พระจันทร์สีรุ้ง๑

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 17 กรกฏาคม 2009 เวลา 18:11 ในหมวดหมู่ กฎหมายในละคร, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 2173

ผมสองจิตสองใจว่าจะเขียนเรื่องพระจันทร์สีรุ้งดีไหม แต่พอดูละครไปบ้างไม่ดูบ้าง เพราะรำคาญเรื่องราวในละคร เกี่ยวกับเรื่องความจำของพระเอก เกี่ยวกับการแสวงหาผลประโยชน์ของแม่พระเอก เกี่ยวกับแฟนของนางเอก เมื่อคืนดูตอนพระเอกกราบพระแล้วมันก็ขัดลูกตา ทำไมไม่ให้พระเอกกราบพระประธานในโบสถ์แบบเบญจางคประดิษฐ์ล่ะ ให้พระเอกก้มกราบแบบผู้หญิงกราบมันดูขัดๆยังไงไม่รู้ ผมว่าผู้จัดไม่ควรละเลยเรื่องพวกนี้ หรือตอนพระเอกจะขับรถไปหาพ่อทั้งๆที่ร่างกายอ่อนแอ แม้จะให้น้าป้อออกมาตะโกนบอกตอนพระเอกขับรถออกไปว่า ง่วงอย่าขับนะ….ผมก็ว่าถ้าเราจะช่วยกันรณรงค์เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ ก็ให้พระเอกแอบงีบที่ปั๊มน้ำมันหรือจุดตรวจ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี แต่ถ้าอยากให้พระเอกเกิดอุบัติเหตุไปนอนโรงพยาบาลก็ให้มีรถขับตัดหน้าพระเอกจนพระเอกต้องหักหลบแล้วเกิดอุบัติเหตุน่าจะดีกว่า แต่ก็ไม่เถียงนะ หากผู้เขียนบทจะอ้างว่าก็เพราะง่วงแล้วยังฝืนขับจึงแสดงให้เห็นว่ามันจึงเกิดอุบัติเหตุ เพียงแต่ผมมองต่างมุม เลยตัดสินใจว่า เขียนเรื่องนี้ก็ได้ เพราะมันก็มีเรื่องที่อยากทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายอยู่บ้างเหมือนกัน

งั้นเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนตามธรรมเนียม ความจริงพระจันทร์สีรุ้งหากจะย่อให้สั้นที่สุดก็คงจะบอกได้ว่าเป็นเรื่องของอารักษ์พ่อกระเทย ที่เอาตะวันลูกของอรดี (หมอนวด)ซึ่งไม่คิดจะเลี้ยงแต่คิดจะเอาไปทิ้งเพราะกำลังจะไปอยู่เมืองนอกกับสามี มาเลี้ยงด้วยความทนุถนอม จนกระทั่งได้ดิบได้ดีสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ และเป็นนักร้องดัง และได้พบกับแม่ซึ่งกลับจากต่างประเทศเนื่องจากสามีฝรั่งตายได้มรดกมากมายจนเข้ามาสู่แวดวงไฮโซ โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ แต่ต่อมาฝ่ายแม่รู้ว่าตะวันคือลูก พอดวงตกติดการพนันจนเป็นหนี้มากมาย ตะวันเกิดอุบัติเหตุความจำเสื่อมก็เลยถือโอกาสโหนความดังของลูก อาศัยชื่อเสียงของลูกหากินได้อีก และปกปิดความเลวร้ายในอดีตของตัวเองและพยายามกีดกันพ่อบุญธรรมที่เลี้ยงดูลูกมา ตลอดจนกีดกันคนที่เคยรู้จักอดีตของตน แต่ในที่สุดตะวันก็เริ่มจำอดีตได้ กลับมารักกับปลายฟ้า และเมื่อรู้ความจริงก็จะกลับมาหาพ่อในขณะที่หัวใจของรักษ์แทบแตกสลายเมื่อลูกออกมาให้สัมภาษณ์ตามที่แม่ป้อนข้อมูลว่าพ่อเป็นกระเทยที่แอบมาหลงรัก และศศินก็เอาข่าวเรื่องนี้ไปบอกนักข่าวเพื่อทำลายชื่อเสียงของตะวัน รักษ์กำลังป่วยหนักพอรู้ว่าตะวันเกิดอุบัติเหตุก็ไปเยี่ยม พอกลับมาก็เจอนักข่าวมาสัมภาษณ์ก็เลยให้สัมภาษณ์ว่าตนไม่ได้เป็นอะไรกับตะวัน อย่าทำให้ตะวันเสื่อมเสียชื่อเสียงกับเรื่องนี้อีกเลย ตะวันรู้ซึ้งถึงความรักที่พ่อมีต่อตนเองจึงกลับมาหาพ่ออยู่ในอ้อมกอดพ่ออีกครั้ง ในขณะที่พ่อกำลังจะตาย

