำเขา ภาพขวาเป็นภาพด้านข้างของศาลาซึ่งอยู่ในค่ายทหารที่ชาวเฮเราแวะไปถวายคารวะรอยพระบาทขององค์สมเด็จพ่อของคนไทยเรา ศาลานี้กำลังก่อสร้างและในไม่ช้าจะเปิดฟรีให้คนเข้าไปเที่ยวชมได้
ถัดลงมาที่แถวล่างสุด มุมซ้ายล่างคือ โบสถ์ในบริเวณวัดพระแก้ว ซึ่งจัดไว้ให้เป็นสถานที่ให้มาขอดูแบบพิพิธภัณฑ์ ที่นี่มีตุงสดสวย ละเอียดงดงามตั้งแสดงเอาไว้ มีนกการะเวกงามที่สุดเท่าที่เคยเห็น แกะสลักสีทองงามวางไว้อวดสายตา และมีต้นไม้หายากพระเจ้าทั้งห้าปลูกไว้ให้ดูที่หน้าโบสถ์นี้ด้วย
ส่วนภาพกลางของแถวล่างสุด นั่นนะคือ ส้วมทองอลังการ ซึ่งประดิษฐ์ประดอยและสร้างขึ้นไว้ในวัดร่องขุ่นซึ่งเป็นวัดที่ศิลปินแห่งชาติอีกคนได้ทุ่มทุนสร้าง ท่านนั้นก็คือ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตวิวัฒน์ นะเอง สังเกตดูความเหมือนของสองศิลปินที่เจอ ล้วนใช้ความแหลมเป็นตัวบ่งบอกถึงความเฉียบแหลม
ท่านหนึ่งใช้ธรรมชาติเตือนใจของคนผ่านบรรดาซากสัตว์ทั้งหลายและสร้างมันไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ยลได้ยิน
อีกท่านหนึ่งนั้นใช้รูปแบบของสังฆะแห่งธรรมและธรรมชาติซึ่งมีบรรยากาศอันสวยสดงดงามเป็นเครื่องเตือนใจและใช้ช่วยคน
ภาพสุดท้ายที่มุมขวาล่าง เป็น ม้าอาจหาญที่ไม่เคยเมื่อย มันยืนอวดตัวอยู่ที่ท่าที่แพขนานยนต์จอดเพื่อรับคนข้ามไปเที่ยวชมสองฝั่งโขงและฝั่งอาณาจักรเมืองพม่า เมืองลาวได้ อาคารที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่ม้ากำลังกระโดดอยู่นี้เป็นอาคารใหญ่ทำด้วยไม้สักทั้งหลัง อลังการงานสร้างอย่างยิ่ง เห็นที่แล้วจินตนาการได้ว่าหน้าคนมาเที่ยวคงเล็กไปถนัด ไม่ดูใหญ่กว้างเยี่ยงนี้
ใกล้ๆอาคารแห่งนี้ มีกองทัพมดที่เดินไปมายั้วเยี้ย เขาคือมนุษย์แรงงานที่ช่วยขนถ่ายสินค้าข้ามแดน สินค้าฝั่งพม่าส่งมา สินค้าไทยส่งไป ผ่านจุดใกล้กัน
« « Prev : เจ้ามีที่มาอย่างไร(11)
Next : สำรวจทำเลเผื่อมินิเฮ » »
17 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊
แวะมาอิจฉาอีกครั้ง…แต่ที่ไม่ได้ไปเฮกหฯ หนิงรายงานไว้ใน blog แล้วนะคะ
หวังว่า พี่ๆน้องๆ แซ่เฮ จะให้อภัยค่ะ
มาเหนือทีไรก็อดชื่นชมความวิจิตรพิสดารของฝีมือช่างไม่ได้ ดื่มด่ำทุกทีและทุกครั้งก็คุยกับคนข้างกายว่า ช่างอีสานยังสวยแบบอีสานที่ไม่วิจิตรเท่าทางเหนือ โดยเฉพาะงานไม้ ฝีมือเหล่านี้มิใช่หมดสิ้นยังมีศิลปินใหญ่ผุดมาในสมัยของเราอีก จนคนข้างกายบอกว่า เราย้ายมาอยู่เชียงรายดีไหม ชอบๆๆๆๆๆๆครับ
