จากปู่ถึงหลาน
อ่าน: 2152เมื่อตอนที่ภรรยาผมคลอดลูกชาย ผมรอลุ้นอยู่หน้าห้องคลอด ขอพยาบาลว่าจะขอให้กำลังใจภรรยาอยู่ใกล้ๆจะได้ไหมก็ได้รับการปฏิเสธ เรารอด้วยความกังวลใจ เพราะตอนครบกำหนดคลอดก็ไม่คลอด พอเลยกำหนดคลอดหลายวันก็เริ่มมีอาการ รีบไปโรงพยาบาลก็นอนอยู่อีกทั้งวันทั้งคืน จนคุณแม่ที่มารอคลอดหลังเราเขาคลอดกันหมดแล้ว จากที่เป็นคนแรกที่เข้ารอคลอดจนกลายเป็นคนสุดท้ายจนได้…
สมัยนั้นโรงพยาบาลตะกั่วป่าไม่มีอัลตร้าซาวนด์ ไม่ต้องรู้ก่อนล่วงหน้าว่าลูกจะมีอาการครบ ๓๒ ไหม ลูกจะสมบูรณ์มากน้อยขนาดไหน หญิงหรือชาย ได้แต่อาศัยการสังเกตตามที่โบราณบอก “สะดือคว่ำชาย สะดือหงายหญิง” มั่ง “ท้องยื่นเป็นชาย ท้องกลมเป็นหญิง” เราก็ลุ้นว่าลูกคนแรกเป็นชายหรือหญิง จมูกแหว่งเพดานโหว่ไหม พิกลพิการหรือเปล่า พอลูกออกมาเป็นชาย สมบูรณ์ ทุกคนมีความสุข เนติ์เป็นหลานชายคนแรก…
พอเนติ์มีครอบครัว น้องหนอมภรรยาเนติ์ตั้งท้อง ทุกคนก็เฝ้ารอเจ้าตัวเล็กเกิดมา แต่วิวัฒนาการสมัยใหม่ไม่ต้องลุ้น พวกเราได้รู้ข่าวจากเนติ์ผ่านทาง FB ที่ปรับปรุงข้อมูลเป็นปัจจุบัน มีการนำภาพเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องมาให้เพื่อนผองน้องพี่ได้เห็นกันตามระยะอายุครรภ์ และรู้กันว่าหลานคนแรกของปู่ทวดย่าทวด เป็นหญิง แต่ครอบครัวเราไม่มีใครที่อยากได้เจาะจงว่าอยากได้เหลนเป็นชาย เพียงแค่รู้ว่าเรากำลังมีเหลน มีหลาน เราก็ดีใจสุดๆแล้ว…อยากจะบันทึกให้หลานของปู่ได้รู้ว่า…..
ตอนแรกแม่หนอมตั้งใจคลอดตามธรรมชาติ ถึงวันกำหนดคลอดแม่หนอมไม่เจ็บท้อง อานิวอุตส่าห์ลางานจากกรุงเทพฯมารอชื่นชมเจ้าตัวเล็กก็พลาดไป อุตส่าห์มารอตั้งแต่วันที่ ๒๕-๒๙ มีนาคม เจ้าตัวเล็กไม่ออกมาหาอานิว จนอานิว ต้องกลับกรุงเทพฯ หมอบอกว่าคงคลอดราววันที่ ๑ เมษายน และก็เป็นไปตามนั้น ๓๐-๓๑ มีนาคม แม่หนอมมีเลือดออกเล็กน้อย มานั่งนอนอยู่ที่บ้านปู่ย่าพักใหญ่ในวันที่ ๓๑ มีนาคม แล้วกลับไปนอนรอที่บ้านพ่อเนติ์แม่หนอม จนตอนดึกรู้ข่าวว่าไปโรงพยาบาลกันแล้ว…
น้ำหนักตัวเจ้าตัวเล็กจากการอัลตร้าซาวนด์รอบล่าสุด ๓,๘๐๐ กรัม ทุกคนกังวลเป็นห่วงแม่หนอม เพราะแม่หนอมตัวเล็กนิดเดียวแต่ลูกตัวโต แม่หนอมตัดสินใจคลอดเอง แต่แล้วปากมดลูกเปิดเพียง ๘.๑๕ เซนติเมตรแล้วไม่เปิดต่อ คุณหมอเลยตัดสินใจผ่าตัด
