ไปเยี่ยมสาวมัลดีฟส์๒

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 27 สิงหาคม 2009 เวลา 22:58 ในหมวดหมู่ ครอบครัว, เรื่องทั่วไป, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 2183

บันทึกที่แล้วผมเล่าว่าเรามาถึงมัลดีฟส์แล้ว ที่นี่ลงจากเครื่องบินก็ไปขึ้นแทกซี่ แต่ขอโทษไม่ใช่รถยนต์แต่เป็นเรือครับ จอดรับแขกกันตรึม เพราะที่นี่เป็นเกาะครับ ผมเล่าต่อแล้วกัน….

วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๘

วันนี้ตื่น ๗.๓๐ น.ของบันยันทรี และเป็นเวลา ๐๘.๓๐ น.ของบ้านเรา และนึกว่าสายมากเพราะแสงสว่างเต็มตา เห็นทะเลมัลดีฟส์ครั้งแรกสวยมาก แต่ยังไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะสีสันมันคล้ายกับกะตะกะรนหลังสึนามิ เพียงแต่การแยกสีของทะเลของที่นี่ค่อนข้างชัดเจนจากหาดทรายออกขาว ทะเลส่วนที่น้ำตื้นสีเขียวหยกอ่อน และสีน้ำเงินเข้มส่วนที่เป็นน้ำทะเลลึก แต่ท้องฟ้าก็งั้นๆ
มัลดีฟส์มัลดีฟส์
ทรายที่นี่แปลก เพราะเมื่อเราลงเดินลงน้ำทรายจะหยาบ พอมาเดินขึ้นข้างบนทรายจะละเอียดกว่า ผมว่าเสียความรู้สึกนะ ถ้าพูดส่วนนี้ผมว่าทรายที่เกาะราชาภูเก็ต หรือที่หมู่เกาะสิมิลัน พังงา หรือที่อ่าวมาหยา กระบี่ กินขาด ผมก็งงอยู่เหมือนกันว่าทำไม เพราะทรายมันก็คือเปลือกหอยหรือปะการังที่ถูกคลื่นซัดจนมันแตกละเอียดไปเรื่อยๆยิ่งอยู่ชายหาดที่คลื่นซัดไปมามันก็น่าจะละเอียด พอขึ้นบกมามันก็น่าจะหยาบขึ้นเพราะมันไม่ค่อยถูกคลื่นซัด แต่ไม่ทราบนะครับ ผมไม่มีความรู้เรื่องทรายนี่เท่าไหร่หรอก เพียงแต่อาศัยที่เคยเห็นและเข้าใจเอาเองนะครับมันอาจจะถูกหรือผิดก็ได้

เราออกไปทานอาหารเช้ากัน แล้วออกไปเดินเล่นที่ Jetty หรือบ้านเราเรียกท่าเรือนั่นแหละ ระหว่างที่เดินบนสะพานจะเห็นน้ำใสมาก ปลิงทะเลเต็มไปหมดเหมือนที่หมู่เกาะสุรินทร์ และที่ท่าเรือบางจุดมองเห็นปะการังตายที่เขาเอามากองไว้มีแท่งซีเมนต์ล้อมรอบ และปะการังเริ่มฟื้น เห็นปลาว่ายเต็มไปหมด โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยเห็นปลาหมึกเป็นๆจะเห็นปลาหมึกเปลี่ยนสีเป็นตัวใสบ้าง ตัวเขียวบ้าง ตัวดำบ้าง ดูสนุกดี ปลาก็หลากสีน่าตื่นตาตื่นใจ
มัลดีฟส์มัลดีฟส์

หนูนิวบอกว่าที่โรงแรมเขามีหน่วยงานอนุรักษ์สัตว์ทะเล มีปลากระเบน เต่า ปลาฉลาม และที่ล้อบบี้ของโรงแรมก็จะมีตู้บริจาคเป็นกองทุนอนุรักษ์มีรูปเต่าแกะด้วยไม้วางอยู่ ในแต่ละวันก็จะมีการให้อาหารปลากระเบน ความจริงมันก็ไม่ค่อยจะถูกต้องเพราะจะทำให้ปลาหาอาหารตามธรรมชาติไม่เป็น พอเวลา ๑๖.๓๐ น.ปลากระเบนก็จะว่ายมารออาหารที่ชายหาดทุกวัน และโรงแรมก็จะขึ้นป้ายบอกว่าเวลา ๕ โมงเย็นมีการให้อาหารปลากระเบน ผมมองอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกับว่าโรงแรมเอาการให้อาหารปลากระเบนมาเป็นจุดขายแล้วจะเรียกว่าอนุรักษ์ปลากระเบนไม่น่าจะถูกนะ ลูกสาวมันไม่กล้าเถียงเพราะเขาคงรู้ว่าวิธีการมันไม่น่าจะถูกต้อง เราพากันเดินไปดูอีก Jetty หนึ่ง ที่เสาท่าเรือมีปลามงเป็นฝูงใหญ่ นี่ถ้าเพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านอาหารมาเห็นคงน้ำลายหกเพราะปลามงทั้งฝูงเป็นร้อยตัว

