ดอกส้มสีทอง…จะจบดีไหม

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 20 พฤษภาคม 2011 เวลา 7:31 ในหมวดหมู่ กฎหมายชาวบ้าน, กฎหมายในละคร, ครอบครัว, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 2510

ดอกส้มสีทองจะจบลงแล้ว ละครเรื่องนี้ได้รับการวิพากย์วิจารณ์กันมากในฐานะที่เป็นละครที่นางเอกแรงมาก ภาษาวัยรุ่นต้องบอกว่า “แร้งส์” แรกๆดูก็รำคาญมากกับความซื่อบื้อของตัวละคร เบื่อกับการชิงรักหักสวาท เบื่อกับบทเมียหลวงเมียน้อย แต่ทำไปทำมาละครเรื่องนี้กลับได้รับการโหมกระแสกันจนป่วนไปหมด

ผมดูมั่งไม่ดูมั่ง แบบไม่ดูก็ไม่ได้เสียดายอะไร แต่ละครเรื่องนี้ถ้าดูให้ดีจะเห็นว่าผู้เขียนซ่อนอะไรดีๆไว้เยอะมาก เรามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันดีกว่าครับ เรามาวิเคราะห์ตัวละครแต่ละคนกัน

เจ้าสัวเชงมีภรรยาหลายคน จะถือว่ามักมากในกามคุณก็ว่าเหอะ เพราะมีภรรยาถึง ๕ คน แต่ถ้าพูดถึงแง่ความดีของเจ้าสัวเชงจะเห็นได้ว่าเจ้าสัวเชงให้เกียรติภรรยาคนแรกมาก ให้เป็นคนดูแลควบคุมการจัดการภายในบ้าน แบ่งผลกำไรให้เป็นทรัพย์สินส่วนตัว ใครจะมาพูดจากระแนะกระแหนเม่งฮวยเมียหลวง เจ้าสัวจะใช้อำนาจเด็ดขาดห้ามปราม แต่ถึงแม้จะมีอำนาจจัดการอยู่ในมือ การที่มีภรรยาหลายคนก็ย่อมจะทำให้เม่งฮวยไม่พอใจเพราะตนถูกแย่งความรักไปจากเจ้าสัว และเป็นเพราะจารีตประเพณีที่ภรรยาต้องยอมสามี เม่งฮวยจึงไม่กล้ามีปากเสียง ซึ่งทำให้เม่งฮวยอยู่ในบ้านอย่างมีความสุขสบายกายแต่ไม่สบายใจ แต่เม่งฮวยก็ไม่อยากให้ลูกชายมีเมียน้อย เพราะการที่ลูกชายมีเมียน้อยนั่นคือลูกกำลังสร้างความเจ็บปวดให้กับภรรยา แต่ที่เม่งฮวยกลัวก็คือเพราะลูกชายเห็นตัวอย่างของพ่อกลัวลูกจะเอาอย่างพ่อ ซึ่งเม่งฮวยรู้อยู่เต็มอกว่าคนที่เป็นเมียจะรู้สึกเจ็บปวดเพียงใด เม่งฮวยจะพร่ำสอนให้ลูกเป็นคนดีซึ่งคุณใหญ่ก็เป็นคนดีได้อย่างที่เม่งฮวยต้องการ จะเห็นได้ว่าเม่งฮวยอดทนอยู่ในคฤหาสน์ที่ไม่ค่อยมีความสุข แต่การที่อดทนอยู่อย่างนั้นสถานะของความเป็นครอบครัวของเม่งฮวยจึงยังคงมีอยู่ การที่เม่งฮวยยังอยู่ส่งผลดีให้ตี๋ใหญ่กับหมวยใหญ่ได้รับการศึกษาที่ดี แต่การเลี้ยงลูกที่เจ้าสัวเช็งใช้อำนาจเด็ดขาดไม่ยอมให้ลูกกล้าคิดกล้าทำอะไร จึงทำให้คุณชายใหญ่(ตี๋ใหญ่)เป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ ไม่เด็ดขาด

