ตามลม(๕๔): เปิดใจ”รับรู้คุณค่าของคน” “ซื่อตรงต่อความรู้สึก” จึงได้ใจคนมา

อ่าน: 1265

ภาพทั้งหมดที่ผ่านสายตา(มีทั้งภาพนิ่งและวิดิโอ) ช่วยสร้างความเข้าใจเหตุการณ์และทำให้พวกเขาเห็นความเกี่ยวข้องกับสถานที่ทั้งหมดที่ผ่านมาของตัวเองได้ชัดขึ้น

บอกพวกเขาไปด้วยว่าภาพที่เห็นบอกเจตนาว่าพวกเขาสนใจร่วมแก้ปัญหาด้วย สิ่งที่นำมาถ่ายทอดมีแง่มุมอยู่แล้ว

บันทึกเหตุการณ์ที่มีให้เห็นประจักษ์ตาเป็นพยานอย่างดีว่าใครบ้างที่ลงมือช่วยแก้ปัญหา ใครบ้างยังละเลยสิ่งที่ควรลงมือ และช่วยแสดงว่าปัญหาแก้แล้วยังคงอยู่เพราะเป็นเรื่องยาก

เล่าไปก็ขอบคุณใครบางคนในกลุ่มไปด้วย บอกให้ใครบางคนในกลุ่มรับรู้ด้วยว่าเห็นความยากลำบากในงานของเขานะ เห็นความอุตสาหะในการแก้ปัญหาตามความสามารถที่เขาคิดว่าเขามีอยู่อย่างเต็มที่นะ เห็นสิ่งที่เขาแบกความรับผิดชอบของอนาคตอยู่ด้วยนะ

เพราะว่าเห็นสิ่งเหล่านี้นี่แหละ จึงเข้าใจความรู้สึกที่เขาเผชิญระหว่างทำงาน และอยากหาทางเลือกที่ไม่ทำให้เขาต้องพาตัวเข้าไปทำงานซ้ำซากใต้ตึกที่มีสารพิษปนอยู่  อยากบอกถึงความยากที่รับรู้เพื่อจะได้ไม่บุ่มบ่ามตัดสินใจ อยากให้น้ำหนักการตัดสินใจอิงกับผลลัพธ์ทุกขณะ

และก็เห็นด้วยว่าในความยากของปัญหาแล้วแก้เองไม่ได้ พวกเขาเองก็มีการแตกคอกัน ที่แตกคอก็มิใช่รังเกียจงาน แต่รังเกียจและเครียดกับความไม่สำเร็จของตัวเองอันจะเกิดมาจากมือไม่ถึงแต่ต้องแค่นๆทำ จึงไม่สุขใจที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับมัน

คุยเปิดใจไป ชี้มุมมองไปในความเกี่ยวข้องทางกฎหมายที่พวกเขาอาจจะมีเอี่ยว “การละเลยการปฏิบัติหน้าที่” ชวนพวกเขาให้กลับมามองมุมต่างไปจากเดิมไปด้วย

ชี้ชวนว่า ที่จริงแล้วทุกคนอยู่ข้างเดียวกัน เมื่อเดินไปด้วยกัน ช่วยกันคิดไปทำไป แต่ละคนช่วยได้หมด

ช่วยในจุดงานของตนเองอย่างง่ายๆนี่แหละ ยังไม่ต้องคิดเรื่องใหญ่ๆ ไม่ปล่อยเวลากับการ “รอคิด”  ลงมือทำเรื่องที่รู้ว่าง่ายและทำได้เลยนี่แหละ เช่น

ต้นน้ำใช้สารชีวภาพในการจัดการความสกปรก ลดใช้ผงซักฟอก ลงมือกำกับงานจ้างให้เข้มข้นขึ้น

ตรวจงานจ้างไม่ให้สร้างขยะอินทรีย์ไว้ในคูให้เป็นปัญหา ช่วยกันหาวิธีใหม่ๆมาจัดการขยะในพื้นที่ใกล้คู จัดการขยะในคูไม่ให้ขวางทางน้ำไหล

ลดภาระงานของคนงานด้วยการช่วยลดภาระความสกปรกของคูด้วยวิธีต่างๆที่ผ่านมาแล้ว

จัดระบบงานแก้ปัญหาระยะสั้นเข้ามาต่อเชื่อมให้สิ่งที่สำเร็จเล็กๆไปแล้วยังคงอยู่ ฯลฯ

เมื่อเรื่องเล่าจบลง ความอึดอัดที่สัมผัสได้ก่อนเริ่มคุยเปลี่ยนไป ท่าทีไม่สนใจ ไม่แยแส วางปึ่ง ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมของบางคนเปลี่ยนไป ทุกคนสนใจกับเรื่องราวและแสดงท่าทีไตร่ตรองใคร่ครวญความเกี่ยวข้องของตนมากขึ้น

ก่อนจากกัน คำตอบรับความร่วมมือก็มากขึ้น ข้อมูลที่ยังขาดพร่องเกี่ยวกับตึกเจ้าปัญหาที่บางคนเคยปิดปากเงียบอยู่เรื่อยมาหลุดออกจากปาก ท่าทีของความใส่ใจจะไปช่วยค้นหาข้อมูลที่ยังพร่องในพื้นที่จริงของทุกคนเพิ่มมากขึ้น

แถมด้วยมีคนเสนอตัวช่วยจัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับทำงานต่อในพื้นที่ให้ด้วยความเต็มใจ และได้ข้อตกลงร่วมว่าจะกลับไปช่วยเก็บเกี่ยวเรียนรู้ ทำความรู้จักทางน้ำในระบบน้ำเสียที่หลุดไปจากบันทึกความจำของทุกคน มาเติมเต็มส่วนพร่องให้ได้มากที่สุด เพื่อเตรียมข้อมูลไว้ปรึกษาเรื่องระบบ drainกับที่ปรึกษาใหญ่ต่อไป

ในเวลากว่าชั่วโมงที่เปิดใจบอกเรื่องราวที่คิดแล้วทำ ได้ผลตอบรับที่ทำให้ดีใจ  คราวนี้ได้คนคืนมาร่วมทีมอย่างสมัครใจเพิ่มขึ้น 2 คน ถือว่างานคืบหน้าไปก้าวเล็กๆอีกหนึ่งก้าวแล้ว

ขอบคุณกระบวนกรทั้งหลายที่เป็นครู และครูทั้งหลายในหลักสูตร สสสส.2 ที่ช่วยฝึกทักษะต่างๆให้นะคะ

« « Prev : ตามลม(๕๓): ชี้มุมเอี่ยวทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงให้ทีมงานรับรู้

Next : ตามลม(๕๕) : ตามรอยระบบท่อน้ำทิ้ง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ตามลม(๕๔): เปิดใจ”รับรู้คุณค่าของคน” “ซื่อตรงต่อความรู้สึก” จึงได้ใจคนมา"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.021915912628174 sec
Sidebar: 0.13783001899719 sec