เซอไพร๊ท์
อ่าน: 1768วันนี้ขอไฟเขียวลูกชายไปเที่ยว ขนเอาลูกน้องรวม 5 ชีวิตและเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัสดุไปเที่ยวด้วยกันเป็นเรื่องที่ไม่นึกฝันว่าพวกเขาจะยอมไปด้วยโดยสมัครใจกันเอง นอกจากพวกกันเองแล้วก็มีนักเรียนแพทย์ต่างชาติคนหนึ่งไปด้วย
ตะลอนกันไปหลายที่ แวะไปท่าปอมเที่ยวเป็นที่แรก ไปแล้วเจอทีมหมอฟันมาจากภาคกลางช่วยเอื้ออำนวยถ่ายภาพหมู่ให้ หมอฟันทีี่พบกันนี้อยู่ในส่วนเอกชนและส่วนภาครัฐ สองคนทำคลินิกส่วนตัว ส่วนอีกหนึ่งคนสังกัดทหารเรือ พวกเธอมาเที่ยวตัวเปล่า แล้วมาเช่าเหมารถขับเที่ยวเอง มิตรภาพเกิดขึ้นง่ายๆด้วยเรื่องการคุยเล่นๆระหว่างที่มีการถามไถ่เส้นทาง ละจากกันที่ท่าปอมโดยพวกเธอนั้นจะไปเที่ยวต่อที่น้ำตกร้อน แนะนำเส้นทางให้แล้ว บ๊ายบายจากกันด้วยความสุขใจ
เที่ยวเล่นกันที่ท่าปอมแล้วก็พบว่าน้ำลงไปซะแล้ว เปลี่ยนแผนไปต่อที่ไหน นั่งคิดกันนานแล้วตัดสินใจ ไปต่ออำเภออ่าวลึก ไปนั่งเรือเล่นในป่าโกงกาง ปีนถ้ำดูภาพเขียนโบราณแล้วสัมผัสธรรมชาติที่นั้นก็ดี ว่าแล้วก็ไปกันต่อ แต่ก่อนจะเที่ยวควรทำให้อิ่มท้อง เส้นทางที่ผ่านนั้นไปถึงท่าที่สามารถหาอาหารทะเลอร่อยๆกินได้ ก็เลยไปที่แหลมสักซึ่งเป็นท่าเรือที่ต่อไปเกาะยาวได้ แวะกินอาหารเที่ยงที่นี่ เสร็จแล้วจึงต่อไปที่เป้าหมาย มีเด็กตัวน้อยลูกสาวเจ้าของเรือที่จะใช้ล่องเที่ยวป่าอาสากันมาเป็นไก๊ด์น้อยให้สนุกกันเชียว
เที่ยวกันจบทุกคุ้งน้ำ พากันขึ้นบกต่อมาที่น้ำตกธารโบกขรณี ได้เห็นต้นไม้เติบโตเจริญเป็นศรีชุ่มฉ่ำเย็นใจ สบายใจกับการได้เห็นต้นไม้ 3 ต้นปลูกโดยพระหัตถ์พ่อแม่ของแผ่นดินและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา่เจริญเติบโต 3 ต้นยังอยู่เป็นศรีอยู่ในป่านี้เป็นขวัญกำลังใจให้ เอะใจอยู่บ้างที่เห็นต้นที่ปลูกโดยฝีพระหัตถ์ของสมเด็จแม่โตใหญ่กว่าต้นอื่น ไม่มีความรู้เรื่องดินจึงไม่สามารถวิเคราะห์เหตุผลได้
เดินทั่วเขตของน้ำตกก็เย็นลงแล้ว ชวนพากันกลับ กลับมาถึงที่บ้านนั้น มีแต่บ้านว่างไม่มีผู้คน นึกได้ลูกชายเรียนอยู่และในวันนี้จะกลับบ้านค่ำ แต่เอ คุณสามีไปไหน ทุกครั้งเวลานี้จะอยู่บ้านพักผ่อน
จัดการตัวเองให้พัก ผ่อนคลายความร้อนที่รับมาจากนอกบ้าน แล้วก็นั่งดูหนังตอนที่ในวันนี้เปลี่ยนเรื่องใหม่แล้ว หนังที่นั่งดูอยู่นั้นเป็นหนังเกาหลีที่อ่านชื่อแล้วเดาว่าเป็นเรื่องการกู้ชาติของชนเผ่า นั่งดูไปได้สักครู่ เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นมา หันหน้าไปดูแล้วแปลก…..
