พระจันทร์สีรุ้ง๒
อ่าน: 1798เอาเรื่องพระจันทร์สีรุ้งมาว่ากันต่อ ถึงแม้จะรำคาญกับพระเอกที่เวลายิ้มทำท่าแบบไม่เต็มใจยิ้มก็ตาม ฮ่าๆ ผมพยายามจะหาข้อกฎหมายที่ไม่เคยเขียนในเรื่องใดไว้มาเขียนเพื่อให้ท่านไม่ต้องเสียเวลาอ่านเรื่องเดิม ไม่เช่นนั้นก็ต้องอ่านข้อกฎหมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เช่น เรื่องความผิดทางอาญา การที่ศศินใช้คนไปทำร้ายตะวัน ได้รับบาดเจ็บปากแตก ก็เป็นความผิดฐานก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดด้วยการใช้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๔ กับมาตรา ๒๙๕ ซึ่งศศินต้องได้รับโทษเท่ากับทำเอง ซึ่งเคยเขียนไว้ในเรื่องตี๋ตระกูลซ่ง(๓) และกรุงเทพราตรี(๔) คราวนี้ก็จะไม่นำมาอธิบายอีก
พอมัดตัวเองแบบนี้ ก็เป็นการทำความยุ่งยากให้กับตัวเอง อิอิ เพราะยังหาเรื่องมาโม้ไม่ได้ อ้อ..นึกได้แล้ว ตอนที่พระเอกเล่นฟุตบอลไปโดนอรดีทำให้โทรศัพท์ตกลงมาแตกกระจายเสียหาย ใครที่ติดตามละครก็คงพอนึกออก แต่คนที่ไม่ได้ดูละครก็อาจจะไม่เข้าใจ พอเครื่องโทรศัพท์ตกแตกอรดีก็ขู่จะแจ้งความให้ตำรวจจัดการ ตะวันก็กลัวยอมทำทุกอย่าง แถมยอมรับผิดชดใช้ราคาโทรศัพท์โดยยอมเป็นลูกน้องโดยทำงานใช้หนี้แทน ผมว่าตรงนี้คนไม่รู้เยอะและเวลาเอาคำว่าตำรวจมาขู่มักจะได้ผล แต่ความจริงคืออะไร
การทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหายนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘ บัญญัติว่า
“ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
เราลองมาแยกองค์ประกอบความผิดกันนะครับจะได้เข้าใจกฎหมายง่ายๆ
๑.ผู้ใด หมายถึงใครก็ตาม
๒.ทำให้เสียหาย (เช่น เอาขวานไปจามหน้าต่างบ้านเขา) ทำลาย (เช่น เอาของแข็งไปทุบจานชามบ้านเขาแตกเสียหาย) ทำให้เสื่อมค่า (เช่น แกล้งเอาของแข็งไปกระแทกตู้เย็นเขาบุบ) ทำให้ไร้ประโยชน์ (เช่น เอาของแข็งไปเจาะถังน้ำเขา)
๓.ทรัพย์ของผู้อื่นหรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย หมายถึงทรัพย์นั้นเป็นของคนอื่นไม่ใช่ของคนทำ หรือหากทรัพย์นั้นเป็นของผู้อื่นและผู้เสียหายเป็นเจ้าของร่วมอยู่ด้วย หรือทรัพย์นั้นเป็นของคนทำหุ้นซื้อกับเพื่อน แล้วเกิดไม่พอใจเพื่อน ทำให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์นั้นๆ หรือทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ก็อยู่ในความหมายนี้ครับ
๔.ต้องมีเจตนากระทำด้วยครับ
ที่อธิบายอย่างนี้เพราะการจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มันมีลักษณะที่กำหนดไว้ในมาตรา ๒ วรรคแรก ดังนี้ครับ
“บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้น ต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย”
อธิบายง่ายๆก็คือ จะผิดกฎหมายอาญา ก็ต้องมีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำนั้นๆเป็นความผิดและบอกด้วยว่าโทษมันเป็นอย่างไร ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘ ผมบอกแล้วนะครับว่าต้องมีเจตนากระทำ
