ลานบ้านชลบถพิบูลย์

มิถุนายน 2, 2009

พัฒนาการของนักเรียน(แบบ)

Filed under: Uncategorized — แท็ก: , , — ออต @ 18:16

การลอกภาพวาดกันของเด็กไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใดโดยเฉพาะเด็กที่ผ่านโรงเรียนที่ครูใช้คะแนนเป็นตัววัดผลการเรียนของนักเรียน  นักเรียนที่วาดรูปได้คะแนนน้อยย่อมหันไปลอกภาพวาดของเด็กที่ได้คะแนนมากเป็นธรรมดา  แต่ที่ HUG SCHOOL ครูออตไม่ได้เน้นคะแนนเราจึงมีแนวทางที่จะเปลี่ยนจากเด็กช่างลอกเลียนแบบมาเป็นเด็กนักสร้า้งสรรค์ อย่างเช่นกรณีน้องจิ่นนี่และน้องมิ้น

เด็กทั้งสองคนมีพื้นฐานจากโรงเรียนเดียวกันคือเรียนห้องเดียวกัน ครูสอนคนเดียวกัน มาเรียนที่ HUG SCHOOL พร้อม ๆ กันเพราะผู้ปกครองต่างชวนกันมา  เมื่อมาแรก ๆ ทั้งสองคนเปรียบเสมอืนคนคนเดียวกัน ไม่ยอมหนีไปไหนคนเดียว เมื่อจะไปไหนต่อไหน ทำอะไรก็ต้องไปด้วยกันไม่ยอมห่าง รวมทั้งการเรียนศิลปะด้วย

เด็กทั้งสองคนต่างกันตรงที่น้องมิ้นเป็นนักสร้างสรรค์ มีจินตนาการและอดทนมีสมาธิ แม้จะมีเรื่องงอแงมาจากบ้านแต่เมื่อมาถึงห้องเรียนศิลปะน้องมิ้นจะปรับตัวเร็วมากและสนุกสนานในการเรียนศิลปะกับเพื่อน ๆ  การวาดการทำงานมากในครั้งแรก ๆ เราจึงเห็นน้องมิ้นทำงานเสร็จเรียบร้อยสวยงาม สร้างสรรค์และของานกลับทุกครั้ง

น้องจินนี่เป็นเด็กหญิงน่ารักพูดน้อย  อาการติดเพื่อนเป็นพฤติกรรมแรก ๆ ที่น้องจินนี่แสดงออกให้ครูเห็นนอกจากนั้นการลอกเลียนงานของเพื่อนอย่างน้องมิ้นจึงมีให้ครูออตเห็นบ่อย ๆ เมื่อแรกหากน้องมิ้นวาดปลา น้องจินนี่ก็จะวาดปลา  น้องมิ้นวาดบ้าน น้องจิ่นนี่ก็จะไม่วาดอย่างอื่นนอกจากนั้น การลอกเลียนงานน้องมิ้นชัดเจนจนภาพจะกลายเป็นภาพเดียวกัน  ส่วนมิ้นเองก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะลอกงานของตนเอง ยังคงมุ่งมั่นทำงานต่อไป  อีกอย่างที่เห็นชัดคือสมาธิในการทำงานของจิ่นนี่มีน้อย วาดได้นิดก็เหนื่อย ปวดแขน เมื่อยและสารพัดที่อ้าง  สุดท้ายก็ขอมานั่งใกล้ ๆ ครูออตและเล่าสรรพเหระตามประสาเรื่องที่น้องจินนี่อยากเล่า

ครูออตเล่าสถานการณ์นี้ให้ผู้บริหารฟังอยู่เรื่อย ๆ และพยายามเปลี่ยนนักลอกเลียนมาเป็นนักสร้า้้งสรรค์  กิจกรรมประการหนึ่งคือการฝึกให้นักเรียนของเราคิดเยอะ ๆ (ที่ไม่ได้หมายถึงคิดมาก)  การคิดเยอะ ๆ เท่ากับน้องจิ่นนี่มีทรัพยากรในสมองมาก ๆ ดังนั้นช่วงแรกจึงไม่ได้เน้นที่ภาพขนาดใหญ่แต่ให้วาดบนกระดาษ a4 ไม่เน้นการลงสีแต่เน้นลายเส้น

