อัยการกับยุติธรรมทางเลือก๑

อ่าน: 2376

ผมทำงานช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๗ มาจนถึงปัจจุบัน ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางแนวคิดของอัยการที่มีต่อประชาชนหลายเรื่อง เดิมเขาเรียกอัยการว่า “ลูกอีช่างฟ้อง” (ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพ) แต่เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะแนวคิดของคนเป็นอัยการถ้าพยานหลักฐานห้าสิบห้าสิบ อัยการจะเลือกสั่งฟ้องไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เพราะเมื่อไหร่ที่สั่งไม่ฟ้อง สังคมรอบข้างจะมองอัยการด้วยสายตาที่ไม่มีความเชื่อมั่นเอาเสียเลย นึกไปก่อนว่าสั่งไม่ฟ้องเพราะมีการทุจริตคอรัปชั่น

ผมเสนอสำนวนโดยทำความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องเพราะพยานหลักฐานที่จะนำไปเสนอชั้นศาลไม่หนักแน่นพอที่จะให้ศาลลงโทษจำเลยได้ ไม่ใช่วิเคราะห์เพียงแค่ว่าพอฟ้องหรือไม่พอฟ้อง แต่ผมเห็นว่าเมื่อฟ้องแล้วต้องนำเสนอข้อเท็จจริงให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยได้ถึงจะฟ้อง ไม่งั้นเสียเวลาเปล่า และที่สำคัญคนที่ถูกฟ้องเขาไม่ได้รู้สึกมีความสุขที่ถูกฟ้อง ถ้าพยานหลักฐานยังเป็นที่สงสัย ต้องมองผู้ต้องหาบริสุทธิ์ไว้ก่อน แรกๆเพื่อนๆก็มองเหมือนกับว่าผมมีผลประโยชน์กับสำนวนเหล่านั้น แต่ผมก็ไม่ยี่หระที่จะทำความเห็นตรงไปตรงมา จนระยะหลัง พี่ๆเพื่อนๆรู้ว่าเราเป็นอย่างนี้

ต่อมาสำนักงานอัยการสูงสุดในสมัยที่ท่านเรวัต ฉ่ำเฉลิม เป็นอัยการสูงสุด ท่านมีแนวคิดนี้ท่านบอกว่าท่านจะไม่ให้ความสนใจคดีที่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องสักเท่าไหร่แต่ท่านจะให้ความสนใจคดีที่สั่งฟ้อง เพราะนั่นคือสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่อยู่ในมืออัยการ ถ้าเราสั่งฟ้องชุ่ยๆคนที่เดือดร้อนคือประชาชน

บรรพอัยการในอดีต ที่มีแนวคิดว่าถ้าคดีห้าสิบห้าสิบให้สั่งฟ้องไว้ก่อนนั้น เป็นรูปแบบการทำงานที่วิเคราะห์ข้อเท็จจริงว่ามีพยานหลักฐานพอฟ้องหรือไม่ ถ้าพอฟ้องก็สั่งฟ้อง ซึ่งเป็นไปตามยุคสมัยและแนวความคิดของสังคมในยุคนั้นๆ พอมาถึงปัจจุบันมองแค่นี้ไม่พอแล้ว เพราะเราต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาและรวมไปถึงสิทธิของผู้เสียหายด้วย

ถอยหลังไปเมื่อประมาณ ๒๐ กว่าปีที่แล้ว กรมอัยการมีแนวความคิดที่จะนำการชะลอการฟ้องมาใช้ แต่ถูกคัดค้านจากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมจนไม่สามารถเกิดขึ้นได้ ทั้งๆที่บรรพอัยการยุคนั้นเริ่มมีความคิดก้าวหน้าเรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพให้แก่ประชาชน และลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ซึ่งหน่วยงานอื่นยังไม่มีใครพูดถึงยุติธรรมทางเลือก แต่เราคิดจะทำ และถูกคัดค้านจนหงายเก๋งไม่เป็นท่า…

แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน ตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของยาเสพติด ผู้ต้องขังในเรือนจำส่วนใหญ่เป็นนักโทษคดียาเสพติด แถมคดีอื่นๆก็เพิ่มปริมาณมากขึ้น อัยการหอบสำนวนไปศาลคนละห้าหกเรื่อง ศาลก็แทบไม่ต้องเงยหน้าจากบัลลังค์ เพราะคดีเยอะมาก บางทีเรื่องเล็กๆน้อยก็ฟ้องกัน พอเศรษฐกิจไม่ดีก็จะมีคดีเช็คเยอะมาก นอกนั้นก็จะมีคดีเกี่ยวกับการจราจร จนต้องมีการรณรงค์เมาไม่ขับ และคดีอื่นๆอีกมากมาย ฉ้อโกง ยักยอก ลักทรัพย์ ทั้งๆที่บางเรื่องหากจะว่าไปแล้วฟ้องไปก็ไม่แน่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือไม่ เช่น มะม่วงเขาไปลักทรัพย์ของลำไยในเวลากลางคืน ลำไยรู้สึกตัวตื่นเห็นมีคนเข้ามาในบ้านตะโกนถามแล้วก็เฉย และไม่รู้ว่าคนที่บุกรุกมีอาวุธหรือไม่ก็เลยใช้ปืนยิง มะม่วงพยายามหลบหนีจึงถูกลำไยยิงเข้าที่กระดูกสันหลัง กลายเป็นคนพิการช่วยตัวเองไม่ได้ไปไหนมาไหนไม่ได้ ใช้กรรมที่ตนก่ออยู่/หรือลิ้นจี่ ขับรถไปทำงาน ทุเรียนถีบจักรยานพาลูกไปโรงเรียน แต่จักรยานเสียหลักลิ้นจี่เฉี่ยวชนเข้าให้ ทำให้ทุเรียนขาหัก แต่หลังเกิดเหตุลิ้นจี่ก็ช่วยพาทุเรียนไปส่งโรงพยาบาลรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด และมาแจ้งเหตุที่โรงพัก แสดงความรับผิดชอบ ท่านคิดว่าคนอย่างลิ้นจี่รู้สำนึกในความผิดของตัวหรือไม่ มีความรับผิดชอบต่อสังคมหรือไม่ คนอย่างนี้ควรถูกฟ้องหรือไม่

เหตุเหล่านี้ เราก็รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดกฎหมาย แต่ฟ้องคนพวกนี้แล้วมันก่อให้เกิดประโยชน์ใดแก่สังคมบ้าง กรณีมะม่วงจะไปศาลทีก็ต้องมีคนพาไป ศาลตัดสินจะลงโทษจำคุกก็ไปลำบากเรือนจำเขาอีก หรือกรณีลิ้นจี่ จะให้ศาลพิพากษาลงโทษเพื่ออะไร เพื่อให้รู้สำนึกความผิดหรือ ท่านคิดว่าลิ้นจี่รู้สำนึกแล้วหรือไม่

เมื่ออัยการเสนอยุติธรรมทางเลือกในการชะลอการฟ้อง เรารับฟังเสียงจากประชาพิจารณ์ทุกอย่างดูดีมากเลยครับ สื่อมวลชนก็สนับสนุน ประชาชนที่มาฟ้งเหตุผลจากอัยการก็ต่างพูดกันว่าอัยการทำดี ส่งร่างกฎหมายชะลอการฟ้องไป ครม.ก็เห็นด้วย ส่งไปกฤษฎีกาเพื่อให้ตรวจร่างกฎหมาย ออกมาเป็นคนละเรื่องกับที่อัยการเสนอ เพราะของกฤษฎีกาจะให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัยว่าจะชะลอการฟ้องหรือไม่ ถ้าเป็นยังงั้นแล้วเราจะสั่งชะลอการฟ้องไปเพื่ออะไรในเมื่อเรากำลังหาวิธีการใช้ยุติธรรมทางเลือกเพื่อลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ถ้าเสนอศาลอีกแล้วมันจะลดปริมาณคดีสู่ศาลตรงไหน งง จริงๆ

พออัยการเสนอเรื่องชะลอการฟ้อง ทำไมเขาถึงได้สงสัยกันนักว่าอัยการกำลังอยากจะได้อำนาจเพิ่มหรืออย่างไร การชะลอการฟ้องเหมือนกับที่ศาลรอการลงโทษไหม ทำไมเขาคิดถึงแต่เรื่องเหล่านี้ ทำไมไม่มองว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างหรือไม่ หรือมองอัยการในแง่ดีบ้างได้ไหม เพราะอัยการรุ่นใหม่เขามองสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นหลัก

ผมเขียนเรื่องนี้ เพราะวันนี้เราสัมนาเชิงปฏิบัติการในเรื่องการใช้ยุติธรรมทางเลือก การชะลอการฟ้องเป็นส่วนหนึ่ง แต่เรายังพูดกันถึงการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทในคดีอาญา แพ่ง และคดีปกครอง บทบาทของพนักงานอัยการ วิธีการ ร่างระเบียบ และร่วมกันแสดงความคิดเห็น พรุ่งนี้จะมาเล่าให้ฟังว่า เราพูดเรื่องอะไรกันบ้างครับ

