บันทึกถึงลูกสาว๔

โดย อัยการชาวเกาะ เมื่อ 5 พฤษภาคม 2009 เวลา 8:49 ในหมวดหมู่ ครอบครัว, เรื่องทั่วไป, เฮฮาศาสตร์ #
อ่าน: 1256

๑๔ มีนาคม ๒๕๒๖

พ่อไม่มีเวลาบันทึกเรื่องราวเพราะพ่อกำลังเตรียมสอบ จะหยิบสมุดมาเขียนบางทีก็ไม่รู้จะเขียนอะไรจึงต้องวางทิ้งไว้ ส่วนของพี่เนติ์ เดือน ก.พ.ก็ไม่ได้เขียน อาการมือเย็น เท้าเย็นของลูกก็ยังไม่หายขาดไปทีเดียว มีเป็นบางครั้ง วันก่อนว่าจะไปถามหมอที่ภูเก็ตก็ลืม พ่อไปเอารถกลับมาเมื่อวันที่ ๕ มี.ค.๒๖ ลูกก็เพิ่งได้นั่งรถพ่อวันที่ ๖ มี.ค. ชักเหมือนพี่เนติ์ตอนแรกๆอีกคน ยิ่งเมื่อวานพ่อพาไปบางสัก(หาดบางสัก ตะกั่วป่า) ลูกหลับสบายเพราะลมเย็นดี พอขึ้นรถลูกหลับ พอรถจอดลูกตื่น สงสัยพ่อต้องขับรถพาลูกเที่ยวทุกวันอีกคนละมั๊ง

๑๐ พ.ค.๒๕๒๖

พ่อไม่ได้เขียนบันทึกให้ลูกตั้งเป็นเดือนเกือบสองเดือนแล้วซิ เพราะพ่อขึ้นไปสมัครสอบอัยการที่กรุงเทพ กลับมาถึงตะกั่วป่าวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๒๖ คุณป้าของพ่อ(ก้อโป๋)ก็ถึงแก่กรรมด้วยโรคหัวใจวาย เราต้องไปงานศพอยู่ที่พังงาจนถึงวันจันทร์จึงกลับมาตะกั่วป่า แล้วเราก็ต้องหาคนมาช่วยดูแลลูก ได้ “ป้าผล”มา พ่อเห็นคนมาเลี้ยงลูกแล้วกลุ้มใจเพราะป้าผลเป็นชาวบ้านที่ไม่ค่อยเอาใจใส่ในการเลี้ยงเด็กอย่างที่พ่อกับแม่ต้องการ แถมยังมายุ่งกับลูกความของพ่ออีกแน่ะ คือเวลาพ่อนั่งคุยอยู่กับลูกความแกก็จะมีคำถามถามลูกความของพ่อเหมือนกัน (ยังกะแกเป็นผู้ช่วยทนายความ อิอิ) ซึ่งพ่อไม่ชอบเลยเพราะเวลาคนเขาเป็นความกันไม่ใช่เรื่องสนุกและโดยมารยาททนายความแล้ว เราจะเอาเรื่องของลูกความเราไปเล่าให้คนอื่นฟังไม่ได้