ที่นั่งระหว่างทั้งสองคน ครูออตก็พยายามเปลี่ยนแปลงให้นั่งตรงข้ามแทนที่จะนั่งเรียงกัน อย่างน้อยก็ลดโอกาสของการเลียนแบบภาพของกันและกัน ซึ่งการเปลี่ยนตำแหน่งการนั่งทำงานก็นับว่าได้มากเพราะทั้งสองคนเปลี่ยนคู่สนทนาเป็นคนอื่นนอกจากเพื่อนตนเอง อิทธิพลส่งผลต่อกันจึงน้อยลงไปมาก

ในการเรียนกลาง ๆ คอร์สเราพบว่าสถานการณ์เปลี่ยนเล็กน้อย แต่อยู่ในความคาดหวังที่ดีของครูเพราะน้องจิ่นนี่มีพฤติกรรมบางอย่างเปลี่ยนไป แม้ไม่ชัดเจนแต่ก็เป็นสถานการณ์ที่ดีขึ้นจากแรกเริ่มเรียน  การวาดของจิ่นนี่แม้จะลอกบ้างแต่ก็เป็นการปรับรูปทรงให้แตกต่างเช่นในทะเลน้องมิ้นวาดปลา น้องจินนี่ก็เปลี่ยนเป็นวาดเต่า,น้องมิ้นวาดบ้านน้องจิ่นนี่จะวาดตึก  สำหรับครูออตแล้วมันเป็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี เพราะแม่รูปทรงจะต่างกันเล็กน้อยแต่รอบ ๆ บ้านที่น้องจิ่นนี่วาด มีอะไรต่อมิอะไรมากมาย

สำหรับคอร์สศิลปะเด็กที่โรงเรียนนี้มีจำนวน  12 ครั้งสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายที่น้องจินนี่กับน้องมิ้นมาเรียน และเมื่อมานั่งดูอย่างพิจารณาครูออตพบพัฒนาการของเด็กนักลอกคนนี้ กลายเป็นนักสร้า้งสรรค์อย่างที่เราต้องตะลึง  ในชั่วโมงนี้รูปวาดของทั้งสองไม่เหมือนกันเอาเสียเลย มิหนำซ้ำน้องจิ่นนี่ทำงานของตนเองเสร็จก่อนใครเพื่อนในห้อง นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ช่วยบอกครูออตว่าน้องจินนี่มีสมาธิมากขึ้นตามลำดับ

(ผลงานในสัปดาห์สุดท้ายของจินนี่)

พฤษภาคม 31, 2009

Expressionism ของเด็กน่ารักพิเศษ

Filed under: Uncategorized — แท็ก: , , — ออต @ 12:55

สกุลงานศิลปะแนว Expressionismเติบโตและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยการนำของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่นาม Edvard Munchผู้ซึ่งปฏิวัติการแสดงออกทางศิลปะที่เน้นการระบายออกของจิตใจภายใต้แรงบีบบังคับซึ่งทะลักออกไม่ได้ด้วยภาวะจิตใจของตนเองซึ่งขาดพลังบางอย่าง ดังนั้นการระบายด้วยการแสดงออกทางศิลปะจึงเป็นสิ่งช่วยศิลปินให้มีความผ่อนคลาย

Expressionism ถือกำเนิดจากแนวคิดการแสดงออกอย่างฉับพลันทันใด ไม่เน้นว่าต้องร่างภาพ ไม่ต้องคิดวางแผนอะไรมาก แต่แสดงออกภายใต้แรงขับภายในของศิลปิน โดยไม่ได้ยึดถือกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับใด ๆ แม้แต่ทฤษฎีสีที่ศิลปินยอมรับเป็นตำราเรียนต่อ ๆ กันมาดังนั้นฝีแปรงจึงดิบ ๆ แรง ๆ