ผมว่าย่อออกมาแค่นี้ก็พอรู้เรื่องแล้วนะครับ ผมขอเจาะไปที่ตอนที่แม่พระเอกคลอดลูกแล้วหนีออกจากโรงพยาบาลและกำลังจะเอาลูกไปทิ้งกองขยะ ถ้าใครดูละครเรื่องนี้คงจำได้ว่าอรดีเอาลูกมาที่กองขยะแล้วแต่ตอนนั้นมีคนเดินเข้ามาก็เลยทิ้งไม่ได้ต้องอุ้มลูกออกไป ถ้าอรดีเอาลูกวางทิ้งไว้แล้วเดินจากไป ความผิดก็จะเกิดขึ้นทันทีเพราะมันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๙ ที่ระบุว่า

“ผู้ใดทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใดเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

แต่ในละครยังไม่ได้ทิ้ง รอบนี้อรดีจึงรอดตัวไป แต่ที่หยิบเรื่องนี้มาเขียน เพราะเป็นห่วงสังคมที่เด็กคลอดออกมาแล้วขาดคนรับผิดชอบ ผู้ชายที่ทำให้เขาท้องก็ไม่รับผิดชอบ ตัวแม่ที่อุ้มท้องอยู่ก็ไม่รับผิดชอบในชีวิตที่ตัวเองเกิดมา เหมือนที่มีข่าวในหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยๆ ในละครเรื่องนี้ อรดีมีเหตุผลที่จะทิ้งลูกเพราะตนจะตามไปอยู่กับสามีฝรั่งที่ต่างประเทศ (แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้องเลยนะ…) ดูละครเรื่องนี้แล้วนึกถึงเรื่องการทำแท้งของหมอแป๊ะ (ธนพันธ์ ชูบุญ ที่เขียนเรื่องนี้ เพราะเราบอกไม่ให้เขาทำแท้ง แต่เมื่อเขาคลอดมาเขาไม่พร้อมที่จะเลี้ยง คราวนี้เป็นภาระของใคร ของพ่อแม่เด็กหรือก็เปล่าเพราะทิ้งไปแล้ว และถ้าเด็กที่เกิดมาเป็นเด็กเกเรที่สร้างปัญหาให้กับสังคมใครควรรับผิดชอบ คนที่คัดค้านการทำแท้ง หรือใครดี อ่านบันทึกหมอแป๊ะที่นี่ครับ)

คราวนี้อรดีจึงเดินไปที่สะพาน มองไปที่ลำคลอง ดูในเรื่องแล้วผมเชื่อว่าท่าทางที่แสดงออกก็คืออรดีอยากจะโยนเด็กลงน้ำเพื่อจะได้หมดปัญหา (ทำไมไม่หนีออกจากโรงพยาบาลคนเดียวก็ไม่รู้นะ…) พอตัดสินใจจะโยน อารักษ์ก็โผล่เข้ามาเห็นพอดีจึงยื้อแย่งเด็กกัน ในที่สุดเด็กก็ตกน้ำลงไป จะโทษใครละทีนี้ ถ้าอารักษ์มาเป็นพยานให้ตำรวจว่าเห็นพฤติกรรมของอรดีที่ทำท่าจะโยนเด็กลงน้ำ แล้วมีพยานประกอบว่าเห็นอรดีอุ้มลูกอยู่ที่กองขยะในลักษณะที่จะทอดทิ้งเด็กไว้ที่กองขยะ และพอเห็นว่าเด็กตกน้ำแล้วก็หนีไปเฉยๆแทนที่จะร้องขอความช่วยเหลือ หรือวิ่งไปหาคนมาช่วย ถ้าเด็กตาย ผมจะฟ้องอรดีว่าฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต) ถ้าเด็กไม่ตายเหมือนในละครผมก็จะฟ้องว่า อรดีพยายามฆ่าลูกตัวเองโดยไตร่ตรองไว้ก่อน(ซึ่งมีโทษเพียง ๒ ใน ๓ ของโทษเต็ม ซึ่งก็ต้องปรับโทษประหารชีวิตมาเป็นโทษจำคุก ๕๐ ปี แล้วลงโทษ ๒ ใน ๓ ของ ๕๐ ปีนั่นแหละครับ)

