เรียนรู้ตลอดชีวิต

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 19 เมษายน 2014 เวลา 21:46 ในหมวดหมู่ การศึกษา, ครอบครัว, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 99974

ในแวดวงการศึกษาพูดกันถึงการเรียนการสอนในศตวรรษที่ ๒๑ และในนั้นก็จะพูดถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต ความจริงแล้วการเรียนรู้ตลอดชีวิตมันมีการปลูกฝังมาก่อนนานแล้ว เพียงแต่มายุคหลังเราละเลยที่จะใส่ใจกับมัน จนต้องรื้อฟื้นมาพูดกันใหม่

ในยุคที่ผมเป็นนักเรียนก็ไม่เห็นใครพูดถึงเรื่องนี้ แต่พอเราหันมามองดูตัวเองก็สงสัยว่าทำไมเราอยากรู้ไปเสียทุกเรื่องและทำไมเราทำได้ บางอย่างเราแค่ซื้อหนังสือมาอ่านเราก็ทำได้ มันเพราะอะไร…

ผมเรียนรู้การวาดภาพจากการอ่านหนังสือก่อน แล้วไปซื้อดินสอแรเงามาเล่น สเกตซ์ภาพ ซื้อหนังสือเกี่ยวกับสีน้ำมันแล้วซื้อสีซื้อเฟรมมาเล่น เอากล้องถ่ายรูปของพ่อมาหัดถ่ายเล่น เอากล้องวีดีโอของพ่อมาเล่น นึกออกแล้ว…

พ่อผมไงที่เป็นคนจุดประกายการเรียนรู้ เพราะพ่อเรียนรู้ด้วยตนเอง พ่อหัดถ่ายภาพ อัดขยายภาพขาวดำ จากการอ่านหนังสือแล้วลงมือทำ พ่ออ่านหนังสือทุกวัน พ่อทำโน่นทำนี่แล้วขวนเราทำ พ่อเคยชวนผมทำห้องมืดในบ้านแล้วเราล้างฟิล์มและอัดขยายภาพขาวดำกันเอง พ่อเล่าให้ฟังว่าพ่อมีเครื่องเล่นจานเสียง มีเครื่องปั่นไฟ ซ่อมจักรเย็บผ้าและสอนให้ผมซ่อมจักรเย็บผ้าที่เป็นตีนกุ้งจนเป็น

แม่ผมอีก แม่ปลูกผักปลูกต้นไม้งอกงาม แม่ตัดเย็บเสื้อผ้าเป็น ทำกับข้าวอร่อย ทำขนมได้หลายอย่าง ผมเคยเห็นแม่ไปเรียนทำซาลาเปา ทำกระเป๋าย่านลิเพา ตอนเล็กๆแม่ทำขนมจีนให้ผมกิน ผมอยากรู้การทำขนมจีนก็ตื่นมาดูแม่ทำขนมจีน ช่วยแม่ขูดมะพร้าวโดยแม่จะขูดมะพร้าวก่อนแล้วเหลือมะพร้าวให้ติดกะลาไว้นิดหน่อยให้ผมหัดขูดตั้งแต่เล็กๆเพราะมันจะไม่หนักเกินไปสำหรับเด็ก ๔-๕ ขวบแบบผมในขณะนั้น

ผมไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ บ้านหนึ่งที่เคยไปอาศัยอยู่เขาทำขนม ผมมีโอกาสได้ช่วยเขาทำขนมได้เรียนรู้การทำขนมชั้น ได้รู้จักแกงเทโพ ได้รู้จักขนุนสำมะลอ

ผมชอบอ่านหนังสือเหมือนพ่อ ชอบเรียนรู้เหมือนพ่อ แม้แต่แม่ก็พัฒนาตนเองให้เราได้เห็น
เมื่อผมมีลูกผมก็ปลูกฝังให้ลูกทั้งสองคนรักการอ่าน ให้ลูกได้เรียนรู้ในเรื่องที่ลูกอยากเรียนรู้ พาลูกไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ส่งเสริมให้เขาได้ไปต่างประเทศ ให้เขาเรียนรู้เรื่องอีเลคทรอนิกส์ ให้เขาเรียนรู้การถ่ายภาพ ให้เขาเรียนรู้การว่ายน้ำ ฯลฯ จนเดี๋ยวนี้เขาอยากเรียนรู้เรื่องอะไรเขาก็รู้จักค้นคว้าหาคู่มือ
ตำรามาอ่านและเรียนรู้ได้เอง