ถามว่าตะวันเตะบอลอยู่กับเพื่อนเจตนาจะเตะลูกฟุตบอลให้โดนโทรศัพท์มือถือของอรดีหรือไม่ คำตอบคือ “ไม่”
ถามต่อไปว่าประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติไว้ไหมว่าประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายเป็นความผิด คำตอบคือไม่มีบัญญัติไว้
อ้าว…ถ้างั้น หากอรดีไปแจ้งตำรวจ ตำรวจจะทำอะไรตะวันได้ไหม ขังตะวันได้ไหม จับกุมตะวันได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้สักอย่าง เพราะกรณีนี้การกระทำของตะวันไม่เป็นความผิดอาญา
แต่ถ้าถามว่า ตะวันจะต้องชดใช้ค่าเสียหายไหม ต้องชดใช้ครับ เพราะประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๒๐ เขาบอกว่าอย่างนี้ครับ
“ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดีเสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”
ตะวันต้องชดใช้ค่าเสียหาย เพราะประมาทเลินเล่อทำให้ทรัพย์สิน(โทรศัพท์)ของอรดีได้รับความเสียหาย การตกลงทำงานชดใช้หนี้ก็เป็นเรื่องที่ตกลงกันได้ ว่าแต่ว่าโทรศัพท์เครื่องนั้นมันเสียหายขนาดไหน ตะวันเอาไปให้ร้านซ่อมเสียค่าซ่อมสักกี่ตังค์เชียว เมื่อตะวันชดใช้ราคาโทรศัพท์แล้ว แล้วตะวันย่อมสวมสิทธิเป็นเจ้าของโทรศัพท์นั้นได้ ทีหลังอย่าปล่อยให้ใครเขาเอาเปรียบได้ล่ะ ดูละครเรื่องนี้แล้วมาอ่านข้อกฎหมายก็จะได้ความรู้มากขึ้น ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนแสวงหาประโยชน์จากความไม่รู้ของชาวบ้าน
จำไว้นะครับ ถ้าไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่าการกระทำใดเป็นความผิดกฎหมายอาญา ก็ไม่อาจจับกุมคุมขังเราได้ เช่น กู้ยืมเงินแล้วไม่มีตังค์จ่าย ไม่ผิดกฎหมายอาญา เขาขู่จะไปแจ้งความก็บอกให้เขาไปแจ้งเลย ตำรวจจะมาจับกุมคุมขังเราไม่ได้ ถ้าตำรวจทำเช่นนั้นตำรวจก็จะเป็นผู้ทำผิดกฎหมายเสียเอง แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าแล้วชาวบ้านธรรมดาที่ไม่ได้เรียนกฎหมายจะรู้ไหมเนี่ย..ว่า การกระทำใดผิดการกระทำใดไม่ผิด
เอางี้ครับ ใครที่ยังไม่มีแฟน หานักกฎหมายเป็นแฟนก็แล้วกันจะได้รู้กฎหมาย วี๊ดวิ๊ววววววว…อิอิ
6 ความคิดเห็น
แหม..ประโยคต่อสุดท้ายนี้ หมัดเด็ดนะคะท่านอัยการ
เอางี้ครับ ใครที่ยังไม่มีแฟน หานักกฎหมายเป็นแฟนก็แล้วกันจะได้รู้กฎหมาย วี๊ดวิ๊ววววววว…อิอิ
ระวังคุณแอ๊ดจะดึงหูยานซะก่อนเวลาแอบไปเหล่ใครก็แล้วกันนะน้องจ๋า….ก็เล่นโฆษณาซะอย่างนี้….เวลาน้องเนื้อหอมขึ้นมากว่านี้อีก…คุณแอ๊ดจะคอยเฝ้าดูไม่ทันซะละนา
สวัสดีครับอุ๊ย
อิอิ บอกเผื่อไปสำหรับนักกฎหมายที่ยังโสดเท่านั้นครับ อิอิอิ
สวัสดีครับพี่ตา
ที่ให้ไปหานักกฎหมาย ไม่ใช่โผ้มมมม อิอิ ผมบอกเผื่อคนอื่น ฮ่าๆ
อิอิอิ
Way to go on this esyas, helped a ton.