ไอ้ที่แย่กว่านั้น คือ วันหนึ่งพ่อกลับจากทำงานเห็นลูกเข้าใจว่าถูกมดกัดหรือยุงกัดลายไปทั้งตัว ป้าผลบอกว่าไม่รู้อะไรกัด นอนอยู่ดีๆ แสดงว่าป้าผลไม่สนใจดูแลที่นอนลูกเลย เวลาพ่อแม่กลับจากงานบางครั้งเห็นป้าผลนอนหลับ มีอยู่วันหนึ่ง แม่กับพ่อไปทานขนมจีนบ้านลุงอ๊อด พอทานเสร็จพ่อกลับมาก่อน แม่สั่งพ่อว่าให้ชงนมให้ลูกไว้ด้วย พ่อกลับมาก็ชงนมแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น เห็นในตู้เย็นมีอีกหนึ่งขวด ถามแม่จึงรู้ว่าแม่ชงไว้เผื่อ ๑ ขวดแล้ว แล้วพ่อก็ออกจากบ้านไป พอขากลับป้าผลก็มารายงานว่า วันนี้ลูกเก่ง “ทานนมในตู้เย็นหมดทั้งสองขวด ป้าชงเอง ๑ ขวด” เล่นเอาพ่อกับแม่งง เพราะตอนพ่อเข้ามาชงนมป้าผลหลับ และนมในตู้เย็นแม่ชง ๑ ขวด พ่อชง ๑ ขวด ตอนพ่อมาชงป้าผลไม่รู้ว่าพ่อมาชง แต่ก็ยังบอกกับแม่ว่าแกชงเอง (แก่แล้วยังขี้หกอีก เฮ้อ) และเท่าที่พ่อสังเกต ก็คือ เวลาเห็นพ่อหรือแม่มา แกจะรีบเสนอหน้าทันที เช่น พ่อจอดรถนอกบ้าน แต่ยังไม่เข้าบ้าน ได้ยินเสียงลูกร้อง แต่พ่อก็ยังไม่เข้าบ้านพอก้าวเข้าไปในบ้านถึงจะได้ยินเสียงป้าผล “โอ๋…ร้องทำไม” (ดูมารยาคนแก่ อิอิ) แกจับลูกมาอุ้มถึงหยุดร้อง ถ้าไม่มีใครแกจะไม่สนใจลูกเท่าที่ควร แกจึงเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกได้ไม่นาน ไม่เหมือนป้านุ้ยของลูกที่เอาใจใส่ลูกจริงจัง เอาละพ่อเขียนแค่นี้ก่อนนะ…

๑๖ มิถุนายน ๒๕๒๖

ฟันของลูก เริ่มงอกจากฟันล่างตั้งแต่เมื่อเดือน พฤษภาคมปลายเดือน และปัจจุบันลูกมีฟันถึงสี่ซี่ ทั้งๆที่เพิ่ง ๖ เดือนเท่านั้น ฟันหน้าของลูกซี่ใหญ่ยังกะจอบทั้งสองอัน แถมฟันห่าง ส่วนฟันล่างก็ขึ้นมาเบียดกันแบบของพ่อ ตาก็ชั้นเดียวมีดีอยู่หน่อยก็ตรงคิ้ว เฮ้อ! ลูกสาวเราจะสวยไหมน้อ..?

ลูกร่าเริงทุกวัน ยิ้มหัวเล่นกับพี่เนติ์ เล่นกับพ่อ เล่นกับแม่ บางครั้งก็เล่นคนเดียว อย่างวันนี้เล่นม้าของพี่เนติ์ ม้านอนอยู่ลูกจับพลิกไปพลิกมาม้ายืนได้ พอตกเย็นลูกเล่นโยนขวดน้ำแล้วคลานไปเก็บมาโยนแกว่งใหม่ แล้วหัวเราะเอิ้กอ้าก ยิ่งเช้าๆตื่นนอนขึ้นมาต้องยิ้มก่อนและเดี๋ยวนี้ชอบซุกตรงอกพ่อและแม่ แถมนอนยิ้มซะอีกแน่ะ เวลาพี่เนติ์นอนหลับก็ไปทำเสียงอ้อแอ้ใกล้ๆจับโน่นจับนี่จนพี่เนติ์รำคาญร้องไห้ก็มี…..

ลูกพ่อตอนนี้จะเป็นลูกสาวอัยการอยู่รอมร่อแล้วนะ พ่อทราบผลการสอบข้อเขียนแล้ว ปรากฏว่าพ่อสอบผ่านข้อเขียนของข้อสอบอัยการผู้ช่วย ซึ่งอาจได้รับการบรรจุเข้าในกรมอัยการในวันที่ ๑ กรกฎาคม นี้ ถ้าสอบปากเปล่าผ่านอีกครั้ง พ่อใจเต้นแต่ก็คิดว่าพ่อได้เป็นอัยการแน่….