ที่หน้าห้องพักยิ่งสายจัดๆยิ่งสวย น้ำตื้นยิ่งใส เขียวหยก น้ำลึกยิ่งเข้ม สวรรค์ของคนชอบทะเลจริงๆ แถมตอนเช้าก็เห็นพระอาทิตย์ขึ้น ตอนเย็นก็เห็นพระอาทิตย์ตก โรแมนติกมาก (ถ้าไม่มีลูกๆอยู่ แฮ่ะๆๆ)แต่ค่าห้องพักนะสิ ถ้าฐานะไม่ดีไม่ต้องเรียกว่าสวรรค์เลยครับ เรียกได้ว่ามันเป็นความฝันของคนชอบทะเลเท่านั้น แต่พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าผมมีกะตังค์หรอกครับ มันเป็นผลจากการทำงานของลูกสาวผมมาครบ ๑ ปีที่เมืองไทย จึงได้โบนัส มีสิทธิใช้โบนัสเป็นค่าห้องพัก ให้พ่อแม่ อาศัยบารมีลูกว่างั้นเหอะ

นั่งคุยกับลูกๆเรื่องสัพเพเหระ คุยไปคุยมาลูกสาวบอกว่าทีนี่เขาจะเอาทรายจากทะเลมาถมที่พื้น เวลาทรายตามพื้นโรงแรมเริ่มดำเขาก็จะกวาดทรายเก่าเอาไปทิ้งทะเลแล้วตักทรายจากทะเลมาถมใหม่ ในห้องอาหารซึ่งมันอยู่ในศาลาก็เป็นพื้นทราย เออ..มันทำให้มีบรรยายกาศของทะเลจริงๆ เดินออกจากห้องพักก็เดินเท้าเปล่า เข้าไปตามจุดต่างๆก็เดินเท้าเปล่า แต่ตามจุดต่างๆก็จะมีอ่างล้างเท้ามีกระบวยที่ทำด้วยกะลามะพร้าวไว้ให้ตักน้ำ ท่านทราบเทคนิคการล้างทรายออกจากเท้าไหมครับ ยกเท้าขึ้นมาให้ส้นเท้ากับปลายเท้าขนานกันแล้วใช้น้ำราดจากปลายเท้าลงมา แค่นี้แหละครับ ทรายก็จะหลุดจากเท้า แต่ผมว่าไหนๆก็มาอ่างอยู่แล้วเอาเท้าจุ่มลงไปแล้วยกขึ้นมาจะสะอาดกว่านะ..เออ..แล้วพอฟังลูกสาวเล่าอย่างนี้ก็ได้ความคิดว่า ถ้างั้นแสดงว่าเขาตักทรายละเอียดจากทะเลขึ้นมาถมพื้น ทรายส่วนที่หยาบก็อยู่ในทะเล พอถูกคลื่นซัดทรายหยาบมันก็ขึ้นมาอยู่ที่ชายหาด จึงทำให้ชายหาดที่นี่เดินแล้วหยาบเท้าแหงเลย…การที่เอาทรายที่เริ่มดำไปทิ้งทะเลก็เพื่อให้ปลิงทะเลมันทำความสะอาดให้ครับ เพราะปลิงทะเลที่นี่เยอะมาก แต่..ผมไม่ยืนยันว่าเกาะอื่นๆในมัลดีฟส์จะเป็นอย่างนี้นะเออ…เพราะผมไปพักแค่ที่เกาะชื่อ วับบินฟารู ครับ