มาตอนนี้มีหลานทั้งทอฝันและมาวิน มาวินยังเล็กก็จะใช้วิธีอุ้มกอดให้เขาเกิดความอบอุ่น พาเขาชี้ให้ดูโน่นนั่นนี่ไม่ว่าเขาจะเข้าใจหรือไม่แต่เราก็พูดอธิบาย ชี้ให้ดูต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ นก เพื่อให้เขาได้เรียนรู้

ส่วนทอฝันขณะนี้สามขวบกับอีกเกือบเดือน รู้มากเพราะทอฝันจะได้รับการปลูกฝังให้เรียนรู้หลายเรื่องโดยเฉพาะทักษะชีวิต ทอฝันจะรู้ว่า ยอดมะขาม ยอดมะม่วง ยอดผักหวาน ยอดชะอม ผักเหมียง ผักกูด นั้นกินได้ รู้ว่าดอกเข็มเอามาดูดความหวานเล่นได้ รู้ว่าดอกกุหลาบมีกลิ่นหอม รู้ว่ากล้วยออกเครืออย่างไร รู้ว่าสับปะรดสุกเป็นอย่างไร รู้ว่ากล้องถ่ายรูปถ่ายอย่างไร เปิดโทรศัพท์ไอโฟนอย่างไร ไอแพดเปิดอย่างไร ซัมซุงเปิดอย่างไร พีซีเปิดยูทูปดูการทำขนมอย่างไร เกมเล่นอย่างไร (แต่ไม่ต้องห่วงครับเพราะคอยดูไม่ให้เล่นนานเกินเพราะจะใช้วิธีเบี่บงเบนให้ไปเล่นทราย เล่นของเล่นอย่างอื่นที่ใช้จินตนาการ)

ทอฝันอยากเรียนรู้ทุกอย่าง ถ้าเป็นอาหารจะขอชิม ลูกอมแก้เจ็บคอก็จะขอชิม ลูกอมกำจัดกลิ่นปากก็จะขอชิม
วันก่อน ปู่เอาโทรศัพท์ไอโฟนสองเครื่องวางไว้พร้อมไอแพด ทอฝันเล่นอยู่ใกล้ๆ ปู่กลัวทอฝันจะทำไอโฟนตก เลยบอกทอฝันระวังโทรศัพท์ปู่ตกนะ ทอฝันก็ยังเล่นป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้โทรศัพท์ ปู่กลัวว่ามันจะตกจริงเลยบอกทอฝันว่าทอฝันหยิบโทรศัพท์ให้ปู่หน่อย ก็ได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะ ไอโฟนทั้งสองเครื่องกระจัดกระจายอยู่บนพื้น แต่ไอโฟนสี่หน้าจอแตกเป็นสามส่วน

ผมจิตตกนิดหน่อยแต่ก็ไม่รุนแรงกับหลาน ถามทอฝันว่าหนูทำยังไงโทรศัพท์ของปู่ถึงตก

ทอฝันทำท่าเอามือปัดให้ดูและบอกว่าทำอย่างนี้

ผมอยากรู้ว่าทำไมทอฝันถึงได้ทำแบบนั้น จึงถามทอฝันว่าทำไมทำแบบนั้นล่ะลูก

คำตอบของทอฝันทำให้ผมโกรธหลานไม่ได้เลยเพราะเธอตอบว่า “หนูอยากรู้…” ฮา…(อยากรู้ว่าทำไมปู่ถึงกลัวตก ตกแล้วมันเป็นอย่างไร)

คราวนี้หนูรู้หรือยังว่าหนูทำอย่างนั้นโทรศัพท์ปู่แตก และปู่ต้องเสียตังค์ซ่อมเกือบสองพัน

ทอฝันยิ้มตอบและพูดว่า “รู้แล้วค่ะ”

เอาน่า…หลานจะเรียนรู้ แม้มันจะแพงสักหน่อย เนอะ…

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : จากปู่ถึงหลาน(๑๙)


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

14191 ความคิดเห็น