บันทึกถึงลูกสาว๕
อ่าน: 1965ห่างหายจากวงการเสียหลายวันเพราะงานท่วมหัวครับ วันนี้พอมีเวลาว่างก็เลยนำบันทึกมาให้อ่านกันต่อ
๑๘ สิงหาคม ๒๕๒๖
ลูกเริ่มยืนได้นานแล้ววันนี้ ทุกวันพ่อกลับจากทำงาน ลูกจะโผเข้าหาพ่อ หากพ่อไม่รับลูกจะร้องทุกครั้ง แล้วพ่อต้องซื้อขนมมาป้อนลูกกับพี่เนติ์ทุกวัน เสร็จแล้วดื่มน้ำหวาน ลูกชอบให้พ่อป้อนน้ำแข็งโดยป้อนแบบใช้ปากต่อปาก บางทีพอลูกอยากจะกินอะไรก็อ้าปากหวอมาจ่อที่ปากพ่อ ปากแม่ แทบทุกครั้ง(เหมือนลูกนกเลย..อิอิ) นี่พ่อกำลังคอยดูว่าเมื่อไรลูกจะหัดเดิน รีบเดินเร็วๆนะ พ่อขี้เกียจอุ้มนะซิ
๘ ตุลาคม ๒๕๒๖
งานพ่อยุ่งมากจนไม่ได้บันทึกเสียหลายวัน เพราะที่ทำงานพ่อมีงานพิเศษต้องเร่งฟ้องคดีทุจริตในศาลแขวงธนบุรี พ่อต้องช่วยติวเตอร์ร่างฟ้อง ตรวจฟ้อง ว่าความและอะไรจิปาถะ ไม่มีเวลาดูหนังสือสอบผู้พิพากษาเลย โอกาสที่จะได้เล่นกับลูกก็น้อย ตอนนี้พ่อจนมาก น้ำหนักเหลือแค่ ๘๑ กิโล (นี่ขนาดลดแล้วนะเนี่ย..อิอิ) เดิมตอนเข้ารับราชการเป็นอัยการใหม่ๆน้ำหนัก ๘๖ กิโลกรัม ที่น้ำหนักลดเพราะพ่อต้องงดอาหารมื้อเช้าเสีย ๑ มื้อ เพื่อเหลือเงินไว้ซื้ออาหารตอนเย็น ค่านมลูก ค่ามช้จ่าย ค่าที่พัก ฯลฯ และถ้ายังขืนอยู่กรุงเทพฯเป็นปี พ่อคงต้องลดน้ำหนัก งดอาหารอีกมื้อ ถือศีล กินวันละมื้อเสียละกระมัง
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ลูกเป็นฝีที่นิ้วกลางข้างขวา บวมเป่ง แดง กลางคืนนอนร้องไห้ พอหัวฝีโผล่ขึ้นมาแม่ก็เอาเข็มบ่งให้ เห็นแม่บอกว่าหนองออกมาสีค่อนข้างเขียว ตอนนี้นิ้วลูกยังแดงๆอยู่แต่เริ่มยุบแล้ว เลยเล่นซนได้อีก ลูกชอบแกล้งพี่เนติ์ และขณะเดียวกันพี่เนติ์ก็ชอบแกล้งลูก ลูกชอบกัดทุกอย่างที่ขวางหน้าแม้แต่แม่ลูกก็กัด กัดถึงขนาดเลือดออกเชียวนะ แม่เรียกลูกว่าไงรู้ไหม…แม่เรียก “ลูกหมา”…
๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๖
ลูกนับว่าเป็นเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงคนหนึ่ง ซนเป็นยอด หลังจากนิ้วเป็นฝีแล้ว ยังไม่เห็นเป็นอะไรเลย ตอนนี้เราไม่ได้ชั่งน้ำหนักลูกกันเลย อย่าน้อยใจนะถ้าเห็นบันทึกของพี่เนติ์มีบันทึกในรายละเอียดมากกว่าลูก เพราะสมัยของพี่เนติ์ แม่ทำงานอยู่โรงพยาบาลชั่งเมื่อไหร่ก็ได้ สมัยของลูกเป็นลูกสาวอัยการมีแม่เป็นคุณนายอัยการ(แม่ไม่ชอบให้เรียกคุณนาย อยากเป็นคนธรรมดา อิอิ) ต้องมาอยู่กรุงเทพฯไม่มีที่ชั่งน้ำหนักลูก ก็เลยไม่รู้ รู้แต่ว่าลูกอ้วนขึ้น แข็งแรงขึ้น สุขภาพจิตดี อารมณ์แจ่มใส ขี้เล่น ช่างหัวเราะ หน้าทะเล้น อ้อนเก่ง สารพัดเลยเชียวแหละ ใครเห็นเขาก็ว่าลูกน่ารักกว่าพี่เนติ์ตั้งเยอะ ลูกชอบฟังเพลงเวลาเสียงเพลงดังลูกจะนั่งโยกตัว บางทีก็ยืนเต้น สนุกไปเลย ตอนนี้ลูกชอบเลียนแบบพี่เนติ์ ถ้าพี่เนติ์เขียนหนังสือลูกจะเขียนด้วย พี่เนติ์กินนมถ้าแม่ชงให้ลูกไม่ทันลูกจะแย่งของพี่เนติ์มาทาน พี่เนติ์เล่นอะไรลูกจะเล่นด้วย พี่เนติ์โมโหจะตีลูก ลูกก็จะตีมั่งไม่ยอมแพ้เหมือนกัน….