Post to Twitter Post to Facebook

« « Prev : บันทึกถึงลูกสาว๕

Next : อัยการกับยุติธรรมทางเลือก๒ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

8 ความคิดเห็น

  • #1 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2009 เวลา 22:33

    อิอิ  มานั่งฟังทั่นอัยการบ่น  อิอิ

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 23 พฤษภาคม 2009 เวลา 23:31

    การที่อัยการบันทึกและเล่าสู่สาธารณะเช่นนี้ คือการประชาสัมพันธ์งานของอัยการส่วนหนึ่ง เป็นการสร้างความเข้าใจให้แก่สาธารณะอีกทางหนึ่งด้วยครับ

  • #3 ป้าหวาน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2009 เวลา 7:12

    ขอบพระคุณแทนประชาชนธรรมดาค่ะ  ความฝันอันสูงสุดก็เป็นจริงสัมผัสได้จากบทความนี้  เรายังมีคนดีศรีอยุธยาอยู่เสมอ  ขอบพระคุณค่ะ

  • #4 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2009 เวลา 7:19

    อิอิ ท่านจอมป่วน..ผมมาบ่นเป็นตัวอักษร เพราะส่วนใหญ่อัยการเขาบ่นให้ฟังกันเองชาวบ้านชาวช่องไม่ค่อยได้รับรู้หรอกว่าอัยการเขาบ่นยังไง และไม่รู้ว่าอัยการเขาทำอะไร ไม่รู้หรอกว่าชื่อเสียงอัยการที่ได้ชื่อว่าเป็นพวกกินสินบาทคาดสินบนนั้น เดี๋ยวนี้สถิติอัยการที่ถูกร้องเรียนน้อยที่สุดในหน่วยงานอื่นดในกระบวนการยุติธรรมด้วยซ้ำ
    อิอิ บ่นแล้วมีคนฟังก็ดีนิ…อิอิ

  • #5 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2009 เวลา 7:22

    ท่านรองอัยการสูงสุดแซวอยู่ว่าน่าจะพาไปอยู่ส่วนกลาง แต่ท่านอธิบดีอัยการเขต ๘ ซึ่งเคยเป็นอัยการจังหวัดสมัยผมเป็นอัยการผู้ช่วยใหม่ที่ตรังและรู้มือผม บอกท่านรองอัยการสูงสุดและอธิบดีอัยการฝ่ายวิชาการว่า ใช้ให้ผมทำอะไรก็ได้เพราะทำได้หลายอย่าง แต่ให้มันนั่งทำที่ภูเก็ต หัวเราะกันทั้งโต๊ะ เพราะผู้ใหญ่รู้ดีว่าผมอยู่ภูเก็ตมา ๑๙ ปีแล้ว อิอิ

  • #6 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2009 เวลา 7:27

    ขอบคุณป้าหวานที่แวะเข้ามาเยี่ยมครับ อย่ายอมากเกินครับเดี๋ยวเหลิง อิอิ

    ผมว่าอัยการอ่อนด้อยเรื่องประชาสัมพันธ์ อ่อนด้อยเรื่องการทำความเข้าใจกับสังคมในสิ่งที่อัยการเป็นอยู่ และอัยการไม่ค่อยออกมาสู่โลกภายนอก ส่วนใหญ่จะมีโลกอยู่ภายในเขตพื้นที่ตัวเอง เช่น อัยการพังงาก็จะมีคนรู้จักเฉพาะพังงา อัยการกระบี่ก็มีคนรู้จักเฉพาะกระบี่ มีแต่อัยการชาวเกาะที่คนรู้จักมากกว่าเพื่อนหน่อยเพราะไม่รู้อยู่เกาะไหน สงสัยจะอยู่เกาะแกะ อิอิ
    วันนี้ผมจะนำเรื่องดีๆของยุติธรรมทางเลือกมาเล่าต่อครับ

  • #7 Sely ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2014 เวลา 4:57

    Your posting really stengihteard me out. Thanks!

  • #8 cheap coach purses ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 ตุลาคม 2014 เวลา 6:19

    Its like you read my mind! You appear to know so much about this, like you wrote the book in it or something. I think that you can do with a few pics to drive the message home a bit, but other than that, this is excellent blog. A fantastic read. I will certainly be back.
    Coach Outlets Coach Factory Store Ugg Outlet Online Store Coach Bag Outlet.


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.76525187492371 sec
Sidebar: 0.26126408576965 sec