๗ สิงหาคม ๒๕๒๖

ลูกเป็นลูกสาวอัยการจริงๆนั่นแหละ พ่อบรรจุเป็น “อัยการผู้ช่วย” เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๒๖ เป็นคนที่ ๑๗๑ ของรุ่น และได้รับเลขประจำตำแหน่งที่ ๙๙๖ ได้เลขรับเงินเดือนที่ บ.๔๕ อยู่กองคดีอาญากอง ๑ พ่อเข้ากรุงเทพก่อน อยู่ได้ ๒ อาทิตย์ก็ไปรับลูก พี่เนติ์ แม่ พ่อ เรามาพร้อมกันด้วยรถภูเก็ตท่องเที่ยว พ่อได้ตั๋วที่นั่งฟรีสองที่นั่ง ซื้อตั๋วให้พี่เนติ์ ๑ ที่นั่งทุกลักทุเลพอสมควร เราอยู่บ้านเจกจุม(โกไข่ ศิลปินแกรมมี่ปัจจุบันนี่แหละ..อิอิ) ๒ อาทิตย์ ก็ย้ายไปอยู่ซอยข้าวเม่า ๒ พรานนก ขนของกันน่าดู ตอนนี้ของยังอยู่ในลังอีกสามลังที่ยังไม่เอาออกมาใช้ แม่ของลูกขนของน่าดูเลยเหมือนกับจะย้ายไปอยู่กรุงเทพแล้วจะไม่กลับยังงั้นแหละ

ฟันลูกขึ้น ๗ ซี่แล้ว ฟันบน ๔ ซี่ ฟันล่าง ๓ ซี่ ลูกกัดพ่อจนเลือดออกมาครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นลูกก็ไม่กัดพ่ออีกเลย ลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี ตื่นตอนเช้าต้องยิ้มกับพ่อก่อนเสมอ แต่เวลาใกล้นอนมักจะโยเยอยู่เรื่อยๆ แล้วตอนนี้หัดมีนิสัยเสียตื่นกลางคืนต้องร้องทุกครั้ง ไม่รู้ลูกจะร้องไปทำไม พ่อยังไม่ได้อ่านหนังสือเตรียมสอบผู้พิพากษาเลยสักตัว เพราะเรายังไม่เข้าที่เข้าทาง ลูกและพี่เนติ์ก็กวนทำให้พ่อไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือ ยิ่งพี่เนติ์กวนกับพ่อ ใช้อะไรก็ไม่สนใจ ห้ามอะไรก็เหมือนยุ ก็ยิ่งทำให้พ่อไม่มีอารมณ์จะอ่านหนังสือเลย คิดแล้วพ่อยังอยากให้พี่เนติ์ไปอยู่กับป้าแดง(พี่เลี้ยงพี่เนติ์) ลูกอยู่กับป้านุ้ย(พี่เลี้ยงลูก)เพราะลูกไม่ค่อยกวน แต่ชอบกวนพ่อกับแม่ แต่ลูกก็คือลูก แม่ของลูกไม่ยอมให้ส่งลูกไปอยู่ตะกั่วป่าหรอก ขนาดห่างลูกแค่คืนเดียวยังนอนร้องไห้คิดถึงลูกเลย..(อิอิ)

๑๓ สิงหาคม ๒๕๒๖

วันนี้ ป้านวลมาหา ซื้อขนม ส้มตำ มาเยอะแยะ ตกบ่ายเราไปเที่ยวห้างพาต้าปิ่นเกล้ากัน ดูนก ดูสัตว์กัน เดินดูของแล้วกลับบ้านพัก ลูกดูท่าทางตื่นๆแปลกๆกับที่ซึ่งมีคนเยอะก็ได้ (บ้านนอกเข้ากรุง อิอิ) นี่ลูกก็ย่างเข้าแปดเดือนเข้าไปแล้ว ยิ้มเก่งและซนเก่ง พ่อก็ได้แต่ดูลูกเติบโตขึ้นทุกวัน แต่ลูกอย่าลืมว่าลูกเป็นผู้หญิง อย่าซนเป็นลิงนะลูกนะ…

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : ดงผู้ดี(๕)