อ้อ…หลายปีก่อนก็เกือบได้ย้ายมาเชียงรายแล้วเพราะมหาวิทยาลัยที่นี่เขาประชุมอนุมัติชื่อคนข้างกายมาสอนที่นี่แล้ว แต่บังเอิญคุณแม่ที่มีอายุ 90 เศษ ป่วย เลยต้องขอยกเลิกการโอนย้ายมาเชียงรายไป มิเช่นั้นก็มาหนาวเหน็บอยู่บนดอยใดดอยหนึ่งซะแล้ว อิอิ
มาคาราวะหมอตาที่อันเป็นรัก น่าเคารพ
กอดอุ่นๆด้วยความชื่นชมที่มองเห็น”มือที่อยู่เบื้องหลัง”ทุกคนค่ะ ^ ^
เหนื่อยจังกว่าจะอ่านจบ แต่สนุกดี อิอิ
สู๊ดดดดดดดดดดดดด ยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อิอิ
พี่ตาเก็บรายละเอียดยิบเลย…ครบรสจริงๆค่ะ
ดีใจที่ได้เจอกันอีก
และดีใจที่รู้ว่าพี่กำลังจะรังสรรค์สิ่งดีๆ ทีมดีๆ ที่กระบี่เพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ
น้องหนิงจ๋า พี่ดีใจนะจ๊ะ ที่มีโอกาสได้ร่วมฉลองวันครบรอบแต่งงานของน้องน่ะ
เจอเจ้าเขียวและเล่าเรื่องให้ฟังแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดสลบด้วยความเสียดายเลยละ
พี่บูธค่ะ เมื่อไปเยือนในบางที่ มันมีสัญญาณอะไรบางอย่างที่มาเตือนภายในตัวตนของน้องว่า น้องมีอะไรบางอย่างที่เป็นเรื่องของความผูกพันที่เกี่ยวข้องอยู่กับบางจุดของเมืองเชียงรายค่ะ ซึ่งไม่สามารถเชื่อมโยงย้อนไปจนได้คำอธิบายเหมือนอ้ายเปลี่ยน มันเหมือนสังหรณ์บางอย่างที่เข้ามาแตะเบาๆให้ได้รับรู้และเกิดปิติค่ะพี่ เป้นความรู้สึกเดียวกับที่เกิดขึ้นตอนอุ้ยจันตาพาไปเดินเที่ยวถนนคนเดินที่เชียงใหม่ในวันหนึ่งเลยค่ะ
สัญญาณอันนี้กระมังที่โยงใยชักพาให้น้องไปเชียงรายรอบแล้วรอบเล่าโดยไม่รู้เหนื่อย โยงใยที่ชักพานั้นไม่ใช่ “ห้องนั่งเล่น” ซะแล้วค่ะพี่ หากแต่มีอะไรบางอย่างที่ไม่ปรากฏชัดออกมาให้ได้มองเห็น รับรู้ได้แค่สัมผัสค่ะพี่
อาเหลียงค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ เจอหน้ากันตัวเป็นๆ ได้แค่ทักทายกันไม่กี่ประโยคเอง เอาไว้เจอกันครั้งหน้า คงได้เม้าท์กันสนุกสนานกว่านี้นะค่ะ สัมผัสตัวพี่แล้ว พี่ใจกว้างมากนะค่ะ สมแล้วกับที่เป็นคนจริงคนหนึ่ง เพียงแต่ในใจพี่นั้นมีความอ่อนไหวอย่างยิ่ง ลูกสาวและตัวพี่คือผู้ที่เยียวยากันและกันนะพี่น่ะ
อ้อ….ทวง..ทวง….ขอลูกสาวมาเป็นลูกสาวแล้ว….ยกให้แล้วห้ามทวงคืนนะ….ดูแลกันและกันยามที่ยังมีกันและกันอยู่นี่น่ะดีค่ะ…พี่เหลียงเจ้าขา…ต่อไปให้ลูกสาวเรียกน้องว่า…หม่ามี๊…ด๋ายยยยยยยเลยนะพี่จ๋า
