หมอเจ๊เล่าเรื่อง

ร่างกายที่อยู่ในโหมดอดอาหารมาช่วงหนึ่ง จะมีการเผลาผลาญพลังงานต่ำลง จนกลายเป็นภาวะจำศีล วัดการเผาผลาญพลังงานก็จะพบต่ำอย่างที่เจอในกลุ่มพี่น้องชาวเฮ

ภาวะอดอาหารอาจทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารหรือไม่เกิดก็ได้  ที่เกิดแน่ๆคือทั้ง 2 ภาวะมีเรื่องของการปรับการใช้พลังงานที่ต่างกัน มีการสะสมอาหารไว้ต่างไป

ธรรมชาติได้สร้างกลไกของการเก็บสะสมอาหารไว้เป็นอัตโนมัติ และกำหนดรูปแบบการสะสมส่วนเกินเป็นไขมัน  เก็บมากก็ทำให้รูปกายขยายกลมกลึง ท้วม อ้วน จะเป็นรูปไหนก็อยู่ที่เก็บไขมันไปสะสมไว้ส่วนไหน

การอดอาหารที่ทำให้กลูโคส ไขมัน และกรดอะมิโนในเลือดลดลงๆ จะทำให้มีการใช้พลังงานจากไขมันสะสม

ในทางกลับกันเมื่อไรที่อยู่ในโหมดลดการใช้พลังงาน  แต่อาหารที่กินไปทำให้กลูโคส ไขมันและกรดอะมิโนในเลือดเพิ่มขึ้น  จะเกิดภาวะ “อ้วนเด้งกลับ”

ตรงนี้แหละ ที่เรียกกันว่า “โย-โย่”   ที่เกิดโย-โย่ ก็เพราะกลไกการเก็บสะสมอาหารอัตโนมัติทำงาน ใช้ไม่หมดก็นำไปเก็บเป็นไขมัน

การอดที่ทำให้เกิดภาวะอดอาหารนานกว่า 48 ชั่วโมง  เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ไม่ต้องการให้เกิดโย-โย่ ก็ต้องมีวินัยเรื่องเวลากิน และมีวินัยในการเลือกกิน วินัยในที่นี้หมายถึง “จำได้ ว่าทำอะไรกับตัวเองไว้บ้าง”

ชวนพ่อครูย้อนไปทำความเข้าใจการดูแลพลังงานที่เคยคุยให้ฟัง  ตอนนั้นคำนวณว่า แต่ละวันพ่อครูน่าจะใช้ 1,200 แคลอรี่ต่อวัน พุงยังโต วันนี้วัดกันใหม่ พลังงานที่ใช้จริงอยู่ที่ราวๆ 1,400 แคลอรี่ เกินจากตอนนั้นอีก แต่พุงลด

การใช้กล้ามเนื้อต่างกันแค่ไหน ตรงนี้ไม่รู้ มีแต่พ่อครูรู้

เมนูที่กินมีผักผัดบ้าง ต้มบ้าง เป็นสลัดบ้าง เมนูนี้ช่วยลดพุง

ลดมื้อกิน เป็น 2 มื้อบ้าง กินช้าบ้าง เป็นการปรับกลไกอด

วันนี้ต้องเพิ่มการใช้กล้ามเนื้อ  เพื่อไม่ให้แฟบ มีพอให้สะสมกลูโคสไว้ใช้ 24-48 ชั่วโมง มีไขมันให้ใช้ได้ 10-15 สัปดาห์ โดยไม่เพิ่มพุง จะทำยังไง

การกินอาหารแบบฤาษีที่ส่งโหมดลดการใช้พลังงานมาให้   เมื่อจำต้องปรับเมนูอาหารใหม่ เพื่อเติมเต็มส่วนซึ่งให้สุขภาพที่ต้องการไม่ได้ ดูๆแล้วก็เลี่ยงโย-โย่ไม่ได้อยู่ดี

ถ้าจำเมนูได้ การปรุงเมนูเอง ก็ยังควบคุมโย-โย่พอได้  คราวนี้ไปสวนป่าได้ชิมน้ำต้มผักสารพัดชนิด ก็นึกได้ว่าเคยเขียนบันทึกนี้ไว้ ขอชวนพ่อครูไปอ่านซ้ำ แล้วนำมาใช้ป้องกันโย-โย่

สำหรับเมนูผัก ก็ใช้หลักระวังจำนวนพืชอาหารที่ให้น้ำตาล จะเป็นผักหรือเป็นผลไม้ก็ตามก่อโย-โย่ได้

เมนูอื่นที่ขอชวนให้ระวัง ก็เป็นเมนูทอดๆ ผัดๆ   โดยเฉพาะเมนูไข่เจียวซึ่งเป็นของชอบ

เพื่อประโยชน์ในการช่วยสร้างกล้ามเนื้อ ก็ขอชวนให้หันมอง ไข่ขาวต้มค่ะ ถ้าไม่ขัดกับหลักกินของอาจารย์ใหญ่สมบูรณ์ ขอชวนให้ลอง

เมนูประจำที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ น้ำมะขามผสมน้ำผึ้งที่เป็นน้ำสลัด มะเขือเทศ มัน ไข่ทอด ไข่ต้ม สังเกตผลการเปลี่ยนน้ำหนักประจำวันกับปริมาณที่กินไว้  ถ้ากินแล้วน้ำหนักเพิ่ม ให้ปรับจำนวนลง เพิ่มอย่างอื่นที่มีน้ำตาลน้อยแทนนะคะ

« « Prev : รักสุขภาพ ก็ต้องดูแล กล้ามเนื้อ และ ตับ ให้ดี

Next : วิธีเลี้ยง-เพาะกล้ามเนื้อด้วยอาหาร » »