ทีนี้เรามาดูว่า ถ้าอรดีทิ้งลูกไว้ที่กองขยะแล้วเด็กถูกมดกัด เด็กไม่ได้ดูดนม ไม่มีอาหารว่างั้นเหอะ หรือถูกสุนัขกัดเด็กเล่นจนเด็กตาย ความผิดของอรดีจะเป็นอย่างไร

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๘ บัญญํติว่า

“ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 306 หรือมาตรา 307 เป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย หรือรับอันตรายสาหัสผู้กระทำต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 290 มาตรา 297 หรือมาตรา 298 นั้น”

ซึ่งหมายความว่า ถ้าไม่ได้เจตนาฆ่า แต่เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เช่นเห็นอยู่แล้วว่ามีมดเยอะ ให้มดกัดจะได้มีคนสงสาร แต่ปรากฏว่าเด็กร้องอยู่นานไม่มีใครได้รับรู้มดก็กัด ไม่มีอาหาร จนเด็กตาย ก็ต้องระวางโทษสามปีถึงยี่สิบปี

ถ้าเจตนาทำร้ายโดยเล็งเห็นผล กรณีไม่ตาย เนื่องจากเล็งเห็นผลว่ามดต้องกัดเด็ก แต่ปรากฏว่ามดมันรุมกัดถูกตาเด็กบอด หรือหมากัดจู๋เด็กขาดไม่สามารถต่อได้ทำให้เสียอวัยวะสืบพันธุ์ กรณีนี้ถือว่าบาดเจ็บสาหัส ก็ต้องมีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี

และถ้าไตร่ตรองไว้ก่อนคือคิดอยู่แล้วว่ามันจะเป็นยังงั้นยังงี้ตามที่วางแผน ก็ต้องระวางโทษตั้งแต่สองปีถึงสิบปี

เขียนเล่าเรื่องนี้มาบอกกล่าวกันไว้ ว่าใครที่คลอดบุตรอันไม่พึงประสงค์อย่าทอดทิ้งเด็กแบบนี้ครับ เพราะมันผิดกฎหมาย ถ้าทิ้งไว้โดยที่ยังมีคนดูแล เช่นที่โรงพยาบาล แล้วแอบแว๊บบบ…แต่ยังมีพยาบาลดูแล เฮ้อ…ไม่อยากแนะนำเลย พับผ่า….

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : คุณใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อย่างไร

Next : พระจันทร์สีรุ้ง๒ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

15 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 กรกฏาคม 2009 เวลา 18:27

    ไม่ได้ดูละครเลยครับ ไม่รู้ว่าช่องไหนด้วยซ้ำไป แต่เห็นด้วยกับนัยของท่านอัยการในย่อหน้าแรก ว่าละครควรจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ดำเนินเรื่องไปเรื่อย จะหนีคำครหาว่าน้ำเน่าไปได้อย่างไร

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 กรกฏาคม 2009 เวลา 19:00

    ตามทฤษฎีของ Adler อเมริกาสร้างภาพความเป็นฮีโร ผู้พิทักษ์โลกผ่านฮอลลีวู้ด ทำให้สร้างชาติขึ้นมาได้ แต่ไทยคงอีกนานค่ะ เพราะหนังละครไทยส่วนใหญ่ยัง… มิน่านะคะ ไทยถึงเป็นเช่นนี้ ^ ^

    แมหถ้ามีเวลาจอัดเรื่องนี้ซักหน่อย อ่านที่พี่ฑูรเขียนหลายเรื่องแล้วคันมือ 55555555555

  • #3 จันทรรัตน์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 กรกฏาคม 2009 เวลา 21:00

