ตามลม๒ (๕) : มีเรื่องราวของ “อุ้ม” ที่ทำให้ “อึ้ง”
ลงมือจัดลำดับกระบวนงานที่ต้องทำ ระหว่างลงมือกับงานบางอย่าง ก็ได้รับเอกสารยืนยันมาซ้ำว่างบที่ได้มาเหลือ ๘๕ ล้านบาท และงบนี้ไม่รวมเครื่องมือแพทย์ใดๆ มีแต่เฟอร์นิเจอร์บิลด์อินบางรายการรวมอยู่
ชัดเรื่องงบขึ้นแล้วก็เหมือนจะเริ่มกระบวนงานได้เลย แต่กลับไม่ใช่ ผู้มีประสบการณ์มาก่อนสอนว่า ใจเย็นๆ ให้รอเงินถึงจังหวัดจึงเริ่มตีระฆังเหง่งหง่างลงมือกันได้ ระหว่างนี้ให้เดินเรื่องเกี่ยวกับเอกสารต่อไป
ขั้นตอนต่อมา จึงเป็นกระบวนงานทำคลอดเอกสารเพื่อหาตัวผู้เป็นหมอทำคลอดตึก กว่าเดือนเชียวแหละเอกสารฉบับจริงจึงเรียบร้อยพร้อมใช้งาน ไม่น่าเชื่อใช่ไหม
ผู้ใหญ่ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องไม่ได้แชเชือนยื้อเวลาการทำหน้าที่ คนทำหน้าที่ชงเรื่องก็ไม่ได้แชเชือนสิ่งที่รับหน้าเสื่อจัดการ เวลาที่ใช้ไปกว่าเดือนเป็นข้อกำหนดไว้ในระเบียบราชการ ใครที่มีโอกาสมาเกี่ยวข้องในภายภาคหน้ารู้กันเอาไว้ จะได้ไม่เสียอารมณ์
เอกสารคลอดแล้ว คนทำเอกสารยังตัดสายสะดือไม่ได้ ต้องปุเลงๆ อุ้มเอกสารไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการก่อสร้างในกระทรวงสาธารณเป็นหมอร่วมตรวจ
ที่ใช้คำว่า “อุ้ม” ก็ด้วยเอกสารที่ว่ากองโต ลองนึกภาพเอกสารที่รอถ่ายสำเนาที่สุมกระดาษไว้ในกอง ๔ รีมดู เอกสารที่นำไปกระทรวงฯก็กองขนาดนั้นแหละ
ที่ใช้คำว่า “ปุเลง” ก็เพราะเมื่อชงเรื่องให้ผู้ใหญ่ในจังหวัดลงนามตามลำดับชั้นครบแล้ว ในวันเดียวกันทีมที่รับมอบหน้าที่ให้ “อุ้ม” ไปก็ต้องออกเดินทาง ใช้รถตู้รพ.นี่แหละขนไป
เมื่อถามเจ้าหน้าที่ว่าเหตุไฉนไม่บินกันไปจะได้โหลดเอกสารได้และเดินทางกันสบายๆ ก็ได้รับคำตอบว่า เอกสารที่นำไป หลุดออกนอกสายตาเมื่อไร มีเรื่องให้เขาเดือดร้อนได้ ฟังแล้วในใจร้องโอ้โฮ แปลว่า แม้แต่เวลานอนก็ต้องนอนเฝ้าด้วยซิ ได้รับคำยืนยันว่า ใช่แล้วหมอ อึ้งไปเลย
หลังจากเอกสารโดนอุ้มกลับมา เรื่องราวด้านธุรการก็เดินหน้าต่อไปอีกขั้น ตัดสายสะดือทำคลอดเอกสาร แล้วก็ออกประกาศประชาสัมพันธ์ให้หมอทำคลอดตึกทั่วราชอาณาจักรรู้และพาตัวมาให้เลือก ขั้นตอนนี้กินเวลาไปอีกร่วมเดือน ( การประกาศประชาสัมพันธ์นี้ ได้ยินเขาเรียกกันว่า “ปิดประกาศการสอบราคา” )