Next : บันทึกถึงลูกสาว๕ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

5 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2009 เวลา 10:00

    จะไม่ให้ลูกรักพ่อได้อย่างไร ละเอียดยิบเลย
    เป็นตัวอย่างพ่อที่ดีมากๆ ผมยังทำไม่ได้เลย ทำบ้างแต่ไม่ตลอดรอดฝั่งอย่างท่านอัยการครับ

    พี่ชายผมก็เป็นลมชัก แต่สมัยโบราณหมอไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ จึงไม่ได้รักษาอย่างดี เอาตามมีตามเกิดแบบคนบ้านนอก พี่ชายจึงไม่ได้เรียนหนังสือเลย เรียนก้ไม่จบ เพราะเป็นลมชักตลอด โดยเฉพาะช่วงก่อนฝนตกกับเมื่อทานข้าวเหนียว  แปลกดี….

    ดีครับ ดีมากๆครับ

  • #2 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2009 เวลา 12:36

    สวัสดีครับพี่บู้ธ
    ขอบคุณที่แวะมาครับ
    ลูกเขารับรู้บันทึกนี้กันตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ครับ

  • #3 พี่นิด ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2009 เวลา 12:40

    บันทึกถึงลูกสาวต้องอ่านแล้วละค่ะ ตัวน้องเองลูกสาว 2 คน (ลูก 2 คน ห่างกัน 2 ปี พอดี) ห่างลูกคืนเดียว  จะแย่ ทั้งที่ให้พี่สาวสามีเลี้ยง ก็ยังห่วง ต้องให้พ่อของลูก ขับรถไปนอนกับลูกในกลางดึกของคืนนั้น ทั้งที่ท้องที่ 2 ใหญ่มาก และมีปัญหาในท้องคนที่ 2 เพิ่งจะท้องเข้า 7เดือน เกิดภาวะท้องคุกคาม น้องจะออกมาอย่างเดียว แต่ไม่สามารถคลอดมาได้ เพราะรกของลูกเกาะต่ำ เลือดพาลจะตกอยู่เรื่อยๆ เพราะลูกโตหลัง 7 เดือนเร็วค่ะ ต้องนอนโรงพยาบาล ถึง 2 เดือน ยังให้พี่สาวนำคนโตมานอนด้วย  ลูกคนโตขณะนั้น 2 ขวบ  ตัวเล็กๆๆ แต่เดินเก่งมาก คอยช่วยป้าพยาบาลเข็นรถ เปลื่ยนผ้าที่นอน เข้า ล็อคโน้น ออกล็อคนี้ ไม่งอแง ยิ้มเก่ง เพราะได้มาอยู่ใกล้แม่ น่ารัก ไม่ซน ไม่ดื้อ มีอะไรก็ทาน ถึงเวลาก็นอนเคียงกัยแม่บนเตียง รพ. น้องขณะนั้นมีความสุขที่มีลูกอยู่ใกล้ คอยดูแล เค้า  ตอนนี้ 13 กับ 15 ปี ค่ะ จากไปใหนก็ไม่ค่อยได้ เค้าจะเข้าใจพูดไม่ให้เราไป บอกแม่ว่าเวลาเค้าคิดถึงแม่ เค้าจะทำอย่างไร  แม่เลยหาเหตุไม่ไปราชการการ เอาไปเฉพาะจำเป็น แต่ เวลาเค้าทะเลาะกัน ปวดหัว ช่วยปราม เป็นกรรมการกันจะแย่ แต่เวลาเค้าเล่นกันดีๆๆ ค่อยยังชั่วค่ะ ไว้น้องคอยเแจมมกับพี่อัยการใหม่นะคะ

  • #4 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2009 เวลา 16:22

    ขอบคุณคุณนิดที่มาร่วมเติมความรู้สึก

    คนเป็นพ่อแม่พอลูกโตหน่อย บางทีพอขัดใจเขาเข้าเขาจะพูดคำว่าพ่อแม่ไม่รัก แต่บันทึกนี้จะเป็นหลักฐานอย่างดีครับ

  • #5 พี่นิด ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 พฤษภาคม 2009 เวลา 21:41

    รักลูกนะคะ ชีวิตก็ให้ได้นะคะ พี่อัยการ อิอิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.28978180885315 sec
Sidebar: 0.096004009246826 sec