ปู่กับย่ารู้ว่าแม่หนอมเข้าห้องผ่าตัดแล้วก็ยังไม่ไปโรงพยาบาล ไม่ใช่เพราะไม่อยากเห็นหน้าหลาน แต่เพราะรู้ว่าไปก็ช่วยทำอะไรไม่ได้ ผ่าตัดใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง กว่าแม่หนอมจะออกจากห้องผ่าตัดมาก็ต้องพักฟื้นอยู่ก่อนอีก ๑ ชั่วโมง เจ้าตัวเล็กก็ต้องอยู่ในห้องพยาบาลเพื่อรอดูอาการเช่นกัน สรุปแล้วไม่ต้องรีบ…
พอปู่ย่าไปถึงโรงพยาบาลก็เห็นเจ้าตัวเล็กนอนอยู่ในตู้อบ โอ..แม่จ้าว…หลานปู่หลานย่าตัวเบ้อเริ่มเหมือนปู่เลยแฮะ…555 มันโตกว่าใครเพื่อนในห้องเด็กเลย เด็กคนอื่นเขานอนเงียบแต่หลานปู่มันแหกปากร้องไม่เกรงใจใครเลยวุ๊ย…555 สงสัยอยากเป็นนักร้องเหมือนปู่โกไข่..55
หลานเกิดวันศุกร์ หลานก็จะมีแต่ความสุข แต่วันศุกร์ปู่กับย่าก็ยังไม่ได้อุ้มหลาน เพราะหลานยังต้องอยู่ในตู้อบและในห้องเด็ก เขาพาแม่หนอมกลับเข้ามาในห้องแล้ว แม่หนอมยังไม่รู้สึกตัวเพราะหมอฉีดยานอนหลับให้ด้วย ปู่กับย่าอยู่กันพักใหญ่ แจ้งข่าวให้ปู่ทวดย่าทวด ถ่ายรูปหลานในตู้อบรีบนำมาอวดใน FB ตอนนั้นพ่อเนติ์ก็นำรูปหลานขึ้น FB แล้วเช่นกัน…
วันเสาร์ ปู่กับย่าไปเยี่ยมหลานแต่เช้า อยู่ได้พักหนึ่งปู่ทวดกับย่าทวดก็มาถึง ย่าน้อย ย่าอ้อย ย่านวล ปู่วิทย์ อาป๊อบ อาปูเป้ มากันเพียบ ของรับขวัญเพียบ ทุกคนมีความสุขที่ได้เจอเหลนคนแรกของตระกูล แถมจมูกไม่เหมือนเด็กทั่วไป ใครที่มีความรู้ทางวาดภาพเด็กจะรู้ว่าเด็กเล็กจมูกไม่โด่ง แต่ไม่ใช่หลานปู่คนนี้ เพราะหลานออกมาจมูกโด่งเลยมีสันด้วย เออ..เอากะมันสิ
พยาบาลพาหลานมาส่งให้ถึงห้อง หลานร้องเสียงดังเวลาห่างจากอกแม่ เหมือนกับหลานยังหิว..ยังไม่อิ่ม แน่ละก็อกแม่หนอมยังไม่มีน้ำนมแต่หลานก็ดูดนมแม่หนอมแรงมาก ห่างเมื่อไหร่ร้องเมื่อนั้น เสียงดังฟังชัด เฮ้อ…มันจะข่มเหงปู่ด้วยไหมเนี่ย..อิอิ
ปู่ดูหน้าหลานแล้ว เออ..เจ้าหลานคนนี้มองบางมุมก็เหมือนพ่อเนติ์
มองบางมุมก็เหมือนแม่หนอม ปู่ดูพ่อเนติ์ดูแลเอาใจใส่แม่หนอม และดูพ่อเนติ์เอาใจใส่ดูแลหลาน ถ่ายวีดีโอทั้งวันเพื่อบันทึกเหตุการณ์ นึกถึงภาพปู่วันที่พ่อเนติ์คลอดออกมาดูโลก มันทั้งตื่นเต้นระทึกใจ ดีใจ ยิ่งเมื่อได้เห็นหน้าลูกมันเป็นความสุขบอกไม่ถูก…
คำว่า “ลูกรู้ว่าพ่อแม่รัก” นั้น มันเป็นเพียงคำพูดที่ลูกคนไหนก็พูดได้แต่ยังไม่ลึกซึ้งพอ จนกว่าลูกคนนั้นจะได้เป็นพ่อคนแม่คน ถึงจะเข้าใจว่าความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกนั้นเป็นอย่างไร วันนี้พ่อเนติ์คงรู้แล้วละว่า ปู่กับย่ารักพ่อเนติ์ขนาดไหน แม่หนอมคงรู้แล้วละว่าตากับยายรักแม่หนอมขนาดไหน…
