คุณใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อย่างไร

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 14 กรกฏาคม 2009 เวลา 23:08 ในหมวดหมู่ เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 2538

สมัยเด็กๆเวลาพวกเราอยากไปดูหนังไทย คุณพ่อมักไม่อนุญาตบอกว่าชอบไปดูแต่เรื่องไร้สาระ(หนังไทยสมัยนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเพ้อฝัน พระเอกรวย นางเอกจน ต่อมานางเอกกลายเป็นลูกผู้ดีที่ตกยาก หรือไม่ก็นางเอกรวย พระเอกจน ต่อมาได้ความว่าพระเอกเป็นลูกผู้ดีได้รับมรดกมากมาย) คุณพ่อให้อ่านหนังสือ ท่านชอบที่จะให้ลูกๆเป็นนักอ่าน จึงซื้อหนังสือให้ตามที่ลูกขอ แต่การใช้เวลาว่างของพวกเราหาใช่อยู่ที่การอ่านหนังสืออย่างเดียวไม่ เพราะพ่อจะพาเราไปเที่ยวด้วยกันในวันหยุดพักผ่อน นัดญาติพี่น้องไปเที่ยวชายทะเลกันเป็นครอบครัวใหญ่ ทำกับข้าวไปกินกันที่ชายทะเล บางทีก็ไปหาของกินชายทะเล เราได้เรียนรู้ชีวิตไปในตัว

คุณอามักจะเอาปืนยาวลูกกรด .๒๒ ไปยิงนก ยิงกระรอก มาให้พวกเราได้กินกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกระรอกย่างขมิ้นเกลือ หรือแกงนกเครื่องรา ถ้าได้เยอะเราก็ได้กินนกย่าง แถมถ้าไปชายทะเลเรามักจะได้กินแย้ซึ่งมีอยู่เยอะมาก ผมยังจำได้ว่าแย้จะมีรู้เข้าออก ๑ รู และมีรูหลบภัย ๑ รู ซึ่งเรียกว่ารูพังเหย การจับแย้จะมีสองวิธี คือ ดัก โดยใช้เครื่องมือคือไม้ไผ่เหลา ทำบ่วงไว้ ที่ปลายเหลาไว้ให้แหลมเสียบไว้ที่ใกล้ปากรูแย้ โดยให้บ่วงอยู่ที่ปากรู พอแย้ออกมาบ่วงก็จะรัดคอแย้ ส่วนวิธีที่สองที่พวกผมจับกันก็คือเอาผ้าขาวม้าไปคลุมรูพังเหยแล้วหากิ่งไม้ไปแหย่รูเข้าออกของแย้ แย้มันจะหนีทางรูพังเหยก็จะไปเจอผ้าขาวม้ากระดุบๆก็คว้าคอมัน แต่วิธีนี้กระเจิงกันมาแล้วเมื่อคว้าคอได้รู้สึกว่ามันตัวโต เปิดผ้าขาวม้ากลายเป็นงูเห่าเล่นเอากระเจิง ฮา….

อาสอนให้พวกเราจัดการกับแย้เป็นขั้นตอน อันดับแรกฟัดหัวแย้กับก้อนหิน มันแน่นิ่ง เอามีดกรีดหน้าท้อง เอามือสอดเข้าไปข้างลำตัวแย้แล้วดึงหนังพรืด…เหลือแย้ตัวแดงๆ เอามีดกรีดหน้าท้องเอาไส้มันออก จากนั้นก็สับให้ละเอียดมาผัดพริกใบกะเพรา สุดยอดแห่งความหวานอร่อยกว่าเนื้อไก่หลายเท่านัก แต่พวกเราจ๋อยเมื่อคุณพ่อสั่งห้ามพวกเรา ๕ คนพี่น้องเด็ดขาด ห้ามทำกะแย้อย่างนั้นมันทารุณ ห้ามฆ่ามันเด็ดขาด ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาจนถึงบัดนี้เราไม่ได้ฆ่าแย้กันอีกเลย
เวลาพวกเราไปเที่ยวชายทะเล กินอาหารเสร็จก็กลับเมื่ออาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นเวลาที่เหมาะสม