ลูกพ่อตอนนี้ ๑๑ เดือนเข้าไปแล้ว เดินได้ค่อนข้างคล่องได้หลายก้าวโดยไม่ล้ม ชอบแกล้งพี่เนติ์ มีอยู่วันหนึ่งเอากีตาร์มาเล่นตีโดนหัวพี่เนติ์ พี่เนติ์เลยเอามือตีหัวลูกมั่ง ลูกหัวเราะชอบใจ เวลาพ่อกลับจากทำงานก็จะร้องให้พ่ออุ้ม พอพ่อขึ้นนอนบนเตียง ลูกจะตามมานอนข้างๆ พ่อแกล้งขยับออกห่าง ลูกจะขยับตามเข้ามา ขึ้นมานอนบนพ่อบ้าง ตีพ่อบ้าง เวลาพ่อดุก็ทำหน้าทะเล้นไม่กลัว พ่อจะตีก็คลานไปหาแม่ แม่ตีก็คลานมาหาพ่อ บางครั้งพอโดนดุก็ทำปากแบะถ้าใครเข้าไปโอ๋ก็จะหัวเราะทันที น่าหยิกนักเชียว…
๒ ธันวาคม ๒๕๒๖
วันนี้เป็นวันเกิดของลูก พ่อซื้อตุ๊กตาแบบหลับตาลืมตาได้มาให้เป็นของขวัญ ก้ออ้อยซื้อชุดหนาวมาฝาก ๑ ชุด วันนี้พ่อกลับจากที่ทำงานมาคิดว่าจะทำอะไรกินกันเล็กน้อยระหว่าง พ่อ แม่ เจกจุม ก้ออ้อย ลูก และพี่เนติ์ แต่เมื่อพ่อกลับมาถึงที่พักก็ใจเสียเมื่อเจกจุมอุ้มลูกมาบอกว่าถูกมีดโกนบาดมือ พ่อดูแผลเห็นยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร ลูกประมาณครึ่งเซนติเมตร ก็นึกว่าลูกคงเจ็บมากแต่ลูกไม่ร้อง พบแม่ก็รู้ว่าลูกถูกมีดบาดขณะที่แม่กำลังซอยผมให้พี่เนติ์แล้วลูกตะปบเอามีดจึงโดนมีดบาด
เราพากันไปคลินิกเพื่อเย็บแผล พอไปถึงหมอไม่เย็บแต่เอาทิงเจอร์เช็ดแผลให้ ลูกร้องไห้น้ำตาไหลพราก พ่อสงสารเป็นที่สุดและหมอเอาทิงเจอร์ชนิดไม่แสบทาให้อีกและไม่เย็บ คราวนี้ลูกนิ่งดูหมอทำแผลเฉย หมอบอกว่าถูกเส้นเลือดใหญ่ด้วย เมื่อหายแสบแล้วหมอให้ยามาทานด้วย ลูกทานยายากต้องจับกรอกแล้วลูกก็หลับ ตกลงงานวันเกิดลูกก็ไม่ได้จัดโดยปริยาย อีกอย่างหนึ่งถึงจัดก็ไม่เหมือนที่พ่อจัดให้พี่เนติ์เมื่อครบขวบ เพราะฐานะทางการเงินของครอบครัวเราเปลี่ยนไป แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พ่อแม่ก็รักลูกปานดวงใจและชื่นใจเมื่อลูกโตมาครบขวบโดยไม่มีอาการแทรกซ้อนหรือเจ็บไข้เหมือนกับเด็กอีกหลายคน ลูกเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายแต่ซุกซนซึ่งเป็นนิสัยของเด็กฉลาดโดยทั่วไป