เขียนมาตั้งนาน ข้อดีของเจ้าสัวเชงก็คือการให้เกียรติภรรยาหลวง การมอบความเป็นใหญ่ในบ้านให้ ซึ่งเป็นหลักในการครองเรือนที่เรียกว่า “คิหิปฏิบัติ” ซึ่งข้อนี้เป็นเพียงบางส่วน ข้อดีของเม่งฮวยคือความอดทนของแม่เพื่อลูกจะได้ดี ทั้งการที่เม่งฮวยแสดงให้เห็นว่าตนเข้าข้างลูกสะใภ้เต็มที่ ถ้าลูกสะใภ้ไม่ยอมรับลูกของเรยากับคุณใหญ่มาไว้ในบ้านเม่งฮวยก็จะไม่รับเหมือนกันแม้จะรักหลานมากเพียงใดก็ตาม แม้จะรักลูกแต่การที่ลูกทำในสิ่งไม่ถูกต้องก็ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึกและที่สำคัญยังเป็นคนที่มีความเมตตากรุณาต่อผู้ที่ด้อยกว่า เช่น ฉากที่หลังจากเจ้าสัวเช็งตาย คำแก้วก็ยังไม่หายบ้า ความเวทนาที่มีต่อคำแก้วก็สั่งให้อาอึ้มดูแลคำแก้วอย่างดี หรืออย่างกรณีน้องๆของเยนหลิงคุณนายที่สองมาหาพี่สาวเพื่อจะขอเงินไปเลี้ยงชีวิต เมื่อเม่งฮวยรู้ว่ายังไม่ได้กินข้าวก็สั่งให้จัดสำรับกับข้าวให้เพราะเห็นน้องๆของเยนหลิงเป็นคนที่กตัญญูต่อบิดามารดา

คุณใหญ่เป็นคนดี จะมีเมียก็เป็นเมียที่แม่หาให้ และโดยความเป็นจริงเป็นคนที่รักครอบครัวมาก คุณดี๋ภรรยาที่แม่เลือุกให้ก็เป็นผู้ดี ทั้งยังเป็นคนที่มีความเมตตาต่อผู้ที่ด้อยกว่าเหมือนกับแม่ ความที่เป็นคนใจดีทำให้คำแก้วหลงรักแต่คุณใหญ่รู้สำนึกตลอดเวลาว่าคำแก้วคือภรรยาของพ่อจึงไม่มีปัญหาการผิดศีลธรรม แต่พอกับเรยาคุณใหญ่ไม่ทันมารยาหญิง ว่าก็ว่าเหอะผมก็แอบสงสารคุณใหญ่เล็กๆเพราะคุณใหญ่ไม่ใช่พระอิฐพระปูน อยู่ๆสาวสวยมานัวเนียอยู่บนเตียงนอน แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่คุณใหญ่พูดก็ถูก ถ้าผู้ชายรู้จักยับยั้งชั่งใจสิ่งเหล่านี้ก็ไม่เกิด แต่สังคมเรามักจะโยนความยับยั้งชั่งใจไปให้ผู้หญิงตลอด…อิอิ ถ้าผู้หญิงไม่ยับยั้งชั่งใจก็ว่าเป็นดอกส้มสีทอง ถ้าผู้ชายไม่ยับยั้งชั่งใจก็ว่าเผลอใจ แฮ่…แต่เมื่อเหตุการณ์มันผ่านพ้นไปแล้ว คุณใหญ่ก็ทำสิ่งที่ขัดใจคนดูนั้นคือการแสดงความรับผิดชอบต่อเรยา ทั้งๆที่คนทั้งประเทศเห็นว่าคุณใหญ่ไม่ได้เป็นผู้ก่อ ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้บรรดาภรรยาทั้งหลายรับไม่ได้ ถ้าคุณใหญ่เผลอใจไปครั้งหนึ่งแล้วไม่มีครั้งที่สอง ครั้งที่สาม เธอก็คงรับได้อยู่ ประกอบกับผู้หญิงอย่างเรยาต้องการเอาชนะเมียหลวงความวุ่นวายจึงเกิด ยิ่งหนักเข้าไปเมื่อเรยาบอกว่าตัวเองท้อง คุณใหญ่ยิ่งแสดงความรับผิดชอบ ตรงนี้ผมว่าคุณใหญ่ขาดสติปัญญา ไม่ใช้หลักกาลามสูตรพิสูจน์ให้เห็นจริงก่อน

