ของแถมอย่างนี้…มาจากการเป็นยักษ์..ใช่มั๊ยนี่

อ่าน: 1304

เมื่อรู้จักฤทธิ์เดชของฟอสฟอรัสกับสุขภาพ ก็เริ่มสนใจว่านอกจากในดินและในน้ำแล้ว ฟอสฟอรัสไปแฝงตัวอยู่ที่ไหนอีกบ้าง ก็ไปได้ข้อมูลมาจากคำเตือนของทางการทหารเรือ ว่า มีการใช้ฟอสฟอรัสในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ด้วย โดยเคลือบไว้ที่ผิวหน้าภายในของหลอดรังสีแคโทด

ในยามที่น้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง จึงน่าสนใจว่า นอกจากฟอสฟอรัสแล้ว มีโลหะหนักอะไรอีกในวงจรการผลิตที่มีผลต่อสุขภาพได้เมื่อเจอน้ำ

ไปรวบรวมก็พบว่ามีหลายตัวทีเดียวเชียว แต่ละตัวเป็นสารที่มีความสำคัญเมื่อปนเปื้อนในน้ำด้วย โดยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณภาพน้ำดีกลายเป็นน้ำเสีย

ตะกั่ว เบริลเลียม แคดเมียม ปรอท นิกเกิล คือ สารที่ปรากฏตัวอยู่ในวงจรผลิตคอมพิวเตอร์ ส่วนต่างๆเหล่านี้ แผงวงจร แบตเตอรี่ หลอดรังสี

พิษของสารเหล่านี้ บ้างเกิดต่อผิวหนัง ทางเดินอาหาร บ้างสัมผัสแล้วเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด  ทำให้ไต ระบบประสาทกลาง ระบบสืบพันธุ์ มีปัญหา บ้างทำให้กระดูกผุกร่อน สะสมในบรรยากาศแล้วมีผลต่อดิน พืช สัตว์ จุลินทรีย์  บ้างมีผลทำให้เด็กเกิดมาพิการได้

อ่านข่าวเมื่อวานนี้ แล้วเจอว่า บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิ้ลก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมด้วย อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่บริษัทนี้อิงอาศัยฐานผลิตในเมืองไทยคือ ฮาร์ดดิสก์ และชิ้นส่วนอะไหล่คอมพิวเตอร์

บริษัทที่ผลิตฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ของโลกก็มีโรงงานอยู่ในเมืองไทยถึง 2 โรง ตั้งอยู่ที่บางปะอินและนวนคร และโรงงานทั้งหมดนี้ต้องปิดเพราะน้ำท่วม

ข่าวบอกว่าฐานการผลิตนี้มีสัดส่วนถึง 60% ของการผลิตของโลก เมื่อรู้ข้อมูลนี้ก็สะดุ้งเฮือก ยอดผลิตขนาดนี้จะมีชิ้นส่วนที่จมน้ำอยู่เท่าไร ที่กลายเป็นขยะอีเล็กโทรนิกส์นะ

อเมริกามีคนใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุดในโลก มีขยะอีเล็กทรอนิกส์ที่ต้องฝังกลบ 4.6 ล้านตันเมื่อกว่าสิบปีก่อน ของเหลือใช้ที่มีปริมาณมหาศาลขนาดนี้ บอกถึงจำนวนการใช้ชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาล นี่แค่ประเทศเดียวนะนี่

วันนี้ โรงงานจมน้ำไปแล้ว ของดีๆที่ไม่เคยให้โทษกลายเป็นขยะแช่น้ำ โลหะหนักจะออกมาเพ่นพ่านขนาดไหนกัน นี่ยังไม่รวมโรงงานอื่นๆที่มีคอมพิวเตอร์ใช้ และคอมพิวเตอร์ตามบ้านเรือนนะเออ