เรื่องที่ทำให้แปลกใจสุดๆ….ก็คือได้เห็นคุณสามีที่รักเธอทำอะไรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยตลอดชีวิตที่แต่งงานมา นั่นคือ มือขวาของเธอถือกุหลาบสีแดงติดมือชูอยู่ เมื่อเห็นว่าฉันเอนดูทีวีอยู่ เธอเดินเข้ามาแล้วส่งมันให้ รู้สึกเหมือนเป็นอัตโนมัติ ฉันยื่นมือไปรับแล้วเหลือบมองดู เสียงดังเข้าหู “ดอกไม้เอามาให้” ได้ฟังใจไม่ได้เต้นตึกตัก มีแต่แปลกใจนักวันนี้เธอเป็นอะไรจึงทำเซอไพร๊ท์เอาดอกไม้มาให้ หัวใจที่กำลังมีคำถาม นี่เธอโรแมนติกขึ้นมาหรือไง สัมผัสความรู้สึกตัวเองได้ว่า พอใจอยู่ไม่น้อยที่เธอนำดอกไม้มาให้
ลุ้นอยู่ว่าจะบอกอะไรที่นำมันมาให้โดยไม่ได้นึกว่าจะทำ อยากรู้กันบ้างมั๊ยค่ะ ว่าคำ่พูดต่อมาเธอบอกอย่างไร
เธอบอกมาว่าอย่างนี้ “วันนี้ไปช่วยบ้านคนรู้จัก เขามีเรื่องทำบุญที่เกี่ยวกับการทรงเจ้า จึงไม่ได้บอกกัน..กุหลาบดอกนี้พระให้นำมาฝาก”
ฟังแล้ว…ได้แต่…เฮ้อ….หมดมู๊ดเลย…สามีฉัน..อิอิอิ……แต่ก็ยังรู้สึกดี..ดี…ก็หลังจากวันแต่งงาน….นี่คือดอกกุหลาบ..หรือดอกไม้ดอกแรกที่มอบมาให้
13 ธันวาคม 2552
« « Prev : โอ๊ยๆๆๆ
Next : ได้จ๊ะ ขอโทษจ๊ะ ดอกไม้นะจ๊ะ เครื่องเพชร??????? » »
4 ความคิดเห็น
พี่ตาจ๋า..
ดอกไม้ที่เฮียเอามาให้ ยังดูสดใหม่และสวยงาม น่าจะประคับประคองมาอย่างดี แถมได้มาจากพระอีก ^__^
แต่ว่า…ตอนให้น่ะ เห็นภาพแล้ว ตอนขอบคุณล่ะคะ..เป็นอย่างไร…อิ อิ
คนพูดไม่เก่ง แต่ใจจริงมีค่ากว่าคำพูดหวานๆ คนไม่แสดงออก แต่ในใจ มีรักมากมายเต็มอยู่ในนั้น แคว๊กๆๆๆ นะคะพี่หมอเจ๊ …..กล้าเอาดอกไม้มาให้เนี่ย..กล้าสุดๆแล้วค่ะ ดูดอกไม้สิ ดอกกุหลาบแดงอ่ะนะ… กิ๊วววววววว….
สวีทซะ มดขึ้นคอมเลย…อิอิ
อิอิ….อย่าอิจฉาาาาาาาาาาาา