บางครั้งวันอาทิตย์พวกเราก็นั่งร้องเพลงกันในบ้าน โกไข่(โกไข่ที่ร้องเพลงกะนายสนนั่นแหละ)หรือน้องจุมของพวกเราก็จะใช้เครื่องเคาะ หรือไม่ก็เคาะโต๊ะเป็นจังหวะกลอง ผมก็เล่นกีตาร์มั่ง ร้องเพลงมั่ง พ่อแม่พี่น้องร้องกันทุกคน มีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อบันทึกเสียงเอาไว้ โกไข่เขาเอาไปเก็บไว้ พอเจอเข้าเทปยังฟังได้ก็เลยเอามาบันทึกลงแผ่นซีดีแจกพวกเรา สิ่งเหล่านี้นอกจากจะใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แล้ว ยังได้ความสัมพันธ์ที่ดีของครอบครัวอีกด้วย

บางทีพวกเราตามอาไปสวนยางพารา ไปช่วยเก็บลูกยางพารามาเพาะเพื่อนำไปติดตา บางทีไปสวนทุเรียนซึ่งเป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง ในสวนทุเรียนมีผักเหมียงมากมาย เราสนุกกับการเก็บผักเหมียง เดินป่า หาทุเรียนตามพื้น เพราะทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองจะต้องรอให้มันหล่นก่อนถึงจะเก็บกินได้ ทุเรียนทางใต้ถ้าต้นไหนกินอร่อยเขาจะตั้งชื่อของมันและจะเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย บางทีก็ต้องจองกันด้วย เช่น “น้ำฟุ้ง” นี่ตั้งตามสภาพเวลามันหล่นลงมาจะตกลงไปในคลอง “หน้าหนำ” ตั้งตามสถานที่ที่ต้นมันอยู่ตรงหน้าขนำ ที่ อ.กะปง มีทุเรียนที่ขึ้นชื่อมากที่สุดก็คือ สาลิกา จะได้กินแต่ละปีก็ต้องจอง เดี๋ยวนี้เจ้าของต้นก็เอามาเสียบยอดขายร่ำรวยไปแล้ว แต่สาลิกายุคปัจจุบันผมว่าอร่อยสู้ของเก่าไม่ได้ เพราะเดี๋ยวนี้ตัดลูกจากต้นมาบ่ม ความจริงแล้วสาลิกาก็ไม่ใช่ปลูกง่ายเพราะต้นมันบอบบาง ผมเคยเอามาปลูกแล้วไม่รอดสักต้น และปีนี้ก็ไม่ได้กินสาลิกาแม้แต่เม็ดเดียว แฮ่ะๆ ลืมจอง…อิอิ

บางทีการใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ก็คงไม่ไปกำหนดกฎเกณฑ์ว่าจะต้องทำนั่นทำนี่ แต่น่าจะเป็นการกำหนดว่าจะเรียนรู้เรื่องอะไร หรือถ้าจะไปเที่ยวที่ไหนได้เรียนรู้เรื่องอะไรก็น่าจะถือว่าได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์บ้าง แต่ในยุคดิจิตอลเด็กๆสามารถเรียนรู้ผ่านคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต อยากได้ข้อมูลอะไรก็หาลุงกู(กูเกิ้ล) ก๊อบปี้แล้วเอามาวางในเอกสาร พิมพ์หน้าปกแล้วเอาไปส่งครู ข้างในเขียนว่าอะไรก็ไม่รู้เพราะไม่ได้อ่าน ฮา….

เมื่อวานหยิบหนังสือรีดเดอร์ไดเจสต์มาอ่านเล่น ไปเจอข้อมูลที่น่าสนใจ เพราะเราพูดกันถึงการใช้เวลาว่างให้มีประโยชน์ แสดงว่าในยี่สิบสี่ชั่วโมงเรายังมีเวลาว่างจึงต้องใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีการสำรวจว่าถ้าวันหนึ่งมี ๒๕ ชั่วโมง เวลาที่เพิ่มขึ้นนั้นคนในประเทศไหนจะทำอะไรกันบ้าง ได้ข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้ครับ

คนสเปนน่ารักมากครับ ๕๐ % บอกว่าอยู่กับครอบครัว รองลงมาก็บราซิล แคนาดาและอังกฤษ แต่คนตุรกี ๔๑ % บอกว่าจะไปออกกำลังคนอินเดีย ๕๐ % ตอบว่าทำงาน ส่วนพี่ไทยรู้ไหมครับตอบว่าไง พี่ไทย ๓๒ % ตอบว่า นอน ครับ..ฮา….
(ขอบคุณข้อมูลจากรีดเดอร์ไดเจสต์ ฉบับเดือนมิถุนายน ๒๕๕๒)

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : ผมไปร่วมเสวนาการเมืองนำการทหาร๒

Next : พระจันทร์สีรุ้ง๑ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 14 กรกฏาคม 2009 เวลา 23:39