ผลงานของ Edvard Munch

เช่นเดียวกับการสอนเด็กน่ารักพิเศษวันนี้  ครูออตเอาแนวคิดในเรื่องนี้กลับมาสอนเด็กน่ารักพิเศษ โดยให้เขาได้ปลดเปลื้องและระบายสิ่งที่กดดันออกมาเป็นงานศิลปะ ซึ่งน้องมีจินตนาการและความต้องการวาดสิ่งต่าง ๆ มากมายแต่หลายครั้งกลับวาดสิ่งนั้นออกมาเป็นภาพไม่ได้ ความหงุดหงิดนี้บางครั้งทำให้แสดงออกมาแบบกร้าวร้าวอยู่บ้าง  ดังนั้นการให้เขาผลักแรงขับออกมาจึงน่าจะเป็นช่องทางให้เขาได้ผ่อนครายความกดดันลงบ้าง  ไปตามดูการทำงานของเด็กน่ารักพิเศษคนนี้ครับ

ครูออตติดกระดาษไว้บนกระดานเพื่อให้ง่ายต่อการออกลีลาท่าทาง ซึ่งการยืนทำงานทำให้อิสระในการเคลื่อนไหว

แม้จะมีกระดาษ แต่ศิลปินน้อยระบายออกนอกกระดาษทุกครั้ง ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะเขาต้องการพื้นที่ที่ลื่นไหลและอิสระกว้างใหญ่

บางครา พู่กันอย่างเดียวระบายออกไม่ถึงใจ เด็กน่ารักพิเศษของครูออต ขอเปลี่ยนเป็นฟองน้ำแทน อิอิ มีหรือครูออตจะหวง  จัดไปปปปปปปปปปปปปปปปปปปป

ผลงานของเด็กน่ารักพิเศษของครูออตครับ  ตอนแอบถ่ายเวลาทำงานไม่เคยอาย  แต่พอให้ถ่ายกับผลงาน  ผมอายครับ อิอิ อาย อาย อาย

เสร็จภารกิจและผ่อนคลาย ครูออตให้น้องทำความสะอาดวัสดุอุปกรณ์ด้วยตนเอง เพราะในอนาคตต้องช่วยเหลือตนเองให้มาก ๆ ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นศิลปะนิสัย ที่ครูควรคำนึง

เป็นอย่างไรบ้างครับ ห้องเรียนศิลปะสกุล Expressionism ของเรา  ท่านไหนสนใจลุกขึ้นมาวาดรูป เชิญเลยครับ ระบายมันออกมาก่อนที่เส้นเลือดในสมองจะแตก อิอิ

พฤษภาคม 23, 2009

จิ้ม จุ่ม จุด จ๊าบ เจี้ยว จ้าว

เสียงเด็ก ๆ เจี้ยวจ้าวมาแต่ไกล เมื่อผลักประตูเข้าห้องเรียนศิลปะก็ได้รับการตอบรับจากเด็ก ๆ วิ่งกรูเข้ามาทักทายครูกันอย่างสนุกสนาน เด็ก ๆ ที่น่ารักต่างแย่งเล่าเรื่องของตนเองให้ครูฟัง อิอิ ครูออตรับไม่ไหวก็ได้แต่อื้อๆๆ ครับๆๆ หลังฟังพอหอมปากหอมคอแล้ว เด็ก ๆ ก็กระจายกันไปเข้าประจำเก้าอี้ตัวเอง