    อิอิ….อุ๊ยดู อุ๊ยดู….เพราะอุ๊ยชอบ….อิอิ

    ที่ชอบนะคะ
    1 ชอบจินตหรา …ชอบ ช้อบ ชอบ เธอแสดงเรื่องไหนก็ชอบ…ก็คนมันชอบอ่ะ
    2 ชอบพงษ์พัฒน์เล่น…แหมๆๆๆ ไม่หลุดบทเลย เคยเดินกระแดะอย่างไง ก็กระแดะอย่างนั้น แถมตอนขาเป๋ไปข้างก็ไม่หลุดซักตอน ขนาดวิ่งก็ยังเป๋….
    3 ชอบนางเอก…ชื่อไรไม่รู้ รู้แต่ว่า เธอสวยมั่กๆ ยิ้มก็สวย ไม่ยิ้มก็สวย ร้องไห้ก็สวย …แต่งตัวก็ไม่โป๊…น่าร๊าก
    4 ชอบพระเอก ตาไม่เท่ากัน แถมชอบหรี่ตาอีก ปากก็กว้าง เล่นก็ไม่ได้เรื่อง แต่ชอบ…ฮ่าๆๆๆ
    5 ชอบบท แหม..ไม่สมเหตุสมผลอะไรสักอย่าง คนอะไร้คลอดแล้วเดินฉับๆ ตอนท้องก็หาทางเอาออกสาระพัด เด็กเกิดมาไม่ยักกะเอ๋อ…แถมยังดูสมบูรณ์ดีอีกต่างหาก คนเป็นพ่อเดินทางลงใต้ อยู่ไปอยู่มาเป็นเชียงใหม่เฉยเลย…5555 คุณน้าก็แปล้กแปลก เลี้ยงพระเอกจนเป็นหนุ่ม น้าก็สวยเช้ง ครูก็ยังตามจีบขอแต่งเป็นยี่สิบปี ..บทแบบนี้หายากนะคะ กว่าจะแต่งให้มันไร้เหตุไร้ผลสิ้นดี…คงยากพิลึก…..ฮ่า….เลยชอบ

    6 ชอบที่ท่านอัยการเขียนอีกอ่ะ….คนอะไร้ จับผิด…เอ๊ย….จับประเด็นกฎหมายได้ทุกวรรคทุกตอน…แล้วยังมีของแถม…ประมาณว่าก้มกราบก็ยังเอาเรื่องเลย…ก๊ากๆๆๆๆ…ชอบๆๆๆ

  • #4 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 กรกฏาคม 2009 เวลา 21:33

    อิอิ ท่านรอกอด

    ผมดูละครแล้วบางทีก็รำคาญกับความรับผิดชอบของบทที่ให้นักแสดงเล่น ผมว่าทุกอาชีพมันต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม สมัยเป็นอัยการจังหวัดอัดกับร้านรับซื้อของโจร ที่รับซื้อฝาท่อคูน้ำ รับซื้อสายไฟที่ตัดเป็นท่อนๆขนาดเท่าๆกัน สายโทรศัพท์ สายทองแดง ฟ้องหมดทุกรายไม่มีเหลือ เขาว่าโหด ผมพูดในที่ประชุมว่าผมแค่ต้องการความรับผิดชอบต่อสังคมของทุกอาชีพต่างๆหาก แก้ปัญหาขโมยฝาท่อ ขโมยสายไฟสายโทรศัพท์ไม่ได้สักทีเพราะยังรับซื้ออยู่นั่นแหละ ไม่ยอมรับรู้ความเดือดร้อนของสังคมก็จัดระเบียบกันหน่อย เกลียดก็เกลียดไป เพราะคนเชียร์เยอะ..อิอิ

  • #5 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 กรกฏาคม 2009 เวลา 21:33

    น้องเบิร์ด
    เอาเลย คันมือแล้วเอาเลยยยยย

  • #6 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 กรกฏาคม 2009 เวลา 21:40

    อุ้ยครับ
    ไม่อยากจับผิดหรอก แต่เด็กตกน้ำดังตูม ไม่มีเสียงร้องสักแอะ มันต้องจมน้ำแน่เลย พอแม่มันไปแล้ว มีเสียงร้อง แถมนอนอยู่บนผักตบชวา อยากรู้เหมือนกันว่ามันปีนขึ้นกอผักตบตอนไหน ฮา….
    ไม่สมเหตุสมผลหลายเรื่อง แต่เอาเหอะ ดูเมนของเรื่องที่ความรักของพ่อที่มีต่อลูกก็พอ เอาบทบาทพงษ์พัฒน์ที่แสดงเป็นพ่อได้ยอดเยี่ยม เอาบทจินตราที่เลวบริสุทธิ์ก็โอเคแล้ว ส่วนพระเอกปล่อยให้มันปวดหัวต่อไปเหอะ…ชอบ…อิอิอิ

  • #7 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 17 กรกฏาคม 2009 เวลา 22:59

    ภาษาเขมรสูงว่า มันเด็งประซา คือ ไม่เป็นประสา  หมายถึงผม ไม่ได้ดูละคอน ไม่รู้กฏหมาย เลย ไม่เป็นประสา  อิอิ

  • #8 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 กรกฏาคม 2009 เวลา 2:12