นึกภาพของลำน้ำที่พากันไหลลงมายังเมืองหลวง และภาพน้ำนองสีดำคล้ำ แล้วหวาดเสียวกับอนาคตของน้ำในทะเลอ่าวไทย นึกไกลไปถึงสัตว์น้ำที่เคยมีงานวิจัยไว้ที่ทะเลมาบตาพุด ที่พบมีโลหะหนักในเนื้อของมัน ก็มองเห็นความเดือดร้อนของผู้คนอีกรอบ

โรคจากโลหะหนักเหล่านี้ ไม่มียารักษาจำเพาะเจาะจงเหมือนเชื้อโรคด้วยซิ  ใครที่แช่น้ำนานๆ ระวังการมีบาดแผล ระวังผิวหนังเน่าเปื่อยกันไว้ ลุยน้ำแล้วรีบทำให้เท้าแห้ง ตัวแห้ง เท่าที่จะเป็นไปได้ ให้เร็วที่สุด เพื่อรักษาผิวหนังให้แข็งแรงไว้

อืม ความสัมพันธ์ในห่วงโซ่ธรรมชาติ เมื่อมองแบบองค์รวม แยกขาดจากกันไม่ได้เลย จะเริ่มตรงไหนก็แล้วแต่ กระเทือนไปทั้งโลก เมื่อมันมาสัมพันธ์กับความอยู่รอดของผู้คน โดยเฉพาะเมื่อธรรมชาติล้มยักษ์

ศึกครั้งนี้ คนไทยไม่ได้รบอยู่กับธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังรบอยู่กับอนาคตของแต่ละปัจเจกด้วย  วันนี้เริ่มเห็นความน่ากลัวอีกมุมของโลกอนาคตที่จะมีผู้สูงอายุจำนวนมาก และเป็นห่วงกับศึกในใจของปัจเจกเมื่อน้ำลดมากๆเลย

แทนที่จะออกข่าวว่าน้ำจะท่วมขังเป็นเดือนๆ ช่วยกันชี้ชวนให้ผู้คนตั้งหลัก วางแผนจัดการชีวิตหลังน้ำลดทีละเปลาะๆทีละเปลาะดีกว่าน่า  อาหารการกินก็ช่วยกันไปเถอะ แต่อย่าให้ขาดวง “โสเหร่” ที่ชวนให้คนได้ใช้ความคิด ดิ้นหลุดจาก “ความกลัว” ด้วยละ

เติมตรงนี้ลงไปได้ จะช่วยลดคนที่คิดทำร้ายตัวเองหลังน้ำลดได้เยอะเหมือนกันนา

« « Prev : ตามลม (๘๕) : เจ้าสิ่งประดิษฐ์ที่ใช้อยู่นี้…ลงตัวเรื่องอะไร

Next : ตามลม(๘๖) : โอ๊ะ มีเจ้าสิ่งนี้ด้วยรึ….ใคร่ครวญเรื่องตะกอนให้รอบคอบอีกหน่อยเหอะ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 ตุลาคม 2011 เวลา 6:57

    เจ้าของกิจการซ่อมรถที่บางกอก มีแผลที่เท้าแล้วไปเดินย่ำน้ำ กลับมาป่วยเป็นไข้ แผลบวม แค่3วัน ก็เอามาเผาที่บ้านนอก พี้น้องร้องไห้เป็นเตาเผา ถกกันว่า โรคอะไรวะ ทำไมมันตายปุบปับอย่างนี้ สาเหตุคงมาจากที่หมอเจ๊เขียนนี่เอง อิ

  • #2 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 ตุลาคม 2011 เวลา 22:35

    คนป่วยที่พ่อครูว่า น่าจะติดเชื้อจากฉี่หนูมากกว่าค่ะ อาการจากโลหะพิษส่วนใหญ่จะเกิดกับระบบประสาทมากกว่า มีโรคจากฉี่หนูอีกตัวที่คนไม่ใคร่รู้จักกัน เป็นแล้วจะเกิดไตวายเฉียบพลันแล้วก็ตายในเวลาอันสั้น คนที่พ่อครูเล่าน่าจะเป็นโรคอย่างหลังนี้นะคะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.036738157272339 sec
Sidebar: 0.1457040309906 sec