วันนี้ครูออตคิดถึงงานของศิลปินเอกของโลกที่ใช้การสร้า้งสรรค์งานศิลปะด้วยจุด คือ แทนที่จะใช้การลากเส้นให้เกิดรูปทรงแต่ศิลปินใช้จุดเล็ก ๆ ต่อกันหรือประสานกันเพื่อสร้า้งรูปร่างรูปทรงตามจินตนาการของศิลปินเอง  เราเรียกศิลปะสกุลนี้ว่า  Pointillism แม้แต่ Vincent van Gogh ก็ยังเคยใช้เทคนิคการจุดนี้สร้า้งสรรค์ผลงานของเขา  ศิลปินไทยเช่นธีระวัฒน์  คะนะมะ ก็ใช้เทคนิคนี้ในการทำงานศิลปะของเขา

( Vincent van Gogh วาดภาพเหมือนตัวเองด้วยจุด  ภาพประกอบจาก http://en.wikipedia.org)

(ตัวอย่างผลงานการสร้างสรรค์จุดของธีระวัฒน์ คะนะมะ ศิลปินชาวอีสาน)

การวาดภาพด้วยจุดแบบนี้ หากสังเกตให้ดีเราจะพบว่า มันช่วยฝึกสมาธิได้้เป็นอย่างดี  เพราะเราจะจดจ่ออยู่กับตำแหน่งที่เราจะแต้มจุดหรือแต้มสีลงไปเสมอ ๆ ที่ละจุด ๆ ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า การสร้า้งสรรค์งานจิตรกรรมด้วยจุดนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ มีสมาธิมากขึ้น ดังนั้นวันนี้ครูออตจึงเอาการทำงานแบบนี้มาทดลองให้เด็ก ๆ ทำ

แต่เพื่อให้ทันเวลา  ครูออตเปลี่ยนจากการจุดด้วยพู่กันมาใช้นิ้วมือแทน ซึ่งจะช่วยให้เด็ก ๆ ทำงานเสร็จทันเวลาและพอเหมาะกับสมาธิของเด็กในช่วงวัยนี้เนื่องจากจุดของนิ้วมือใหญ่กว่าจุดพู่กัน  อันจะทำให้งานเสร็จได้ในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงนี้

เมื่ออธิบายเรื่องราวของศิลปินและตัวอย่างผลงานให้เด็ก ๆ เข้าใจคร่าว ๆ แล้ว ครูออตก็ปล่อยให้เด็ก ๆ ลงมือทำงานของตนเองอย่างอิสระ  แน่นอนครูออตเป็นเพียงผู้ดูแล อำนวยความสะดวกในการทำงานของเด็ก ๆ เท่านั้น  การวาดภาพด้วยการจุดด้วยนิ้วมือแสดงผลอย่างชัดเจนเพราะชั่วโมงนี้เสียงเจี้ยวจ้าวในห้องเรียนเปลี่ยนเป็นความเงียบสงบอย่างไม่น่าเจอว่านี่เป็นห้องศิลปะของเด็ก อิอิ

(บรรยากาศการทำงานของเด็ก ๆ ที่ต่างจดจ้องอย่างมีสมาธิอยู่กับผลงานศิลปะของตนเอง)

เด็ก ๆ กับผลงานศิลปะที่ภาคภูมิใจ

พฤษภาคม 17, 2009

เด็ก(น่ารัก)พิเศษของครูออต

วันนี้เป็นวันแรกที่ ผอ. จับเด็กน่ารักพิเศษของผมออกมาสอนต่างหากจากกลุ่มเพื่อน  ด้วยเพราะเธอเป็นเด็ก(น่ารัก)พิเศษนั้นเอง เรื่องนี้เป็นปม(คิดคำอื่น ๆ แทนไม่ออกตอนนี้)ที่เราต้องหาทางออกช่วยกัน ระหว่าง ผู้ปกครอง เจ้าของโรงเรียนและครูผู้สอน ซึ่งกรณีนี้เป็นกรณีแรก ๆของโรงเรียนศิลปะแห่งนี้