    โอย ได้ยินแต่น้อง ๆ ที่ทำงานเค้าคุยกันแว่ว ๆ แต่ไม่เคยรู้จริง ๆ ซักทีว่ามันเป็นอย่างไร
    ไม่นึกว่าดึกป่านนี้จะมาถึงบางอ้อที่บันทึกของท่านอัยการรำระบำชาวเกาะเฉยเลย อิอิ
    เพราะเป็นอีกคนที่ไม่ดูละคร แต่ถ้าบทวิเคราะห์แบบนี้สนใจค่ะ
    ยิ่งบทวิเคราะห์ละครจากมุมมองของอัยการ อย่างนี้หาดูได้ง่าย ๆ ที่ไหนล่ะ เนอะ
    แอบเห็นคนอินกับละครม๊ากมากด้วยล่ะค่ะ
    ไม่รู้กำลังคิดถึงฟามหลังหรือเปล่า

    น้าก็สวยเช้ง ครูก็ยังตามจีบขอแต่งเป็นยี่สิบปี ..บทแบบนี้หายากนะคะ กว่าจะแต่งให้มันไร้เหตุไร้ผลสิ้นดี…คงยากพิลึก…..ฮ่า….เลยชอบ

    ฮิ๊ว………….

    (^_____________^)

  • #9 จันทรรัตน์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 กรกฏาคม 2009 เวลา 6:39

    กลับมาใหม่ตามแรงพาดซบของครูปู

    อิอิ….ดูหนังไทยนะคะ….ดูอาทิตย์เว้นสองอาทิตย์ ดูตอนเริ่มกับตอนจบ แค่เนี๊ยะพอ….ส่วนรายละเอียดมาหาอ่านเอาจากบันทึกท่านอัยการแทน….555555

  • #10 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 กรกฏาคม 2009 เวลา 10:56

    อิอิ พี่บู้ท ประซาเรื่องพัฒนาชนบทเน๊าะ อิอิ

    น้องครูปู ต้องยอมรับว่าพงษ์พัฒน์ แสดงได้ดีเยี่ยม ถ่ายทอดอารมณ์ของคนเป็นพ่อได้อย่างซาบซึ้ง จินตราก็ถ่ายทอดอารมณ์ของคนขาดความรับผิดชอบได้เจ็บแสบดี คงไม่มีใครปฏิเสธว่าหมอนวดแบบนี้ไม่มี เพราะประเภทไข่ทิ้งไข่ขว้างสมัยที่ภูเก็ตยังมีไนท์คลับ จนคนรับจ้างเลี้ยงต้องขออนุญาตศาลแทนบิดามารดารับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมมากมาย ผมทำเองก็ไม่รู้กี่คดี ที่เห็นกับตาก็ไม่น้อยเพราะสมัยเป็นนักเรียนอยู่บ้านใกล้กับคนรับเลี้ยงเด็ก เพียงแต่ละครเรื่องนี้น่าตำหนิที่ความไม่สมเหตุสมผลกับเรื่องราวในละคร เช่น แย่งเด็กกันจนเด็กตกน้ำ คลอดเสร็จแล้วเดินฉับๆแบบหญิงแกร่ง หญิง…เหล็ก  ฯลฯ จับผิดได้ทั้งเรื่องแหละครับ

    ฮ่าๆ อุ้ย ใช้เครื่องทุ่นแรง

  • #11 krutoi ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 กรกฏาคม 2009 เวลา 2:45

    ครูต้อยไม่ชอบดูละคร ค่ะชอบฟังมากกว่า ท่านอัยการชาวเกาะพูดถึงกฏหมายแบบนี้ โดยเอาละครมาเป็นcase ทำให้สนุก พอเข้าใจ ขอบคุณค่ะ

  • #12 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 กรกฏาคม 2009 เวลา 7:55

    สวัสดีครับครูต้อย
    ยินดีครับที่ครูต้อยสนใจเรื่องกฎหมายแบบนี้
    อย่าลืมติดตามอ่านตอนต่อไปนะครับ

  • #13 Shahid ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 เมษายน 2014 เวลา 23:19

    You put the lime in the councot and drink the article up.

  • #14 Coach Outlet Online ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 ตุลาคม 2014 เวลา 20:55

    Its like you read my mind! You seem to know so much about this, like you wrote the book in it or something. I think that you could do with a few pics to drive the message home a little bit, but other than that, this is excellent blog. An excellent read. I will certainly be back.
    Uggs Outlet Store Coach Diaper Bag Outlet Cheap Uggs Sale Cheap Uggs China.

  • #15 Cheap Ugg Boots Wholesale ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 ตุลาคม 2014 เวลา 23:40

    Its like you read my mind! You appear to know a lot about this, like you wrote the book in it or something. I think that you can do with a few pics to drive the message home a bit, but instead of that, this is wonderful blog. A great read. I will definitely be back.
    Coach Factory Outlet Sale Coach Outlet Online Cheap Uggs Sale Uggs Outlet Sale.


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.084933042526245 sec
Sidebar: 0.064718008041382 sec