ถึงครูบาที่คิดฮอด
วันปลูกป่าและทำบุญไกลมาถึงแล้ว กำหนดการไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงตอนนี้ยังรอเชคจำนวนคนเดินทางอยู่นะครับ หลายคนอยากนอนค้าง แต่หลายคนก็ต้องเดินทางกลับเยน ๆ เพราะเช้า 18 ต้องทำงานกันปกติ แต่ที่แน่ ๆ ออต แม่ใหญ่กะจิ๊กลูกสาวแม่ใหญ่จะนอนค้างคุยกะครูบาฯ สาย ๆ วันที่ 18 ค่อยกลับขอนแก่น
กำหนดการของทริปนี้ 07.00 จัดขบวนทัพที่ รร ฮักสคูล ขบวนรถพร้อม คนขับพร้อม คนปลูกป่าพร้อมก็ล้อหมุน ด้วยเส้นทางขอนแก่น-เมืองพล-หนองสองห้อง-พุทไธสง-สตึก คาดว่าจะถึงสตึก 09.30 น.หรือสายกว่านั้น
10.00 กราบครูบาฯ และครูบาฯ ตีแตกความรู้ ที่มา ที่ไป เปลือยครูบาฯ เรียกน้ำย่อย รู้จักกันฉันเธอ ตามประสาชาวฮักสคูล(เพราะครั้งนี้นอกจากครูของฮักแล้ว ยังมีเพื่อน ๆ ที่รู้จักมากันด้วย)
12.00 รับประทานอาหารเที่ยง ตอนบ่ายเดินชมสวนป่า โดยครูบาฯเป็นไกด์ (อิอิ จะเหนื่อยไหมครับพ่อครูฯ) กระตุ้นความยาก เสร็จรอบสวนก็ลากไปปลูกต้นไม้ตามที่สวนป่าจัดเตรียมพื้นที่ไว้ให้
15.00 พักผ่อนตามอัธยาศัยให้หายเหนื่อย 15.30 “ครูบาฯฝากความ” เรื่องคนเมืองทำบุญ คนเมืองกะป่า คนเมืองกะหญ้า สวนป่ากะคนเมือง ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และเดินทางกลับ(ส่วนคนที่นอนค้างก็หากิจกรรมทำต่อ)
วันอาทิตย์จะแจ้งจำนวนคนปลูก คนค้างแน่นอนอีกครั้งครับ จึงเรียนพ่อครูฯมาเพื่อโปรดพิจารณาปรับแต่งตามสภาพครับ
ออต
วันนี้ตื่นแต่ตีสี่ เพื่อนรีบออกเดินทางจากขอนแก่นมุ่งตรงสู่วังน้ำเขียว เป้าหมายของวันนี้คือการไปขอรับกล้าไม้อาคาเซีย ที่ศุนย์วนวัฒนสระแกราช อำเภอวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา งานนี้ได้รับการอนุเคราะห์รถและ พขร จากแม่ใหญ่ซึ่งวาดหวังว่าสักคนละ 500 ต้นน่าจะได้
เหตุผลที่ไปเร็วขนาดนั้นเพราะทางสถานีฯแจ้งว่ามีต้นกล้าอาคาเซียแค่ 10000 ต้นเท่านั้นและจะแจกคนละ 500 เท่านั้น หากลองคำนวนกันง่าย ๆ หากขอรับกันเต็มโควต้า มานก็แค่ 20 คนเท่านั้นเองกล้าพันธุ์ที่เตรียมไว้ก้จะหมดในทันที ดังนั้นแม่ใหญ่จึงแนะนำให้เราออกเดินทางแต่เช้าเพื่อให้ได้คิวแต่เนิน ๆ งานนี้ไม่สามารถโทรไปสั่งจองได้ ต้องไปเอาจริง ๆ ต่อคิวจริง ๆ และเราก็ทามแบบนั้นไม่ต้องมีเส้นสายอะไรให้มากมายเกินมนุษย์สามัญ
เราไปถึงที่นั้นแปดโมงเช้า โชคดีที่มีคนมารอคิวก่อนหน้าเรา 4 คนซึ่งแต่ละคนเดินทางจากที่ไหล ๆ เช่นมาจากมุกดาหาร ฉะเชิงเทรา ร้อยเอ็ดและเรามาจากขอนแก่น แค่เราสี่คันรถก็ใช้กล้าไม้ไปรวมสองพันต้น นี่เหลือในแปลงกล้าไม่เท่าไหร่เลย
หากมาลองนึกว่าเราลงทุนเพาะชำกล้าไม้ด้วยต้นทุนไม่ถึงสิบบาทเราจะพบว่าใช้งบประมาณไม่มากเลยสำหรับโครงการดีดี ที่สร้างสีเขียวให้โลกแบบนี้ถือว่าเป็นเศษงบประมาณมาก ดังนั้นในความคิดของผมเองคิดว่ารัฐควรลงทุนกับเรื่องกล้าไม้เพิ่มขึ้นจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพื่อให้ต้นกล้าไม้เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร
บ่นเสย ๆ แต่อยากให้เกิดขึ้นจริง