น้องบั๊ค เป็นเด็กน่ารักพิเศษของผม ซึ่งมาเรียนศิลปะในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ได้สามสี่ครั้งแล้ว และทุกครั้งที่เข้าห้องเรียนร่วมกับเพื่อน ๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกันก็มักเจอปัญหาเพราะน้องบั๊คจะอาละวาดเมื่อมีเพื่อนร่วมห้องทำเสียงดังหรือมีการกระตุ้นด้วยเสียงดังทั้งที่เพื่อนไม่ได้ตั้งใจ จนเพื่อนในห้องหวาดกลัวและไม่อยากเรียนด้วย

เรื่องนี้เราผู้สอนเข้าใจผู้ปกครองดี  ที่ต้องการให้ลูกเรียนร่วมกับคนอื่น แต่กระบวนการเรียนในห้องซึ่งมีแต่ความหวาดระแวงก็ทำให้เสียบรรยากาศของความคิดสร้า้งสรรค์ได้ เรื่องนี้เราจบลงด้วยการแยกน้องมาเรียนเฉพาะกับผมโดยค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมก่อนส่งกลับเข้าไปเรียนร่วมกับเพื่อนใหม่อีกครั้ง  ซึ่งเรื่องนี้ผู้ปกครองก็ยอมรับได้ เจ้าของโรงเรียนก็ยอมรับได้ส่วนผมเองก็พร้อมอยู่แล้ว

วันนี้จึงเป็นวันแรกที่น้องบั๊คกับผมเรียนด้วยกันสองคน ซึ่งบรรยากาศการเรียนวันนี้เป็นไปตามแผนการสอนที่วางเอาไว้และเกินความคาดหวังเสียด้วยซ้ำ

หลังเรียนด้วยกันมาระยะหนึ่งผมจับ “จุดพิเศษ” ของน้องบั๊คได้สองอย่างคือ น้องชอบทดลองชอบเล่นสี  น้องชอบวาดงานศิลปะบนกระดาษแผ่นใหญ่ ๆ กว้าง ๆ ดังนั้นแนวทางของชั่วโมงแรกจึงเป็นเรื่องของการทดลองและความกว้างใหญ่ ซึ่งผมออกแบบการเรียนรู้โดยการทดลองผลิตสีธรรมชาติซึ่งเคยใช้กับเด็กปกติ  บวกกับการเพิ่มพื้นที่ในการวาดให้ใหญ่ขึ้นพิเศษให้สมเป็นเด็กน่ารักพิเศษ

บรรยากาศวันนี้จึงสนุกสนานและไร้การอาละวาดจากน้องบั๊ค อาจจะมีบ้างที่เธอเล่นแผลง ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรแต่ดีกับน้องเสียด้วยซ้ำที่ได้ทดลองอะไรแปลก ๆ  วันนี้บั๊คได้ทดลองผลิตสี  ผสมสี ระบายสีทั้งนั่งระบาย ยืนระบาย ขึ้นเก้าอี้ระบาย ซึ่งตลอดเวลาเราจะพบรอยยิ้มและหัวเราะตลอดชั่วโมง ส่วนหนึ่งเพราะน้องได้สัมผัสสุนทรีย์ผ่านสัมผัสครบทุกด้าน(ผมคิดเอง)

ตาของน้องได้ดู ชม งานศิลปะ  หูของน้องได้ยินเสียงครกกระทบสากซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตสี  ลิ้นของน้องยังได้มีโอกาสชิมสีที่เราผลิตขึ้นจากอัญชัน  จมูกของน้องยังได้กลิ่นหอม ๆ จากกาแฟที่เราเอามาทำสี กายของน้องยังได้สัมผัสสีสัมผัสงานศิลปะและลงมือทำงานศิลปะเอง ซึ่งล้วนแล้วแต่กระตุ้นให้น้องได้สนุก ๆ สนานในทุกสัมผัสและโดยเฉพาะ “ใจสัมผัส” กับครูใจดีอย่างผม (อิอิ ชมตะเอง)

