ความในใจถึงผู้พิทักษ์

โดย สาวตา เมื่อ 2 พฤศจิกายน 2008 เวลา 13:25 ในหมวดหมู่ เล่าสู่กันฟัง #
อ่าน: 1765

คุณกระทิงที่รัก ฉันอยากจะบอกคุณว่า คุณเป็นคนที่มีค่าที่ทำให้ชีวิตของฉันในวันนี้เป็นชีวิตที่ดี มีฐานที่มั่นคง มีการเรียนรู้ที่มีค่าเกิดขึ้นตลอดมานับแต่วัยเยาว์ คุณเป็นคนที่น่ารัก แม้ในเวลาที่คุณดุขึ้นมาและน่ากลัวสำหรับคนอื่น และฉันก็รู้ว่าด้วยเหตุที่คุณคอยดูแลฉันเป็นอย่างดี จึงทำให้คุณกระทำลงไปอย่างนั้น ฉันขอขอบคุณอีกครั้งด้วยความรู้สึกปิติเป็นอย่างยิ่งในความผูกพันต่อฉันที่คุณมีให้ ฉันอยากเห็นคุณเป็นคนที่น่ารักกว่านี้ เป็นคนดุที่ยังคอยดูแลฉันอยู่ต่อไป จึงขอชวนให้คุณมาช่วยกันดูแลกันด้วยมิตรภาพที่มีคุณค่าอย่างอ่อนโยนและปราศจากความกลัวจากใครๆ มาช่วยกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยร่วมดูแลคนอื่นไปพร้อมๆกับฉัน เป็นผู้อยู่คู่เคียงข้างกับฉันอย่างใจปรารถนาเช่นเดิมในมิติใหม่ที่ทำให้โลกสดใส ผ่อนคลาย และมีความสุขสงบไปพร้อมๆกันกับคนรอบข้างของพวกเรา

 

ข้อความข้างต้นคือจดหมายน้อยที่ฉันเขียนถึงผู้พิทักษ์ของฉันที่ฉันนำเอาไปอ่านให้น้องแวนฟัง ตอนที่เล่าก็แปลกใจที่เห็นน้องแวนน้ำตาร่วงค่ะ  แต่ตอนที่มาเขียนบันทึกนี้ไว้ ความแปลกใจดูจะยิ่งเพิ่มขึ้น แวบไปถึงคำพูดที่น้องแวนพูดไว้ตอนหนึ่งว่า หนูคิดว่ามันมีบางอย่างชักนำให้มาเจอะเจอกับเรื่องบางอย่าง ซึ่งในตอนนั้นฉันแลกเปลี่ยนกับเธอว่า ชะตาชักนำไงเล่า มันจึงมีคำพูดว่า ดวงใครดวงมันขึ้นมา ที่แวบขึ้นมาก็เพราะว่า เธอเป็นกระทิงที่ให้ผู้พิทักษ์คือหนูเป็นผู้ปกป้องเธอค่ะ นี่กระมังคือความหมายของคำว่า แปลงร่าง ที่เฮียรูปงามเคยพูดเข้าหู

 

มีเรื่องที่อยากจะบันทึกไว้อีกว่า แลกเปลี่ยนไปรอบสองในช่วงของการเรียนรู้ผู้พิทักษ์ว่าอย่างไร ที่ฉันบอกว่าฉันกำลังทบทวนว่าตัวฉันเป็นสัตว์ทิศไหนนั้น ด้วยว่าก่อนมาที่นี่นั้นฉันรู้แล้วว่าฉันใช้ความเป็นกระทิงในการทำงานเด่นมากกว่าสัตว์อื่น แล้วทำให้ฉันอึดอัดในใจ หลังจากที่รู้ฉันรู้สึกว่า ในตัวฉันมีคนอีกคนที่ฉันกำลังดูแลกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดู เวลาเขาไม่สบายใจ ฉันก็ปลอบใจเขาเหมือนแม่ที่ปลอบลูกยังไงยังงั้น และนี่คืออีกเหตุผลที่ฉันอยากรู้ว่า มีคนอื่นรู้สึกเหมือนกันไหมแล้วทำให้มาที่นี่  และหลังจากเล่าเรื่องนี้นี่แหละที่ภาคบ่ายน้องอึ่งเขาบาย ไม่ยอมจับคู่ทำกิจกรรมด้วย ส่วนจะใช่เรื่องหลักหรือไม่ น้องอึ่งเขาบอกว่า รอไว้เฉลยในกิจกรรมต่อๆไป  พอวันนี้รู้ว่า เขากลัว ฉันก็เลยกอดเขาตอนไปวัดค่ะ แล้วก็ดูเหมือนว่า สองสาวจะมีความลับอะไรที่มาแซวอยู่ แย้มๆมาแต่ก็ไม่ชัด ใครที่อยากรู้ก็คงต้องติดตามต่อไปกับคำเฉลยของน้องอึ่งค่ะ