น้องแก้มป่องเอ๊ย พี่นะเดินทางไกลมากนะน้อง กว่าสองพันกิโลได้ละมั๊ง ดั้นด้นไปกว่าจะถึง มีมือที่อยู่เบื้องหลังมากมายที่เข้ามาเกื้อหนุนให้ได้มาถึง กายนะต้องพึ่งพากันและกัน ส่วนใจก็พึ่งพาคนเกื้อหนุนให้ใจมันอยาก แล้วยังมีผู้เหย้าที่เข้ามาเสิรมหนุนคุณค่าให้เวลาที่ได้มาเยือนเชียงรายครั้งใหม่นี้ ยิ่งมีความหมายยิ่งในความทรงจำ อย่างนี้จะไม่ให้เอ่ยขอบคุทุกมือได้อย่างไรไหว
มือทุกมือที่ค้ำจุนกัน ช่วยหนุนสังคมให้อยู่รอดมิใช่หรือน้องจ๋า
หญิงแกร่งที่มีคุณค่าอย่างน้อง น่ารักและมีคุณค่าต่อแผ่นดินเกิด คนที่เขาผันผ่านเข้ามาช่วยหนุนและเพิ่มคุณค่าให้เชียงรายแห่งนี้ มีคุณค่าต่างมุมไป เป็นสิ่งที่พี่อิจฉาที่แผ่นดินใต้ของพี่กลับค้นหาภาคีเยี่ยงนี้ได้ยากเย็นมากกว่ามาก
การได้มาพบประสบการณ์ที่นี่ ทำให้พี่รู้และเรียนมากขึ้นอีกโข อาศัยความเข้าใจที่ก่อเกิดจากการรู้ ทำให้มีบางเรื่องมองทะลุต่อไป นี่คือเหตุที่ทำให้ใจเรียกร้องให้กลับมาขอบคุณทุกๆท่านที่เกี่ยวข้องเป็นคุรุของพี่ค่ะ
ขำ ขำ ขำ พี่ตึ๋งติดโรคแล้วรู้ป่าว อ่านอะไรยาวๆแล้วเหนื่อยอ่ะนะ ประเภทสองนาทีสามนาทีจอดนะ มันนกกระจอกนะพี่….โอ๊ยโย่…ลืมไป ลืมไป แซวหนักเดี๋ยวจะไม่ดูแลกันแล้วน้องแย่เลย ทั้งจากพี่ชายคนนี้และพี่ชายคนที่อยู่เชียงแสนนะ..เอาน่า…ยาวก็อ่านนะดีแล้วพี่จ๋า….
แวะไปตีท้ายครัวมาแล้ว ก็จะติดต่อมาละว่า จะขอน้องหนิงไปกระบี่เมื่อทางกระบี่พร้อมนะพี่…คราวนี้ให้น้องอิ่มเขาพักมั่ง…ดูเหมือนจะเหนื่อยเต็มทีแล้ว..ทีมกระบี่ที่จะให้หนิงไปช่วยเป็นพวกนักการเหมือนกันค่ะพี่
จิเอ๋ยจิน้อย โดดเรียนบ่อยนะ..ระวังไว้…เน้อ…เดี๋ยวครูอาจารย์เขาจะให้เกรด….สู๊ดยอดดดดดดดดดด…เด็กโดดเรียน…เป็นประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัยนะลูก
อุ้ยจ๋า…เสียดายไม่ได้อยู่คุยต่อเรื่องเมืองละปูนของพ่อครูค่ะ….พอเป็นคนชอบเก็บเกี่ยวแบบภาพรวมๆมันก็เลยมีเรื่องมีมุมให้บันทึกเยอะ…
ทีมงานที่รังสรรค์ขึ้นคราวนี้…จะสร้างจากนอกวงการดูบ้างค่ะ….จะเดินหน้าต่อไปลองดูค่ะน้องจอมซน….
ในวงการนะจะนำพาน้องหมอคนหนึ่งขึ้นมาสัมผัสวงน้ำชาเดือนหน้าสักคน…เพื่อผ่องถ่ายงานให้เขาเดินต่อค่ะ…ถ้าสำเร็จ…ไปโลดได้แน่น้องจ๋า…
พี่จะได้ออกไปทำที่เวทีนอกร.พ.ได้ง่ายขึ้น…ตั้งใจจะสร้างเครือข่ายไว้ค่ะ
มาอิจฉา ด้วยความเสียดายครับ เฮ้อ..ไม่รู้จะพูดยังไง….ตอนนี้ลูกสาวไปเที่ยวอยู่เชียงใหม่ แต่พ่อกับแม่มันยังไม่มีโปรแกรมไปเลยเพราะติดเรียน อิอิ
เอาน่า เดี๋ยวได้ไปค่ะ ลุงเอกจัดโปรแกรมแล้วนี่ค่ะ