รอบแรกที่ประกาศออกไปไม่มีหมอมาให้เลือก รอบต่อมาจึงมีมาสมัคร ๓ ราย เห็นหน้าหมอแล้วเลือกเลยไม่ได้ มีทีมงานเข้ามาเลือกกัน (เขาเรียกทีมนี้ว่า “คณะกรรมการสอบราคา” )
สิ่งที่ทีมต้องทำ คือ ตรวจสอบคุณสมบัติและความน่าเชื่อถือของหมอแต่ละคน กลั่นกรองความคิดในการทำคลอดของหมอ ทวนสอบและตรวจสอบความเป็นไปได้และรายการงานทำคลอดที่หมอเสนอมา ตรวจสอบเปรียบเทียบกับงื่อนไขการทำคลอดตึกที่รพ.ต้องการ (ความต้องการนี้อยู่ในรูปของเอกสารที่เรียกกันว่า “สเป็คและเอกสารถอดแบบก่อสร้าง”)
ทีมมีสมาชิก ๖ คน หนึ่งเป็นโยธาจังหวัด อีก ๔ คนเป็นคนในรพ.เอง คนที่ ๖ เป็นลูกหม้อเก่าที่มีความเชี่ยวชาญระเบียบพัสดุ เคยมีประสบการณ์ในยุคอื้อฉาวที่เจ้ากระทรวงต้องคดี โดนจับตัวได้ขณะไปออกกำลังกาย
คกก.ต้องใช้สมาธิอย่างมากในวันทำหน้าที่รอบแรก หน้าที่ตรวจตรา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ ตีความหมายนัยยะของอักขระในเอกสาร กลั่นกรองและตัดสินใจประโยชน์ที่ราชการพึงได้ ไม่พึงเสีย เอกสารทุกๆหน้า ทุกๆตัวต้องผ่านตาให้หมดและตัดสินใจภายในเวลา ๒ชั่วโมง เหล่านี้คืองาน
ลองนึกภาพคนแก่ที่ต้องอ่านเอกสารแต่ละตั้งซึ่งหนากว่า ๑๐๐ หน้าว่าท้าทายความเร็ว ความละเอียด ความรอบคอบกันแค่ไหน แล้วอ่านความรู้สึกของหมอที่มาสมัครทำคลอดตึกและรอให้สัมภาษณ์ในเวลาเดียวกันดูเอาเถิด
อ่านเอกสารจบแล้ว หากตัดสินใจให้ผ่าน หน้าที่ก็จบลง ลงนามรับรองเอกสารทุกหน้าแล้ว เอกสารก็จะถูกอุ้มไปให้กระทรวงฯอีกรอบ เพื่อร่วมตรวจทาน เวลาที่ทีมยุติงานคือเวลาอุ้มเอกสารทั้งหมดไป ( แปลว่ามีการปุเลงๆอุ้มเอกสารไปกรุงเทพฯและมีการนอนเฝ้ากันอีกรอบ)
ผลตรวจทานจากกระทรวงฯออกมาแล้ว ใครที่มาสมัครทำคลอดจึงจะรู้ว่าได้ผ่านเข้าไปคัดตัวอีกรอบหรือเปล่า อืม ขั้นตอนที่เกิดขึ้นเหมือนการคัดเลือกนางงามยังไงยังงั้นเลย
20 พฤษภาคม 2555
« « Prev : ทุกอย่างมีวาระ มีชะตา
Next : ตามลม๒ (๖) : แล้วก็มีประเด็นให้ต้องใคร่ครวญ » »
ความคิดเห็นสำหรับ "ตามลม๒ (๕) : มีเรื่องราวของ “อุ้ม” ที่ทำให้ “อึ้ง”"