maldifs

วันนี้ผมไปหัดดำน้ำแบบสกูบ้าไดวิ่งกับลูกชาย โดยลูกสาวเป็นคนจัดการให้เรื่องการเรียนเห็นว่าร้อยกว่าเหรียญ เริ่มตั้งแต่กรอกข้อมูลการเป็นโรคต่างๆ ถ้าไม่ให้มีปัญหาก็ตอบโนทุกข้อ เพราะถ้าเยสเมื่อไร ยูต้องไปพบแพทย์ แล้วเริ่มเรียนทฤษฎี ภาษามือ การใช้อุปกรณ์ การไล่ความดันในร่างกายโดยให้ลมออกทางหู แล้วเริ่มลงน้ำ ลองคิดดูนะคนที่ไม่เคยดำน้ำลึก พอเริ่มจะดำน้ำต้องมีเสื้อกันน้ำเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น มีชูชีพพร้อมอุปกรณ์มีสายอีก ๔ สาย ข้างขวาเป็นสายออกซิเจนที่เราใช้หายใจ ส่วนอีกสายหนึ่งซึ่งมีวาล์วสีเหลืองเป็นออกซิเจนไว้ช่วยคนอื่นที่ไม่มีอากาศหายใจขณะดำน้ำ ข้างซ้ายก็จะมีมาตรวัดอากาศ ๑ สายเพื่อคอยดูว่าออกซิเจนเราเหลืออยู่ในถังเท่าไร และอีกสายหนึ่งก็จะเป็นสายที่ใช้ปล่อยลมเข้าเสื้อชูชีพเพื่อทำให้เราลอยหรือกดปุ่มบนเพื่อปล่อยลมทำให้เราจมลง และพอดำน้ำจริงๆก็จะมีปัญหาน้ำเข้าหน้ากากต้องปล่อยเอาน้ำในหน้ากากออกโดยการเงยหน้าขึ้นแล้วเป่าลมออก ทีนี้ท่านลองคิดตามนะครับว่าเวลาจัดการกับน้ำเข้าหน้ากากตามทฤษฏี นึกถึงสิ่งที่ครูสอน แล้วนึกเรื่องออกซิเจน นึกถึงการจะทำให้ตัวเราดำลึกลงไปในขณะเดียวกันนึกทันไหม แต่เราก็ทำได้เพราะเคยดำน้ำแบบสนอร์เกิ้ลมาแล้วจึงไม่มีความกลัวเรื่องความลึกของทะเล วุ่นวายก็เรื่องอุปกรณ์ตอนที่เริ่มดำเท่านั้น แต่พอหลังจากนั้นก็ฉลุยแล้ว ไม่ได้โม้…

การดำน้ำวันนี้สนุกมาก แค่ทริปแรกผมก็ได้เห็นไอ้หลามตัวเบ้อเริ่ม ๒ ตัว แต่มันเป็นฉลามกบซึ่งอ่านหนังสือมาแล้วว่ามันไม่ดุ ก็เลยไม่ค่อยกลัวได้เข้าไปดูที่ถ้ำที่มันกบดานและลูกชายก็ถ่ายรูปไว้แต่ไม่รู้ว่าจะได้ภาพไหมเพราะเป็นกล้องใช้แล้วทิ้งและมันไม่มีแฟลช และเราได้เห็นเต่ากระ ๑ ตัว ปลาไม่ต้องพูดถึงเพราะหลากหลายมากๆ ถ้าถามว่าการดำน้ำตื้นสวยกว่าหมู่เกาะสุรินทร์ที่พังงาไหม ผมว่ากินกันไม่ขาด แต่ต้องอย่าลืมนะว่าผมกำลังพูดถึงเกาะๆเดียวของมัลดีฟส์ ดังนั้นจึงไม่ใช่การสรุปว่าหมู่เกาะมัลดีฟส์ไม่ได้สวยกว่าหมู่เกาะสุรินทร์นะครับโปรดทำความเข้าใจกันก่อน เพราะหมู่เกาะมัลดีฟส์มีแหล่งดำน้ำมากกว่าของเราหลายเท่านัก อย่างไรก็ตามการดำน้ำในวันนี้ทำให้ผมได้รับประสบการณ์ชีวิตเพิ่มขึ้น ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆขึ้นมาอีกเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิตของผม ที่ผมในฐานะพ่อคนหนึ่งได้ทำในสิ่งที่คนเป็นพ่อควรสอนลูกให้รู้จักการเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสังคม และในฐานะที่เราเป็นคนของสังคมที่ประชาชนเขาจับตามองเราอยู่เราก็ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อให้สามารถพูดคุยกับเด็กยุคใหม่ เพื่อใช้ความรู้และประสบการณ์ที่เรามีพูดคุยแนะนำตักเตือนสั่งสอนเขาให้ก้าวไปสู่ความถูกต้อง