กิจกรรมการผลิตสี กิจกรรมที่น้องชอบเพราะได้ทดลอง ได้ลงมืือด้วยตนเอง สังเกตรอบยิ้มซิครับ(มีความสุข)

Action การทำงานศิลปะของศิลปินน้อยตั้งแต่ ยืนวาด  ยินบนเก้าอี้วาด  การราดสีที่ผลิตขึ้นด้วยช้อนแทนการวาดด้วยพู่กัน

พฤษภาคม 15, 2009

เฮฮาศาสตร์ โปรแกรมพัฒนาหมา(พันธุ์)บ้า

Filed under: Uncategorized — แท็ก: , — ออต @ 11:52

เมื่อวานหมาที่บ้าน ที่เอาไว้ช่วยดูแลบ้านกัดกันใหญ่

น่าอายเสียด้วยซ้ำเพราะกัดกันท่ามกลางคนผ่านไปผ่านเห็น เขาคงคิดว่าหมาบ้านนี้ไม่สามัคคีกันแน่ ๆ

เรื่องแบบนี้  น่าจะจัดโปรแกรมเฮอาศาสตร์ไปบำบัดก็น่าจะดีขึ้น  บ้านผมจะได้ไม่มีขโมยเข้าบ้าน

เฮ้ย  หรือจะเอาหมาเหล่านี้ไปแลก คุ ดีน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

พฤษภาคม 12, 2009

อุทยานธรรมะและหอศิลป์

Filed under: Uncategorized — ออต @ 15:17

อ่านบันทึกครูบาฯเรื่องอาคารกิจกรรมของชาวเฮฮาศาสตร์ในความฝันของท่าน หากเกิดขึ้นได้จริงก็จะมีประโยชน์มากเพราะจะเป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หรือการทำงานของกระบวนการเฮฮาศาสตร์ เพื่อเสริมกระบวนการของเฮฮาศาสตร์ที่ไร้รูปแบบตายตัว แต่อย่างน้อยก็มีปริมณฑลของเฮฮาศาสตร์ที่เป็นปริมณฑลรูปธรรม

คราวไปเชียงใหม่ไป 3อ แห่งเมื่องเหนือพาไปศิลปสถานของอินสนธ์ วงศ์สามและภรรยาซึ่งก่อตั้งในรูปมูลนิธิ โดยศิลปินสามีภรรยาได้จัดวางแผนผังของศิลปะเพื่อให้เป็นสถานที่แสดงงานศิลปะของท่านและศิลปิน เป็นสถานที่พำนักของศิลปินรับเชิญ สถานที่ทำงานของศิลปินและพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งมีการออกแบบอาคารและผังแม่บทของศิลปสถานได้ดีเยี่ยม

ครูอินสนธ์ วงศ์สาม เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) พ.ศ. 2542  เกิดที่จังหวัดลำพูน ท่านสร้างผลงานทัศนศิลป์ ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และได้รับรางวัลจากงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติในประเภทต่างๆ หลายรางวัล ท่านได้เดินทางไปแสวงหาประสบการณ์ด้านศิลปะด้วยการเดินทาง โดยผลงานที่โดดเด่นเป็นผลงานประติมากรรม

ฝันไป…….หากปริมณฑลของชาวเฮฮาศาสตร์มีจริงได้คง เฮ และ ฮา อย่างแน่นอน  ใครอกหักก็พักบ้านนี้………………..ครับ

พฤษภาคม 9, 2009

วัดพระบาทห้วยต้ม

Filed under: Uncategorized — ออต @ 12:12

@แสง  ส่องสาดกระทบ

แผ่นฟ้าใสรองรับแสงงาม

ก้มกราบอภิวาท

@ยอดแหลมเสียดฟ้าสูง

เลื่อมใส จิตใจสูง ส่งจิต

จิตไหว้ใจสงบ

ขอบพระคุณคนเมืองเหนือที่เป็นผู้คอยโอบอุ้มดูแล…………..