เขียนมาถึงตรงนี้ เราอาจรู้สึกขัดแย้งลึกๆ ถ้าคุณใหญ่นอนกับเรยาครั้งแรกแล้วไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไร(เพราะจริงๆแล้วคุณใหญ่มิได้เต็มใจ แต่อารมณ์มันเกิดเพราะถูกปลุกจากเรยา) และเรยาไม่ตามไปราวีคุณดี๋ ผมว่าคุณดี๋ก็คงไม่โกรธเป็นฟืนเป็นไป ต่อมาเรยาท้องในละครก็ทำให้สงสัยว่าท้องกับนัทหรือเปล่าด้วยซ้ำ ปมมันอยู่ที่การที่ผู้ชายนอนกับผู้หญิงแล้วต้องรับผิดชอบทุกคนหรือเปล่า ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ดูละครไม่เต็มใจให้คุณใหญ่รับผิดชอบเรยา แต่พอเราเทียบกลับไปที่กรณีของฟิล์ม รัฐภูมิ สังคมกระหน่ำให้ฟิล์มรับผิดชอบแอนนี่ แม้จะตรวจดีเอ็นเอก็ไม่ยอม ฟิล์มกลายเป็นผู้ชายที่ขาดความรับผิดชอบ ผมว่านี่เป็นข้อเตือนใจผู้ชายอย่างคุณใหญ่ว่าให้รู้จักระมัดระวังอย่าเผลอใจไปกับเหยื่อที่เขาเอามาล่อ การออดอ้อนออเซาะ คำหวาน สิ่งที่ได้มาง่ายจนเกินไป ล้วนแต่จะสร้างปัญหาในอนาคตทั้งสิ้น แต่อย่าลืมอยู่อย่างหนึ่งด้วยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคุณใหญ่ก็เป็นผู้ร่วมก่อตั้งด้วย อิอิ

คราวนี้เรามาดูอาคุงหลีของอาม้า อิอิ เธอเป็นผู้หญิงที่งามพร้อม ไม่แสดงอาการตีโพยตีพายเมื่อสังเกตเห็นว่าสามีมีปัญหา คุณดี๋รักคุณใหญ่มากแต่เมื่อรักมากก็โกรธมากเช่นกัน ดังนั้นเราจึงเห็นทิฏฐิของคุณดี๋ที่ไม่ยอมอยู่กับคุณใหญ่อีก ไม่ยอมรับฟังสิ่งที่คุณใหญ่พูดในเบื้องต้น แต่แล้วในที่สุด ซี.เค.ก็กล่อมคุณดี๋ด้วยเหตุผลจนคุณดี๋หันกลับมาร่วมมือกับคุณใหญ่แก้ไขปัญหา ผมชอบตรงนี้มากเพราะคุณดี๋รู้อยู่แก่ใจว่าสามีรักตนรักครอบครัว รับผิดชอบหน้าที่การงาน เธอเห็นอิทธิฤทธิ์ของเรยามาโดยตลอด แต่ความเป็นผู้ดี ความมีคุณธรรมทำให้เธอจำต้องให้คุณใหญ่รับผิดชอบเรยากับลูก แต่เมื่อหันมาร่วมมือกันแก้ปัญหาด้วยดี คุณดี๋กับคุณใหญ่ก็กลับมารักกันเป็นครอบครัวที่อบอุ่นพร้อมกับรับเป็นแม่ดูแลลูกคุณใหญ่กับเรยาให้ด้วย ผมชอบเหตุผลที่ตี๋เล็กกล่อมคุณดี๋ ว่าคนเราที่อยู่ด้วยกันได้นานเพราะเขาใช้ความรักประคับประคองกัน การตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องของชีวิตครอบครัวคือใช้ความรักเป็นตัวตัดสินอย่าใช้เหตุผลเพียงอย่างเดียว ความรักเป็นศิลปะครับไม่ใช่วิทยาศาสตร์ อันนี้ผมว่าของผม..อิอิ คุณดี๋ใช้ความรักและเหตุผลประกอบกันในการตัดสินรับลูกของเรยาเป็นลูกของตนและไปแจ้งเกิดว่าตี๋น้อยเป็นลูกแต่ไปแจ้งเกิดล่าช้า..