มัลดีฟส์

เย็นของวันนี้ ลูกสาวพาไปดินเนอร์ที่ห้องอาหารของโรงแรม สั่งให้แต่งตัวดูดี รองเท้าไม่ต้อง ฟังแล้วหากเราจินตนาการตามไปขณะอยู่เมืองก็จะได้หัวเราะกันเล็กน้อย ว่าเวลาเราแต่งตัวดีออกจากบ้านแล้วลืมใส่รองเท้า แต่ที่นี่อย่างที่บอกว่าเขาเอาทรายถมไปทั่วดังนั้น ในห้องอาหารเขาก็ถมทรายไว้ดังนั้นแขกของโรงแรมก็มักแต่งตัวดีเดินเท้าเปล่าไปทานอาหาร พอถึงเวลาสั่งอาหารก็เริ่มมั่วเลยเพราะมีอาหารที่เราไม่รู้จัก ไอ้ลูกสาวก็ไม่รู้จักเพราะส่วนใหญ่จะเบิกข้าวสารอาหารแห้งอาหารสดจากครัวไปทำกินกันเอง ก็เลยใช้วิธีง่ายๆสั่งมาสี่อย่างไม่เหมือนกันแล้วแบ่งกันลอง มีทั้งปลา เนื้อแกะ เนื้อปู ปลาก็มีสองแบบมีทั้งปลาดาบ และปลาอะไรก็ไม่รู้ อาหารบางอย่างก็ทานได้ บางอย่างก็อร่อย ฝรั่งเห็นพวกเราก็กินก็งง เพราะเราจะจิ้มจานโน้นที จานนี้ที เรามีความสุขในครอบครัวเรา ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ดังนั้นก็เลยจิ้มกันต่อ มันเป็นวันที่มีความสุขมากๆของเรากับลูก พอถึงเวลาสั่งของหวาน ทั้งเจ้าเนติ์ หนูนิว และแม่เขาสั่งไอศกรีมกันหมด เหลือแต่ผมเห็นมี Danish Blue มันคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยกินไอศกรีมแบบนี้ มันทำจากนมมันต้องอร่อยแน่ๆ เพราะในเมนูมันมี Goat Milk ด้วย จึงสรุปได้ว่ามันเป็นไอศกรีมแน่ สั่งเลย…..พอมันมาถึงต้องเรียกว่าเป็นอาหารเต่าถุยเลยเชียวแหละ เพราะกินชีสไม่เป็นมันเป็นชีส ๓ แบบ รสชาติออกเปรี้ยวๆเค็มๆมันๆ แล้วมีบิสกิตมา ๕ ชิ้น ลูกๆและภรรยานั่งหัวเราะกันคิกคัก แล้วแบ่งไอศกรีมให้ผมคนละนิดคนละหน่อย ทีหลังผมจะจำให้มันขึ้นใจ จริงๆ ฮึ่ม! จากนั้นเรากลับไปนอนคุยกัน อ๋อ..แน่นอน ผมหลับก่อนเพราะเหนื่อยมากทั้งวัน(ยังมีต่ออีกนั่นแหละ อิอิ)

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : ไปเยี่ยมสาวมัลดีฟส์๑

Next : ไปเยี่ยมสาวมัลดีฟส์๓ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

4 ความคิดเห็น

  • #1 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 สิงหาคม 2009 เวลา 7:41

    เย้ ๆๆๆ เห็นภาพแล้ว น่ารักจังค่ะ ทะเลสวยเชียว เค้ามีการกำจัดขยะยังไงคะ นักท่องเที่ยวไม่ทิ้ง? แล้วน้ำจืดของเค้ามาจากไหน

  • #2 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 สิงหาคม 2009 เวลา 7:20

    วิธีกำจัดขยะ เขามีเกาะใหญ่เกาะหนึ่งมีโรงขยะไว้จัดการขยะโดยเฉพาะ เขาจะมีเรือเก็บขยะ ส่วนขยะสดเห็นหนูนิวบอกว่าเขาจะโยนให้ปูปลาในทะเลนั่นแหละกิน
    ส่วนน้ำจืดเขาใช้เครื่องทำน้ำจืดของโรงแรม โดยสูบน้ำทะเลขึ้นมากลั่น ในส่วนที่เป็นน้ำใช้ครับ ส่วนน้ำกินของแขกเป็นน้ำขวด คนพื้นที่เขากินน้ำที่กลั่นอีกรอบ แต่เอ..ไม่แน่ใจว่าเครื่องเดียวกันหรือเครื่องที่ใช้สำหรับน้ำดื่มโดยเฉพาะ อิอิ ลืมถาม

  • #3 Coach Factory Outlet Online Store ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 ตุลาคม 2014 เวลา 1:31

    Its like you read my mind! You seem to know so much about this, like you wrote the book in it or something. I think that you could do with some pics to drive the message home a bit, but other than that, this is magnificent blog. A fantastic read. I will certainly be back.
    Coach Purse Outlet Coach Outlet Coach Crossbody Bag Outlet Coach Outlet Wallets.

  • #4 Uggs Outlet Online ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 ตุลาคม 2014 เวลา 11:37

    Its like you read my mind! You appear to know a lot about this, like you wrote the book in it or something. I think that you could do with some pics to drive the message home a bit, but instead of that, this is excellent blog. An excellent read. I’ll definitely be back.


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.67874383926392 sec
Sidebar: 0.23485016822815 sec