พฤษภาคม 4, 2009

จากบางกอกถึงเชียงใหม่

Filed under: Uncategorized — แท็ก: — ออต @ 9:27

เมื่อคืนกลับมาจากงานระพี ก็กลับขอนอนกับครูบาฯที่ 814 ระหว่างนั่งรถกลับก้นอนหลับมาระหว่างทาง ไม่รู้ถึงเมื่อไหร่ หลังเข้าห้องก้โผเข้าฟูกนอนทันที แน่นอนหัวถึงหมอนแล้วก้เข้าเฝ้าพระอินทร์อย่างไม่ต้องอาบน้ำ ไม่ต้องกินข้าวและไม่คุยกับใคร อิอิ ก็คนมานเหนื่อยงะครับ

วันนี้มีแผนจะเข้าไปเยี่ยมอาจารย์ที่ศิลปากรและธรรมศาสตร์ก่อนจะไปขึ้นรถไฟที่หัวลำโพงเพื่อไปเชียงใหม่ แต่งานนี้ยังไม่แน่นอนเพราะออตยังไม่ได้จองตั๋วเลย แต่คิดว่าคนน่าจะไม่เยอะและเที่ยวไปเชียงใหม่ในรถนอนคงไม่เต็ม แต่ก็อย่างว่าจะไว้ใจอะไรไม่ได้เลยจะเข้าไปให้ถึงหัวลำโพงก่อน 17.00 หากได้ตั๋วก็จะนั่งจิบกาแฟอยู่แถว ๆ นั้น

ที่เชียงใหม่ออตจะไปเป็นกรรมการสอบนักศึกษา ป.โท ที่เขาทำวิทยานิพนธ์เรื่องไหมมัดหมี่ของจังหวัดมหาสารคาม งานนี้อ่านเอกสารสองสามรอบ ยังคงงอยู่ดี อิอิ ไม่รู้ว่าตัวเองยังไม่ถึงหรือนักศึกษาเขียนงง ๆ แต่จะพยายามตั้งใจอ่านอีกสักสองสามรอบก่อนจะเข้าสอบในบ่ายวันที่ 5 พค นี้ที่หอศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

หลังเสร็จภารกิจอาจจะได้ไปเยี่ยมอุ้ย พี่น้อง ญาติ ที่เชียงใหม่ก่อนจะนอนสักคืนแล้วกลับขอนแก่น เพราะเสารือาทิตย์นี้มีสอนเด็ก ๆ ศิลปะที่ฮักสคูลครับ

ไปทานข้าวเย็นเมื่อวาน บวก ข้าวเช้าวันนี้ก่อนนะครับ หิว ๆอิอิ

พฤษภาคม 3, 2009

ระพี 2 งามอย่างที่คิด พิชิตเหนื่อย

Filed under: Uncategorized — แท็ก: — ออต @ 14:30

เพิ่งมีเวลาว่างมาเขียนบันทึกก็ตอนนี้(13.54) เพราะตั้งแต่เค่อนสว่างสาระวนอยู่กับปริ้นแผ่นพับ ตอนเช้าตรู่ก็สาระวนอยู่กับการจัดบูธ สักหน่อยอาจารย์ขจิตก็แวะมาช่วย สักหน่อยลุงแฮนดี้ ป้าจุ๋ม น้องจิ ครูปูและพ่อครูก็ตามมาสมทบ

พ่อทักคำแรกเรื่องป้าย เสียว ๆ อยู่เหมือนกันแต่พ่อก็เข้าใจ  อิอิ  หลังข้าวของมาถึงทุกอย่างแล้วก็ลงมือจัดเท่าที่ของเรามีทั้งงานผ้าที่เตรียมมาสี่ราว แต่เอาเข้าจริงที่เล็กแขวนได้สามราว  ต้นไม้ ใบหญ้า ผักต่าง ๆ ที่เอามาจากสวนป่าจัดไปจัดมาก็สวยดีเหมือนกัน ลุงแฮนดี้เอาของมาลงใส่เครื่องพ่นน้ำประหยัดงบ  แล้วมาลงตัวที่เก้าอี้กระดาษจากปูนซีเมนต์ไทย  มองรวม ๆ ก็ถือว่าใช้ได้ ิอิอิ ว่าเอาเอง