พ่อต้องบันทึกไว้ว่าเมื่อลูกอายุครบขวบลูกเป็นเด็กที่สมบูรณ์มากคนหนึ่ง ที่ใครๆที่ได้เห็นต่างพูดกันว่า น่ารักมากและคำถามต่อมาก็คือ ผู้หญิงหรือผู้ชายกันนะ ทั้งนี้เพราะลูกผมไม่ดกเหมือนเด็กหญิงอื่นแต่ผมลูกก็หยิกและหน้าตาบ้องแบ๊วดี แถมยิ้มง่าย ชอบประจบและทุกวันนี้ชอบขึ้นมานอนกับพ่อเกือบทุกคืนตอนดึกๆ และลูกเริ่มแสดงอาการอิจฉา เมื่อพ่อกอดและหอมพี่เนติ์ลูกจะเข้ามาให้พ่อกอดและหอมลูกด้วย แต่ก็ดีอยู่หน่อยเวลาถูกดุและสั่งให้นอนลูกก็จะนอนและทำตาปริบๆแอบมองดูว่าพ่อกับแม่จะทำอะไรต่อ พอเผลอลูกจะแอบลุกขึ้นมาเล่นต่อ
ขณะนี้ลูกกินจุมากเนื้อเป็นก้อนๆเลยทีเดียว และลูกกินทุกอย่างที่ขวางหน้า เห็นใครกินอะไรเป็นไม่ได้จะกินด้วย จนตัวอ้วนกลมเป็นลูกฟุตบอลอยู่แล้ว พ่อเลี้ยงไม่ไหวแล้วนะ มีประกวดที่ไหนคิดว่าจะส่งลูกประกวดสักทีจะได้รางวัลหรือเปล่าน้อ….แต่พ่อว่าน่าจะได้รางวัลบ้างนะถ้าลูกประจบกรรมการเหมือนประจบพ่อ (อิอิ) พ่อจะเข้าอบรมวิชาการในวันจันทร์ที่ ๑๒ ธันวาคม นี้ ซึ่งคงจะทำให้พ่อได้พบหน้าลูกเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เพราะวันอื่นพ่อคงต้องไปพักกับเพื่อนใกล้ๆที่อบรมเพราะอยู่ไกลจากที่พักเรามาก แต่ถึงอย่างไรพ่อก็ยังคิดถึงลูก พี่เนติ์ และแม่มากเหมือนเดิม และรักมากด้วย…..
พ่อเขียนอวยพรให้ลูกว่า “ขออวยพรให้ลูกเป็นเด็กมีพลานามัยสมบูรณ์ มีความเฉลียวฉลาด มีความคิดริเริ่มที่ดี รู้จักกระทำในสิ่งที่ควรกระทำ เว้นในสิ่งที่ควรเว้น”……(ยังมีต่อ)
Next : อัยการกับยุติธรรมทางเลือก๑ » »
2 ความคิดเห็น
ซาบซึ้งกับความรักของ”พ่อ” และเห็นความอบอุ่นที่ยิ่งใหญ่ของครอบครัว ..น้องเนติ์และนิวโชคดีมากๆค่ะ เป็นเนื้อนาบุญที่ดีเหลือเกิน ^ ^
ขอบคุณน้องเบิร์ดที่แวะมา
เนติ์นิวเป็นเด็กที่ไม่มีปัญหาที่ทำให้พ่อกับแม่ยุ่งยากใจเลย
ครอบครัวเรามีความสุขตามอัตภาพ ทุกวันนี้เวลาไปทานอาหารเช้าหรือเย็น พ่อจะเป็นคนจ่าย ส่วนลูกๆนานๆจะควักกระเป๋าครั้ง อิอิ