สักวันหนึ่งหลานก็จะได้รับรู้ความรู้สึกตรงนี้เช่นกัน…
« « Prev : ชีวิตสมรส(ภาคต่อจากภรรยาข่มขืนสามีผิดไหม)
9 ความคิดเห็น
ยินดีกับคุณปู่คุณย่าคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะครับ หัวโตไม่ใช่เล่น
ผมดกดำมาก ดีใจด้วย ที่มีหลานอุ้ม และมีไว้อ้อน อิอิ
ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ
มันเป็นความสุขอีกแบบหนึ่งของปู่ ย่า นะครับ
บางครอบครัวเกิดรักมากมายจนเอามาดูแลเป็นลูกไปเลย
ปล่อยให้พ่อแม่มันไปทำเอาใหม่.. อิอิ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมหลานครับ
ป้าจุ๋มตกข่าวดีๆไปได้อย่างไร? ทั้งๆที่คอยเฝ้าลุ้นและโทรศัพท์ไปตามข่าวอยู่ตลอดเวลา…
ขอแสดงความยินดีกับครอบครัว “ทองตัน”ด้วยค่ะ…แหมนอนหลับตาพริ้มน่ารักน่าชังจังเลย จมูกโด่งคิ้วก็โก่งเรียวสวย… แถมร้องเก่งด้วยหรือคะ…สมบูรณ์แบบเลยค่ะา
โอ้โห!!หนัก 3,800 ก.ก.นี่นับว่าโตมากนะคะ ลูกสาวคนโตป้าจุ๋มเกิดที่อเมริกาหนัก 3,550 ก.ก.หมอยังดุป้าจุ๋มเลยว่าyouกินเยอะเกินไป…เพราะจัดว่าลูกโตมากสำหรับสำหรับแม่คนไทยที่ตัวเล็กๆ …แต่ลูกสาวป้าจุ๋มตัวดำ ผมดำและร้องเสียงดังเหมือนกันค่ะ ป้าจุ๋มได้ยินหมอที่ทำคลอดพูดกับป้าจุ๋มว่า I give her a 10 for a perfect lung… ตอนนั้นสลึมสะลือครึ่งหลับครึ่งตื่นเพราะเหนื่อยมากแต่ก็มีความสุขมากเช่นกันค่ะ
ตอนนี้คุณย่าแอ๊ดคงจะมีความสุขยิ่งขึ้น…และเพลิดเพลินกับการเลี้ยงหลานนะคะ…น่าอิจฉาจังเลยค่ะ
ขอบคุณครับป้าจุ๋ม
มัวแต่ตื่นเต้นเลี้ยงหลานกันไม่ได้โทร.บอกป้าจุ๋มต้องขออภัยด้วยครับ
เพียงแค่ไม่กี่วัน ย่าเขาอุ้มแล้วชวนพูดเขาก็ยิ้มใส่แล้ว ตอนนี้ facebook เป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างปู่ทวดย่าทวด กับ ปู่ย่า ย่าใหญ่ย่าน้อย ปู่น้อย กับ ป้า กับ อา อัพเดตรูปหลานกันทุกวัน เพื่อนพ่อเพื่อนแม่ เพื่อนปู่เพื่อนย่า เพื่อนป้าเพื่อนอา มากันเพียบ เพราะหน้าตาเขาน่ารักมาก ครับ
ย่าทำกับข้าวให้แม่เขาเรียกน้ำนม แกงเลียงหัวปลี ผัดพริกขิงหมูกับตับใสน้ำมันงา ทำข้าวต้มไว้ให้ทุกเช้า แม่ก็เริ่มมีน้ำนมพอสมควรแล้ว..
พัฒนาการดีมากครับป้าจุ๋ม ปู่ย่ามีความสุขกันทุกวัน แต่หลังสงกรานต์จะพากันไปให้ตากับยายเขาชื่นชมกันที่หาดใหญ่บ้าง…ปู้กับย่าคงเหงา…
อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในครอบครัวเลย
ดีใจด้วยนะคะ คุณปู่
ขอบคุณครับคุณพระจันทร์