 

เล่าเรื่องตัวเองแล้วก็ขอเอาเรื่องน้าอึ่งมาเผาต่อซะหน่อย เรื่องที่จะเอามาเผาก็เป็นเรื่องของจดหมายถึงผู้พิทักษ์ที่น้าเขาเขียนไว้ซะหวานแหววค่ะ ขอเล่าเลยนะว่าเขียนไว้อย่างไร

 

ถึงเธอที่รัก ฉันดีใจที่มีวันนี้และที่สำคัญคือฉัน……”มีเธอ เคียงข้างเสมอ ไม่ว่าฉันจะสุข สนุกสนาน ร่าเริงเบิกบาน หรือแม้กระทั่งการจมอยู่ในห้วง แห่งความทุกข์ ห่วงที่ผูกกันไว้อย่างมีพันธนาการตราบที่เวลาได้ผ่านไปอย่างช้าๆ เราจะบอกกันเสมอว่าอย่าให้มีสิ่งใดที่เป็นพันธะทำให้จินตนาการของเราต้องขาดลง การดำเนินอย่างเคียงคู่กันนั้นย่อมมีอิสระ อย่าได้ให้มีสิ่งใดขวางกั้น เราเคยเดินเคียงข้าง ขึ้นเขาลงห้วยช่วยกันอย่างไร้สติมาก็มาก เราต่างโทษกันเสมอว่าเธอว่า ฉัน แต่กาลเวลาได้ช่วยให้เราผูกพันอย่างอิสระ ด้วยวัยทำให้เราอยู่กันด้วยเหตุผล ฉันแยกเธอออกจากฉัน เธอแยกฉันออกจากเธอ เรา มองเห็นกันและกันมากขึ้น ต่างก็บอกกันว่า ขอบคุณที่มีวันดีที่เคียงข้างกัน ฉันขอบคุณเธอทุกครั้ง ทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที ที่อยู่กับฉันเสมอ ฉันรักเธอ…แต่ฉันต้องบินไป” ขอบคุณหัวใจดวงน้อยๆของฉันที่อยู่เคียงข้างกันเสมอมา ขอบคุณ….ขอบคุณ….ขอบคุณ…..แล้วเราจะไม่จากกัน

 

ขอบันทึกกิจกรรมสี่ช่องของวันแรกไว้อีกหน่อย มีคำอธิบายว่า ให้ใส่เรื่องราวที่คนภูมิใจใส่ลงในช่องที่สามก่อน แล้วใส่เรื่องที่จี๊ดใครใส่ลงในช่องที่สอง  เวลาที่ให้ใส่ความเห็นที่ตรงข้ามกันกับทั้งสองช่องลงในช่องหนึ่งและสี่แล้ว ผู้คนจะเรียนรู้มุมบังตาความเป็นตัวตนจากช่องสี่ และเรียนรู้ข้อมูลคุณภาพของตัวตนจากช่องหนึ่งและสามค่ะ

 

 

« « Prev : วันที่สองของกิจกรรม

Next : วันที่สามของกิจกรรม » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2008 เวลา 17:46

    บันทึกหมอเจ๊นี่ เป็นแนวทางให้คนที่เริ่มทำงานกับตัวเองได้ศึกษา ดีมากๆ ขอบอก

  • #2 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2008 เวลา 10:48

    จะพยายามถอดสิ่งที่รับรู้ของตัวเองออกมาแลกเปลี่ยนค่ะพี่ ก็เราสัญญากันไว้ว่าจะดูแลกันตั้งแต่ตอนนี้ไง

  • #3 sompornp ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2008 เวลา 14:16

    หลังจากที่สมองว่าง
    ถึงบทนี้ เวลานี้
    เริ่มมีคำถามให้ใคร่ครวญ
    การถอดบทเรียน แล้วเล่าสู่กันฟัง
    เป็นสิ่งที่ดี
    ไม่อยากให้เกิดความ “อยาก” แต่อยากให้เกิดความ “อยาก”
    น้าเริ่มกวนในใจอีกแล้ว

  • #4 หมอเจ๊ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2008 เวลา 23:39

    #3 กลยุทธที่ใช้คือ ปล่อยอารมณ์ไปกับเพลงให้มีสติ แล้ววางสักครู่ ก่อนเริ่มฟัง รับรู้ คิด ใคร่ครวญ หน่วง(แขวน) สรุป(รับรู้)
    รู้จักบ้างมั๊ยจำแบบไม่จำ เคยผ่านมาแล้วนี่นา นึกถึงตอนย้อนรอยเด็กน้อยดูนะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.426518201828 sec
Sidebar: 0.68089985847473 sec