ในระหว่างที่จัดก็มีแขกมาเยี่ยมตลอดเวลา เพราะสถานที่จัดบูธอยู่ตรงข้ามจุดลงทะเบียนและทางเข้าห้องประชุม สถานที่จัดงาน งานนี้อาจารย์ขจิต ป้าจุ่ม ครูปู น้องจิ ลุงแฮนดี้รับเป็น Educator สำหรับคนที่สนใจมาก ครูบาฯก็ลงสนามเอง พูดเอง แนะนำเอง คุยเอง ซึ่งงานนี้ได้รับความสนใจจากคนที่ผ่านไปมาอย่างมาก โดยเฉพาะ น้ำเต้าจากเมืองลำปูนที่ปลูกที่สวนป่า

อ้าบ่าย ๆ  ท่านเทพ แวะมาให้กำลังใจ อ้าถือว่างานนี้ประสบความสำเร็จดีแม้ชาวเฮฮาศาสตร์จะมาน้อยคนแต่ก็สนุกดี อิอิ เพราะสีสันไม่ใช่พวกเราแต่คือเหล่าคนชมที่งงและสนใจคำว่า เฮฮาศาสตร์ และ หนังสทอเจ้าเป็นใผ  งานนี้ถ้าไม่ยุ่งมากแขกก็จะได้ชิมน้ำข้างกล้องงอก ไอติมและเยลลี่จากป้าจุ๋ม  แซบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

งานนี้บทสรุปจึงมีความสุข สิ่งที่กดดันก่อนมาก็มลายหายไป ขอบคุณครูบาฯที่ให้โอกาส ขอบคุณชาวเฮฮาศาสตร์ที่มาช่วยกันในงาน และพี่น้องเฮฮาศาสตร์ที่ให้กำลังใจผ่านลานทุกท่านครับ….

ศ.เสน่ห์ จามริกแวะเยี่ยมที่บูธของชาวเฮฮาศาสตร์

ฤาษีแห่งลำปลายมาศแวะมาให้กำลังใจและจองหนังสือเจ้าเป็นใผ

เจ้าของเสื้อแตงโม มาสนับสนุนผ้าของออตและเครื่องพ่นน้ำของลุงแฮนดี้  ครูบาฯแถมเอกมหาชัยให้ ป้าจุ๋มแถมสมุนไปอีกหลายต้น

บรรยากาศบูธของเราจากมุมบน  ทำเท่าที่เวลาและข้าวของมีครับ

เก้าอี้ปูน สุดยอดสีสันของบูธนี้ เพราะคนนั่งชอบ และคนชอบนั่ง(ไม่เกี่ยวกับคนชอบวิ่ง) อิ อิ

เรามันเป็นมนุษย์ขี้ลืม

Filed under: Uncategorized — ออต @ 2:24

วันนี้หงุดหงิดตัวเองมาก ๆ เมื่อรู้ว่า ป้ายที่เตรียม ปริ้น ตัดเอาไว้ว่าจะเอามาตกแต่งบูธงานระพี2 ดันลืมไว้ที่สวนป่า

เบื่อจริง ๆ  เบื่อ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ความจริงเพราะใจมั่วแต่คิดเรื่องอื่น ๆ ลืมจนได้  บอกไม่ให้คิดมาก ก็ไม่เชื่อ เซ็ง

ปริ้นแผ่นพับต่อดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลืมพับ  จากแผ่นพับ กลายเป็น ใบปลิว

« บันทึกเก่ากว่าบันทึกใหม่กว่า »

Powered by WordPress