ผมว่าจะไม่เขียนเรื่องกฎหมายในตอนนี้แล้ว แต่พอคุณใหญ่พูดว่าไปแจ้งเกิดล่าช้าระบุว่าคุณดี๋เป็นแม่ เอาอีกแล้วคุณใหญ่หาเรื่องติดคุกแล้วไหมล่ะ เพราะคุณใหญ่รู้อยู่เรยาเป็นแม่ แต่ไปแจ้งเกิดว่าคุณดี๋เป็นแม่ มันคือการแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความความเท็จครับคุณใหญ่ เพราะประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๖๗ เขาบอกว่า

“ผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

เฮ้อ…สงสารก็สงสารอยู่นะ…แต่ผมก็ต้องสั่งฟ้องคุณใหญ่อยู่ดี…ฮา…

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : ดอกส้มสีทอง(๕)

Next : ดอกส้มสีทอง(ตอนจบ)การแก้ไขปัญหาครอบครัว » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2011 เวลา 13:17

    โอ้ แบบนี้คงต้องมีภาคต่อแล้วค่ะพี่ฑูร ละครจบแล้ว แต่รายละอียดทางกฎหมายที่พี่ฑูรนำมาเล่าประกอบกลับน่าสนใจกว่า

    ถ้าแจ้งเท็จแบบนี้และเจ้าพนักงานไม่ทราบ แล้วเด็กรู้ทีหลังว่าแม่แท้ๆคืออีกคน จะสามารถแก้ไขหลักฐานได้มั้ยคะ

  • #2 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 พฤษภาคม 2011 เวลา 21:43

    น้องเบิร์ด
    เด็กรู้ทีหลังจะแก้ไขหลักฐานได้หรือไม่ ผมว่าเจ้าพนักงานเขาคงไม่ยอมแก้ไขให้หรอกครับเพราะการไปแก้ไขข้อมูลต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงและเป็นธรรมดาของคนทำงานในประเทศไทยครับ ที่จะโบ้ยไปให้ศาลพิพากษา วิธีการก็คือต้องไปขอให้เจ้าพนักงานแก้ไขเอกสาร เจ้าพนักงานปฏิเสธ ถือว่ามีการโต้แย้งสิทธิจึงต้องไปใช้สิทธิทางศาล นำพยานหลักฐานมาสืบให้ศาลเห็นว่าความจริงคืออะไร ศาลก็จะพิพากษาให้แก้ไขแล้วนำเอาคำพิพากษาของศาลไปให้เจ้าพนักงานแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลครับ

  • #3 Rahul ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2014 เวลา 0:32

    Haha. I woke up down today. You’ve cheeerd me up!

  • #4 Uggs Outlet Online ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 ตุลาคม 2014 เวลา 21:59

    Its like you read my mind! You seem to know a lot about this, like you wrote the book in it or something. I think that you can do with some pics to drive the message home a little bit, but instead of that, this is great blog. A great read. I will definitely be back.
    Coach Purse Outlet Coach Factory Online Store Coach Handbag Outlet Coach Diaper Bags Outlet.


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.6347029209137 sec
Sidebar: 0.21423196792603 sec