    ออกอาการแล้ว ๆ ๆ ๆ
    ตอนแรกก็นึกว่าแค่รูปถ่าย  คราวนี้…เล่าความหลัง  เดี๋ยวมี….กินของขม  ชม……ฯลฯ  อิอิอิอิ

  • #2 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กรกฏาคม 2009 เวลา 1:45

    น่าเสียดายนะคะ  ที่ปัจจุบันการใช้เวลาอยู่ด้วยกันในครอบครัวน้อยลงกว่าในสมัยก่อนมาก  ตอนเป็นเด็กๆ
    ป้าหวานก็จำได้ว่าเรามีเวลาให้กันง่ายมากๆ  เหมือนชีวิตเต็มอิ่มไม่ต้องดิ้นรนอะไรกันมากมายนัก   กลางคืน
    ดูหนังสี่จอกันทุกวัน  อิอิ อิอิ มีประกวดร้องเพลงด้วย  ลูกคนไหนร้องเพลงจะได้เพลงละ 1 บาทค่ะ  ไม่ได้
    จริงจังเรื่องเงินรางวัล แต่นักร้อง ร้องอย่างเต็มใจยิ่งนัก
                 ในปัจจุบัน  เราเหมือนอยู่ด้วยกันแต่ต่างคนต่างอยู่  ต่างคน ต่างมีหน้าที่ มีกิจกรรม มีเวลาว่าง และมีเพื่อนของตัวเอง  เวลาที่จะจัดสรรลงตัว อยู่ด้วยกันแบบง่ายๆสบายๆช่างไม่ลงตัว ตรงกันเอาเสียเลยค่ะ

  • #3 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กรกฏาคม 2009 เวลา 6:23

    ฮ่าๆ ยังไม่ครบ เอาเหอะ ชอบกินของขมมาแต่ไหนแต่ไรแล้วและเพราะเป็นเยาหวาน เล่าความหลังก็เล่ามานานแล้ว แต่เรื่องชมเด็กสาวนี่…ยังไม่ได้ทำเหมือนใครบางคน  ก๊าก….

  • #4 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 15 กรกฏาคม 2009 เวลา 6:31

    สวัสดีครับปเหวาน
    นึกถึงเรื่องเหล่านี้แล้วมีความสุขครับ

    สมัยก่อนไปเที่ยวน้ำตก หุงข้าวและเอาปลาเค็มไปอย่างเดียว เอากะปิ น้ำปลา พริก ที่เหลือไปหาเอาข้างหน้า ตัดหยวกกล้วยป่ามาแกงเลียง ทำน้ำพริก ผักก็หาแถวในป่าแถวนั้นแหละ ซัดข้าวกันเป็นชามๆ
    ผมให้ลูกใกล้ชิดกับครอบครัวใหญ่ เขาสนิทกับคุณปู่คุณย่า เขาชอบกอดปู่ย่า สนิทกับป้า อาทุกคน เราพยายามใช้เวลาร่วมกัน ทุกวันนี้เวลาเป็นวันหยุดของลูกสาวเราก็หาเวลาไปทานข้าวพร้อมกันทั้งสี่คน(รวมลูกชายด้วย) อย่างน้อยก็มื้อหนึ่ง เพื่อสร้างความรักในครอบครัว

    ถ้าจะหาวันว่างตรงกันต้องประกาศล่วงหน้า ว่าวันนั้นวันนี้ต้องเจอกันให้ได้ เดี๋ยวนี้เราดิ้นรนทำมาหากินกันจนไม่ค่อยมีเวลาว่างให้ครอบครัวใหญ่ ครับ

  • #5 Uggs Outlet Online ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 ตุลาคม 2014 เวลา 3:20

    Its like you read my mind! You seem to know a lot about this, like you wrote the book in it or something. I think that you could do with a few pics to drive the message home a bit, but instead of that, this is excellent blog. An excellent read. I’ll certainly be back.
    Coach Outlet Coach Outlet Authentic Coach Outlet Online Uggs Outlet Store Online.

  • #6 Coach Mens Outlet ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 ตุลาคม 2014 เวลา 6:21

    Its like you read my mind! You appear to know so much about this, like you wrote the book in it or something. I think that you can do with some pics to drive the message home a bit, but instead of that, this is excellent blog. A great read. I’ll definitely be back.
    Ugg Outlet Online Cheap Ugg Boots Cheap Uggs For Sale Online Outlet Coach Outlet Handbags.


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.25115299224854 sec
Sidebar: 0.077867031097412 sec